เปิดใจนินทาครู ภาคที่ ๒
ว่างเว้นจากการกล่าวพูด-คุยเรื่องต่างๆ ของคุณครู(นินทาครู) มาเนิ่นนาน เก็บข้อมูลทั้งจากประสบการณ์ตรง-ทางอ้อมมาเล่าขานเพื่อสะท้อนความคิดในอีกมุมหนึ่งแบบขำขัน.... คลายเครียดเล่นๆ (โดยไม่รู้สึกผิด) 
" ถามจริงเหอะ.....เอางบประมาณไปซิ้อกระเบื้อง-หินอ่อนมาปูพื้นนี่ช่วยให้นักเรียนเขาพัฒนาสมองขึ้นบ้างไหม (ฮา...) การใช้เงินหลวงแบบปล่อยปละละเลย ไม่คุ้มกับค่า... ก็ไม่ต่างไปจากการคอรัปชั่นฉ้อราษฎร์บังหลวงหรอกนะ "
” คนที่ไม่เคยเป็นลูกน้องที่ดี อย่าหวังว่าจะเป็นเจ้านายที่ดีได้ (เต็มๆ) ”
การศึกษาปัจจุบัน เน้นให้ครูเขียนแผนการสอนและทำวิจัย(แก้บน) กันอย่างจริงจัง แบบเอาเป็น-เอาตายกันไปข้างหนึ่ง(ครูไม่ตายก็เฉาไปเลย) แต่ผลการวัด-ประเมินผลจากการสอบ Ｏ-ＮＥＴ / Ａ-ＮＥＴ ออกมาว่าคุณภาพต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐาน ....
" ปัทโธ่ ก็พี่ต้องสอนแทนประจำเพราะเพื่อนครูเขาขอเวลาไปทำวิจัยแทนที่จะสอน.... " ฮา
“ ตอนสอบบรรจุได้ ดีใจมากเลย ที่ได้เป็นครู.... แต่พอเขาอนุมัติให้ออกได้.......ดีใจกว่าหลายเท่า ” แรง……!
" วัยขนาดเรานี่ต้องบำรุง-เสริมสมองเพิ่มเติมแล้วหละ อาหารเสริมตัวนี้ดีมากเลยนะ .. กินแล้วความจำดีมาก พี่กินเป็นประจำเลย "
" เหรอคะ ชื่ออะไรนะ "
" เอออออ .... นั่นซิ ชื่ออะไรน๊า นึกชื่อไม่ออกจริงๆ มันติดอยู่ที่ริมฝีปากนี่แหละ แต่กินแล้วความจำดีมากๆเลยนะ " ( จะกินดีไหมเนี่ย)
“ ไม่ต้องทำหนังสือไปขอตัวหรอก เดี๋ยวลามาเอง..... เบื่อ ”
“ ยังใช้สิทธิ์การลาได้อยู่เหรอคะ ”
“ ได้ถึง ๑๑ ครั้ง ครั้งที่ ๑๒ เขาก็เชิญออกแล้วหละ ” 555
" นี่เธออยู่สอนเด็กบ้างไหมเนี่ย " ผู้บริหารระดับเขตที่ค่อนข้างสนิทสัพยอก(แบบเอาจริง)
" สอนซิคะ ก็แลกคาบมา- ไม่งั้นก็นัดสอนเพิ่มเติม รับรองว่าครอบคลุมเกินเนื้อหาที่หลักสูตรฯ กำหนดอยู่แล้ว การที่ครูไม่อยู่สอนบ้างน่ะ ดีต่อเด็กๆ ออก เขาจะได้มีเวลาคิดวิเคราะห์- สร้างสรรค์ ไม่ใช่มัวแต่เอากะลาไปครอบไว้.... ขีดเส้นให้อยู่ในกรอบแบบครอบงำ .... เด็กโง่ตายเลย คิดไม่เป็น-เอาตัวไม่รอด ดูผลสัมฤทธิ์ที่ออกมาซิคะ "
" พอๆ ไม่ฟังแกแล้ว " วิ๊ว.....!
" ช่วงปิดกีฬา.....เด็กหยุด แล้วครูต้องมาเซ็นชื่อทำงานด้วยเหรอ "
" เซ็นต์ซิ.....ถือว่ายังต้องทำงาน "
" อ้าว....แล้วที่โรงเรียนเราเปิดก่อนตั้ง 2 สัปดาห์ ไม่ถือว่าชดเชยไปแล้วเหรอ "
" จะเอาเงินเดือนหรือเปล่า ถ้าเอาก็ต้องทำงาน "
" ปัทโธ่ ทีทำงานเกิน ทั้งวันหยุด- เวลานอก ยังไม่เคยได้โอทีเลย ถ้าคิดกันจริงๆนะ ทำให้มากกว่าด้วยซ้ำ ทุกวันทุกเดือน ไม่ได้เอาเวลาไปทำมาหากินสอนพิเศษเพิ่มที่ไหน คิดเป็นเงินเดือนๆ ก็หลายหมื่นละว้า เสียสละขนาดไหน ค่าอุปกรณ์ ค่าไฟ ก็เงินส่วนตัวทั้งนั้น "
" ก็เราเป็นข้าราชการ ฯ "
" งั้นคำที่ว่า จะเอาเงินเดือนหรือเปล่า ถ้าเอาก็ต้องทำงาน นั่นมันก็ไม่สมควรจะพูดหรอก (เว๊ยยยยย) " ..... 555 
" งอนแล้วนะ ไม่เห็นดีใจกับศิษย์ที่ Admission ติดเลย " ลูกศิษย์สาว Posted ต่อว่าขึ้น Facebook
" ใครว่า .... คุยไป ๓ ตลาดแล้วจ้า ...ว่าลูกศิษย์สาวใสได้เรียนที่จุฬาฯ "
" โรงเรียนเก่งที่สุดอันดับ ๑-๑๐๐ ของประเทศไทย เฮๆๆๆๆๆ อันดับ ๑-๕ ได้แก่….. "
" โธ่เอ๊ย ก็รู้ๆ กันอยู่โรงเรียนพวกนั้น มีโอกาสได้คัดเด็กหัวกระทิอันดับ ๑-๕ ทุกภาคส่วน-ทุกจังหวัดไปรวมกันอยู่ ครูแค่ขยับปาก ยังไม่ต้องเอื้อนเอ่ยคำพูดออกมาก็เข้าใจแล้ว แทบจะไม่ต้องสอน เพราะเด็กพวกนี้สมองดี-ฐานะพร้อม ขยันศึกษาเล่าเรียน ไปใช่เขาโง้ง-ครอบครัวไม่ใส่ใจ – ติดเกม – มัวเมาแต่เรื่องไร้สาระ ฯลฯ " ( ฟังดูมีเหตุเป็นผลให้ชะงักในข้อเท็จจริงได้เยอะนะนั่น)
" ผลงานเยอะขนาดนี้ .. พี่คงได้ขั้นบ่อยเลยมั้ง เงินเดือนคงรับเยอะมังครับ" รุ่นน้องสนิทคนหนึ่งได้พบเจอในงานมหกรรมทางการศึกษาทั้งระดับภาคและระดับชาติเอ่ยถามอย่างใคร่รู้
" ผิดไปละ .... บรรจุงานรุ่นเดียวกัน แต่เงินเดือนพี่น้อยกว่าพวกเกือบหมื่นบาทจ้ะ ที่นั่นเขาไม่ดูผลงานหรอก เขาดูว่าคุณเฝ้าโยงอยู่โรงเรียนขนาดไหน ต้องพูดจาอ่อนน้อม คะขา- ดีครับท่าน เยี่ยมค่ะนาย ไม่ใช่เถียง(เรื่องงาน) ปากกล้า แบบนี้ เขาไม่หักเงินเดือนก็บุญแล้ว ผลงานเหรียญทองระดับชาติที่ส่งเสริมเด็กๆ ลงทุน-ทุ่มแรงแบบนี้เขาไม่มองหรอกจ้ะ พี่ก็ไม่ค่อยจะอยู่ช่วงเวลาที่เขาเสนอหน้าพิจารณาขั้นกันด้วย ไม่เป็นไรหรอก หยวนๆ กันไป คิดเพียงแค่ได้พัฒนาเยาวชน ทำประโยชน์เพื่อประเทศชาติก็พอแล้ว แค่เขาไม่สกัดกั้นให้งานอาสาฯของเราหยุดชะงักก็พอใจแล้วจ้า ( .... วิ๊ว) "
“ต้นไม้ช่วยราชการ ” ชอบสำนวนนี้จัง หุหุหุ...... ภารโรงชอบตัดต้นไม้ ....แบบเหลือแต่กิ่งโด่เด่ ...เกรียนรียบราวกับคนไข้หนักต้องพักฟื้นสัก 6 เดือน .เหตุผลคือ....ใบไม้ร่วงหล่น เป็นงานต้องกวาด แต่การประเมินฯ กรรมการเขาดูเรื่องทัศนียภาพ-ความร่มรื่นด้วยนะ จึงต้องไปซื้อต้นไม้ใส่กระถางมาตกแต่งแทน จึงได้นิยามของคำนี้.....
" ระดับ 9 เขาขนผลงานมากองให้คณะกรรมการมาประเมินมากมาย แล้วระดับ 10 อย่างเธอล่ะ " เพื่อนครูท่านหนึ่ง เอ่ยสัพยอกถามอย่างสะใจ แถมเพิ่มระดับให้แบบประชด-ประชัน
" โห.......คงไม่หรอก.....ถ้าจะขนมาให้กรรมการดูจริงๆนะ อาคารที่มีอยู่ 5-6 แห่งคงไม่พอวาง........แน่ๆ " ( 555)
เทศกาลแห่งการประเมิน ฯ สิ้นเปลืองทรัพยากรน่าดู ......นี่แค่เตรียมข้อมูลพื้นฐานให้ประเมินฯ ยังหมดค่ากระดาษหลายรีม หมึกพิมพ์อีกเป็นหลอดๆ แล้วหากรวมทั้งโรงเรียน ทั้งจังหวัด ทั้งเขตฯ ทั้งประเทศ.....มิน่า....สภาวะ โลกร้อนจึงเพิ่มทวีหลายเท่าตัว
" ทั้งครูและเด็ก ต้องตอบได้นะว่า วิสัยทัศน์ ของโรงเรียนคืออะไร เอกลักษณ์คือ อัตลักษณ์คือ .....พันธกิจ มีอะไรบ้าง ฯลฯ
" ก็แจกใบมาเสียทีซิ......ว่ามีอะไรบ้าง...... สัปดาห์นี้ไม่สอน จะให้เด็กท่องแทน ฮา... "
" ไม่รู้แหละ.....หากกรรมการถามเรื่อง เอกลักษณ์ / อัตลักษณ์....หนูจะส่งใบให้เขาอ่านเองเลย ......" ครูสาวคนหนึ่งเอ่ยแบบเอาจริง 
แถมท้ายด้วย ศัพท์ล้ำ ภาษาเด็กแนวของปี 2011
เช่น…
เฟค (Fake) – การสร้างจินตนาการ/การหลอกตัวเอง
สุดตีน – ที่สุดของที่สุด
โออิชิ – เกิดอาการชาตามร่างกาย
หรูไฮ – ดูดีมีฐานะ
สปก. – หนีเอาตัวรอดไปก่อนเพื่อน (เสือกไปก่อน)
มีองค์ – ใช้เรียกเพื่อนชายที่เป็นเกย์
ด๋อย – เชยๆ เสี่ยวๆ
ชิลๆ – ง่ายๆ สบายๆ
สวยเป๋อ – ผู้หญิงสวยแต่ซุ่มซ่าม
เพียวเค็ม – คนที่งกมากๆ
สะแอ๋ง – ชอบสอดเรื่องชาวบ้าน
ตะไบ – เสริมแต่ง
สลิ่ม – สีสันเสื้อผ้าที่ตัดกันมากเช่น เขียวกับชมพู
เหียก – หน้าตาขี้เหร่มากๆ
ศัพท์กะเทย เช่น…
สลัมบอมเบย์ – ต่ำสุดๆ
กระต่ายป่า – ผู้ชายที่ยังไม่รู้อะไร ดูซื่อๆ
แก่นเซี้ยวเยี่ยวราด – กะเทยที่ไม่เรียบร้อย
สะดือด่วน – ไวในเรื่องเพศ
กทม. – กะเทยเก๊กแมน
ดัดจร – เวิร์บช่อง 3 ของดัดจริต
มิสเปรู – มีเงินเท่าไรให้ผู้ชายหมด
ลูกนายก – ถูกผู้ชายยกเค้าไปหมด
ฉ่ำสะมิหลา สงขลาปัตตานี แฟนตาซีภูเก็ต – เริ่ดหรูหาอะไรเปรียบไม่ได้
ฉ้อราษฎร์ – แย่งแฟนเพื่อน
ปาดหน้าเค้ก – แย่งผู้ชายที่คนอื่นหมายปอง
ซุงแหล – เวิร์บช่อง 3 ของตอแหล
ซิซูกะ – ตะกละ
ออนป้า – แสดงความเป็นป้าสู่สายตาประชาชน
ศัพท์คุณหนู เช่น…
ฝนเริ่มตั้งเค้า – มีใจให้กันหรือตกหลุมรัก
ล็อกอิน (Login) – เชื่อมต่อ
เต่ากัดยาง – ช้ามากๆ
ศัพท์บ้านๆ เช่น…
อย่างหรอย – รากศัพท์มาจากภาษาใต้ แปลว่าสุดยอด เยี่ยมยอด
ต๊ะต่อนหยอน – รากศัพท์มาจากภาษาเหนือ หมายถึงชิลๆ เวอร์ชั่นคำเมือง
คุณนายหอยหอม – หญิงวัย 30 ขึ้นไปแต่งตัวเก่ง ไม่ทำงานช็อปปิ้งอย่างเดียว
กะเทยลุ่มน้ำโขง – สาวประเภทสองที่แต่งกาย แต่งหน้าสีสันฉูดฉาดสรีระ กล้ามเป็นมัด โหนกแก้มสูง
ปริมณฑล – คนไม่ทันสมัยและออกเชยๆ
ตัวอย่าง เมื่อกะเทยกทม.นัดเจอกับกะเทยลุ่มน้ำโขง
กทม : ต๊ายยยยยยยยย… อีด๋อย เดี๋ยวนี้แต่งตัวหรูไฮ ว่าแต่ว่าหล่อนยังทำตัวเป็นมิสเปรู อยู่หรือเปล่าย้า…
ลนข : แหม… ใครจะไปเหมือนหล่อนละย้า… สะดือด่วนปาดหน้าเค้กตลอดเวลา… ซิซูกะจริงจริ๊ง…
กทม : อุ๊ย… นังสลัมบอมเบย์ ชั้นไม่ใช่คุณนายหอยหอมนี่ย้า… ขืนไปทำเป็นฝนเริ่มตั้งเค้า ดักกระต่ายป่า ได้นอนโออิชิกอดหมอนข้างกันมั่งหละ
ลนข : เชอะ… เหียก ๆ อย่างหล่อน ระวังจะเจอลูกนายกเข้าซักวัน
กทม : ก็ยังดีกว่าเพียวเค็มแล้วยังช่อราษฎร์อย่างหล่อนนั่นแหละย่ะ
ลนข : กรี๊ดดดดดดด.....อี สปก.
*** ... ขอขอบคุณภาพประกอบจากเวปไซต์ต่างๆ และขอขอบคุณผู้เข้ามาเยี่ยมชมทุกท่านนะคะ ... ***
ความเห็น (12)
สวัสดีค่ะ
สุดยอดเลยค่ะ ขอสมัครเป็นสมาชิกเรียกใช้ด้วยคนนะคะ นาน ๆ มาเขียนมาซะเกินร้อยนะน้องรัก แค่นี้ก่อนนะคะ เพราะจิ้มด้วยนิ้วซ้ายค่ะ
อิๆๆ ได้ใจค่ะพี่
พี่คิมคะ
*** ครูย่อมเข้าใจความรู้สึกของครูด้วยกันเสมอ อิอิอิ ! ป่านนี้คงสุขี-สุโข...HAPPY สุดๆ เลยมังคะ ขอบคุณนะคะ.....อ้อ....เจ็บนิ้วเหรอคะ? ขอให้หายเป็นปกติโดยเร็ววันนะคะ ***
น้องสรัญญาจ๊ะ
*** .... คงเคยพบ- เจอะเจอประสบการณ์เช่นนี้บ่อยมังจ๊ะ......นี่ขนาด Sensor ไปเยอะแล้วนะ....อิอิอิ! มิได้หมายถึงตนเองจะสมบูรณ์แบบ....พยายามตรวจสอบพฤติกรรมและปรับปรุงตนเสมอๆ พร้อมทั้งระวังไม่ให้ EGO มันอยู่เหนืออารมณ์ /เหตุผล/ข้อเท็จจริงจ้ะ.... ขอบคุณนะจ๊ะ ... ***
ไร้คำบรรยายเลยพี่ท่าน
อ่านแล้วฮาจริง ๆ
เป็นเรื่องจริงรึเปล่าเนี่ย .....
K.Rawee คะ
*** เรื่องจริงที่ไม่ค่อยมีใครเอ่ยถึง คนไทยมักเกรงใจในเรื่องที่ไม่ควรเกรงใจ....อย่างเช่นการพูดเรื่องที่ทำความเสียหายแก่ส่วนรวม ฮุฮุฮุ.... ***
คุณ กอไก่จ๊ะ
*** เรื่องจริงพันเปอร์เซ็น....ไม่ได้เป็นเจ้าของโรงงานน้ำแข็งนี่จ๊ะ อิอิอิ... ***
หรอยสุดๆค่ะ เยี่ยมมาก รวบรวมไว้ล้วนเป็นเรื่องจริง รับประกัน 5555+
คุณ Krusorn คะ
*** ดีใจจังได้เพื่อนร่วมชะตากรรม เอ๊ยไม่ใช่....เพื่อนร่วมประสบการณ์เดียวกัน....... 555 Hu Hu HU ! ขอบคุณค่ะ ! ***
- อ่านภาษาสองกะเทย แล้วแปลไม่ทัน ต้องเปิดพจนานุกรรมข้างบน เตรียมล่วงหน้าไว้ก่อนครับ สุดยอด..
- ขอบคุณแนวคิดดีๆ เพราะตรงใจตัวเองครับอาจารย์(ฮา)
อาจารย์ธนิตย์คะ
*** สรุปแล้วถนัดแนวไหนเอ่ย.....(หมายถึงภาษาน่ะ!) อิอิอิ.....ลูกศิษย์จำนวนมากกว่าครึ่ง....๕-๖ ใน ๑๐ จะเบี่ยงเบน ....ไม่ตรงกับเพศที่กำเนิด แต่พวกคุณ-เธอ ทั้งหลายบอกว่า เป็นความรู้สึกตั้งแต่แรกเริ่ม.....ไม่ใช่มาแปรเปลี่ยนภายหลังเนื่องจากสภาพแวดล้อมหรือปัจจัยอื่นๆแต่อย่างไร....ขอบคุณนะคะที่เข้ามาแลกเปลี่ยน-เรียนรู้ด้วยกัน ***