น้ำท่วมบ้านน้องซอมพอ ๒


วันที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๕๔

หลังทานข้าวเที่ยงเสร็จ ผมได้ย้อนกลับไปดูทางเข้าบ้านดอนแก้วอีกครั้ง

ครานี้น้ำเริ่มลดระดับลงบ้างแล้ว

ถนนเข้าหมู่บ้านจากปากทางวัดอรัญญาวาสเห็นคนบางส่วนเดินลุยน้ำเข้าไปอยู่ประมาณระดับอก

ตัดสินใจกลับเข้าไปดูบ้าน พร้อมเอาอาหารสุนัขไปให้ที่บ้านน้าของแม่น้องซอมพอ

นั่งเรือท้องแบนของทหารเข้าไป

ขอบคุณพลทหารที่คอยอำนวยความสะดวกจัดเรือให้คนเข้าออกได้ทั้งวัน

บ้างก็ส่งน้ำข้าวปลาอาหาร

บ้างก็ออกมาเอาของใช้ที่จำเป็น

บ้างก็เข้าไปเยี่ยมดูญาติเพื่อนฝูง

เป็นการสัญจรทางน้ำที่คึกคักมากท่ามกลางน้ำที่ยังอยู่ระดับสูง

..........................................................

เรือท้องแบนเข้าไปส่งผมถึงหน้าบ้านตายาย

เข้าไปให้อาหารกระต่ายสองตัวที่อยู่บนบ้านชั้นสอง

แล้วเดินลุยเข้าไปบ้านที่อยู่ถัดไปด้านใน

ดูต้นไม้พืชผักที่ยายปลูกไว้เริ่มเหี่ยวเฉา

สงสัยจะไม่รอด

เข้าไปถึงในตัวบ้านระดับน้ำอยู่เหนือตาตุ่มนิดหน่อย

นึกถึงคำพูดพี่ชายที่บอกว่าถ้าน้ำลดระดับลงเกือบถึงพื้นบ้าน

ให้รีบล้างโคลนออกไม่งั้นหลังน้ำแห้งจะล้างยาก

ประสบการณ์เมื่อปี ๔๙ หลังน้ำลดโคลนตกตะกอนลงบนพื้นล้างยากจริงๆ

ระหว่างที่นั่งเรือเข้ามาชาวบ้านก็บอกกันว่าต้องล้างตอนนี้

ชาวบ้านบอกว่า "เอามันยำมัน"

นึกถึงคำพระท่านว่า "โคลนเกิดจากน้ำ ใช้น้ำนั้นล้างโคลน ทุกข์เกิดจากใจ ใช้ใจนั้นล้างทุกข์"

...................................................

ปฏิบัติการล้างโคลนในบ้านเริ่ม

แรกๆ ใช้ผ้าเก่าเช็ดถูพื้นให้โคลนที่ติดบนพื้นได้ลอยตัว

แล้วใช้เศษไม้แผ่นกวาดดันน้ำที่เป็นโคลนออกไป

ทำได้สักพักเหนื่อย

เลยไปเปิดประตูหลังบ้านหาอุปกรณ์อื่นช่วย

เจอไม้กวาดหยักไหย่พลาสติก

เอามากวาดไล่น้ำ

เออ....ใช้ได้ดีเลยทีเดียว

จัดแจงไล่กวาดน้ำและโคลนออกมา

แต่น้ำลดระดับเร็วมาก จากห้องนอนเสร็จออกมาห้องนั่งเล่น

น้ำลดเกือบแห้งหมด

เอาไงละทีนี้

ไม่มีน้ำล้างโคลน

กลับไปหลังบ้านงมเอาสายยางฉีดน้ำที่จมเนื่องอยู่ใกล้ๆ บริเวณก๊อกน้ำ

ต่อสายยางปล่อยน้ำเข้าบ้าน

โชคดีที่น้ำยังไหลอยู่

ปฏิบัติการล้างโคลนจากบ้านไล่จากทีละห้องๆ

นี่โชคดีนะ ที่ปลูกบ้านหลังเล็กๆ พอตัว

ไม่งั้นแย่กว่านี้

กว่าจะกวาดโคลนและน้ำออกได้ก็ปาไปเกือบหกโมงเย็น

ตัดสินใจหยุดปฏิบัติการ

เดี๋ยวจะออกไปยาก

เดินลุยน้ำออกมาทางเดิน

ผ่านบ้านตายาย

พบยายกลับมาเอาของโดยเรือมาส่ง

แต่เรือที่มาส่งก็ไปแล้ว

ทีนี้จะกลับออกไปบนฝั่งยังไง

ยายบอกไปยืมเรือแจวข้างบ้าน

ทีนี้เอาละสิ

เกิดมาไม่เคยพายเรือ

กว่าจะพายออกมาได้ก็หมุนซ้ายหมุนขวา

ชนรั้วสองข้างถนน เดี๋ยวซ้ายเดี๋ยวขวา

พอส่งยายขึ้นฝั่งเสร็จ

ผมตัดสินใจเดินจูงเรือกลับไปคืนเจ้าของที่ข้างบ้าน

ตลอดเส้นทางเจอเรือที่สวนมาและผู้คน มีแต่คนทักว่า ทำไม่ไม่พาย

ก้ได้แต่หัวเราะ พลางบอกว่า "พายไม่เป็น"

เป็นอันเสร็จสิ้นปฏิบัติการวันล้างโคลนวันแรก

...............................................

วันที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๕๔

วันนี้ตื่นแต่เช้าเช่นเคย

กลับไปดูน้ำที่ทางเข้าหมู่บ้าน

น้ำลดระดับลงมาก

แต่ก็ยังสูงประมาณระดับเอว

ย้อนไปอีกเส้นทางหนึ่งทางหน้า รร.นคศ.ล่าง

น้ำแห้งหมดแล้ว

หลังทานอาหารเช้าเสร็จจึงใช้เส้นทางนี้เข้าไปหมู่บ้าน แล้วเดินลุยน้ำย้อนเข้าไปในบ้าน

 

ระดับน้ำประมาณใต้เอว

เข้าไปในบ้านลดระดับหมดแล้ว เหลือแต่รอบๆ บ้าน

ปฏิบัติการล้างโคลนวันที่ ๒

เริ่มจากหน้าบ้าน หลังบ้าน ห้องน้ำ

ทำได้สักพัก

แม่ พี่ชาย และน้าเขย ได้ลุยน้ำเข้ามาหา

มาช่วยกันขนที่นอนออกมาตากหน้าบ้าน

เสร็จแล้วเอาผ้ามาเช็ดพื้นบ้านพอให้โคลนที่ยังค้างอยู่ออกไป

จากนั้นก็มาเช็ดล้างฝาบ้านรอบๆ ตัวบ้านข้างนอก

ยกตู้เย็นลง เพราะมันหนักเดี๋ยวไม่มีใครมาช่วย

ส่วนของอื่นๆ ยังไม่เอาลง

รอให้พื้นแห้งก่อน

เสร็จแล้วกลับออกมาทานอาหารกลางวันข้างนอก

ส่งแม่ พี่ชาย และน้าเขยกลับบ้าน

เพราะทำอย่างอื่นไม่ได้แล้ว

น้ำยังขังอยู่มาก

..................................................

ช่วงบ่ายกลับไปอีกครั้งย้ายกรงกระต่ายจากหน้าบ้านตายายไปไว้ที่บ้าน เพราะกลัวมันร้อน วันนี้แดดเริ่มออกบ้างแล้ว

เสร็จแล้วจูงจักรยานคู่ชีพไปล้างโคลนออก

เป็นอันเสร็จปฏิบัติการล้างโคลนวันที่สอง

................................................

น้ำ โคลน คน น้ำ

มีบทเรียนจากน้ำ โคลน และผู้คนมากมาย 

 

หมายเลขบันทึก: 446640เขียนเมื่อ 30 มิถุนายน 2011 01:44 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 19:50 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท