ความสุขของชีวิต คือ การได้อยู่ใกล้กับคนที่เรารักและรักเรา
ความอบอุ่นจากคนที่เรารักและรักเรานั้นจะแทนที่ความเหงาและความอ้างว้าง
ในวันนี้สังคมในระบบทุนนิยม "วัตถุนิยม" ได้ฉุดกระชากตัวเราใ้ห้เดินออกจากความอบอุ่นจากคนที่เรารักและรักเรานั้น
คนเราจึงต้องวิ่งหาความรักจากใครต่อใคร อะไรต่ออะไร เพื่อชดเชย "ความอบอุ่น"
รักใดเล่า จะแท้ เท่าแม่รัก
แม่ฟูมฟัก กล่อมเกลี้ยง ทะนุถนอม
เหล่าแมลง เหลือบ ลิ้น ไร ไม่ใ้ห้ตอม
เฝ้าถนอม จอมขวัญ ลูกรักเอย...
หากเปิดใจให้รักแม่ได้ เราก็จะซึบซับความรักที่มีต่อแม่ ให้เป็นมิตรกับสรรพสิ่งบนโลกใบนี้ได้อย่างไม่ยากเย็น
บันทึกนี้งามนัก
ขอบพระคุณอาจารย์มากนะครับ
สวัสดีค่ะอาจารย์
เป็นภาพที่น่ารักจังค่ะ ชวนยิ้มได้แต่เช้าเลยค่ะ
อุ่นไอรักอุ่นละมุน
ขอน้ำนมอุ่นจากอกของแม่ดื่มกิน
ไพเราะจังครับ
ความอบอุ่นคือความสมดุลระหว่างความร้อนและความหนาวเย็น
ในสังคมเราทุกวันนี้กลางวันช่างร้อนด้วยไฟแห่งความทะยานอยาก ที่สื่อทั้งหลายต่างอัดความรู้ ความคิด ความฝัน ให้เราต้องดิ้นรน ขวนขวายให้ได้มาตามสิ่งชั่วเร้นที่แฝงมาตาม อากาศ และ กระดาษทั้งหลาย
ย่ามกลางคืนในสังคมก็ช่างเหน็บหนาว สิ่งแวดล้อมรอบตัวก็เต็มไปด้วยภยันตรายที่สามารถกล้ำกลายเข้ามาได้แม้กระทั่งบนเตียงนอน
ยามเด็กจิตของเราจะจดจำความอบอุ่นที่ "สมดุล" ได้ครั้งที่คราวเราอยู่บนตักและภายใต้อ้อมกอดรักของ "แม่"
ครั้นที่เราโตขึ้นต้องก้าวขาออกจากบ้านมาเรียน มาทำงาน จิตของเราก็จะไขว่คว้าหาความอบอุ่นที่ "สมดุล" นั้น
คนเราจึงต้องแสวงหา ไขว่คว้า "ครอบครัว" โดยหวังว่าเขาหรือเธอจะมาเติมความร้อนที่ขาดหายในยามค่ำคืน หรือสามารถมีน้ำเย็น ๆ มาป้อมให้เมื่อยามตื่นในคราที่ชีวิตต้องไหลลื่นไปตามกระแสความร้อนแห่ง "สังคม"
แต่ทว่า... ต่างคนก็ต่างต้องการความสมดุลนั้น แต่ละคนจึงตั้งเป้าหมายว่า เขาหรือเธอคนนั้นจะต้องเป็นผู้มา "เติม" ให้กัน
เมื่อแต่ละคนหวังว่า เขาหรือเธอจะเติมให้ได้ จิตใจของเราก็จะสร้างความหวังขึ้นมา ครั้นเมื่อแต่ละคนไม่ได้ตั้งใจมาให้ แต่ตั้งใจมาเอาในสิ่งที่ขาดหาย ชีวิตครอบครัวก็ล่มสลายเพราะต่างไม่สมหวังดังตั้งใจ
ชีวิตครอบครัวคือชีวิตที่จะต้องให้ ต้องมอบความสมดุลแห่งความอบอุ่นให้แก่กันและกัน
ที่ชีวิตของฉันและเธอจึงต้องอยู่กับความจริงที่ไม่ละเมอไปกับโลกแห่งความฝัน
ถ้าหากความอบอุ่นที่เหมาะสมกับร่างกายคือ 37 องศาเซลเซียส เราก็ต้องพยายามประคองอุณหภูมิของครอบครัวได้ให้ 37 องศาเซลเซียสนั้น
ไม่มีสงครามเย็น ที่แต่ละคนบึ้งตึ้งใส่กันจนหนาวจับจิต
ไม่มีการสาดอารมณ์ ที่แต่ละคนต่างเก็บและกดไว้เมื่อชีวิตต้องทนอยู่ในที่ทำงาน
เมื่อกลับบ้าน เขาหรือเธอจะต้องสร้างบรรยากาศความรัก "ความอบอุ่น" ให้กันและกัน
โดยคิดถึงวันที่แม่โอบกอดเราทุกครั้งที่เราถือกระเป๋านักเรียนกลับเข้าถึงบ้าน
ข้าว ปลา อาหาร ที่แม่ตั้งเตรียมรอเราไว้
ความปลอดภัยจากศัตรูและอันตรายที่ได้รับจากพ่อ
เรามีหน้าที่ที่จะต้องเติมความร้อนและความเย็นให้พ่อดี
ถ้าหากใครร้อนมา ก็ใช้รอยยิ้มที่เย็นใจมอบให้แก่กัน
ถ้าหากใครเย็นมา ก็ใช้รอยยิ้มที่แสนอบอุ่นเพิ่มอุณหภูมิความรักภายในครอบครัว
รอยยิ้มจึงเป็นอุปกรณ์ชิ้นแรกที่ใช้ได้และหาได้ง่ายที่สุดที่เราจะมอบให้แก่กันและกัน
มาร่วมกันสร้างความสมดุลแห่งความอบอุ่น
เพื่อตัวเรา ครอบครัวของเรา และสังคมของเราจะได้อบอุ่น อยู่รอด และปลอดภัย...