ปลูกต้นไม้ตามหลักธรรมชาติ...ของปู่สอน กล้าศึก


ปู่สอน กล้าศึก เป็นคนบ้านโนนเลสา อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ เป็นผีบ้าปลูกป่ามาประมาณ 20 กว่า ปี โดยมีความเชื่อว่า ต้นไม้ คือ อาจารย์ของทุกสรรพชีวิตในโลก รวมกระทั่งพระพุทธเจ้า

 

ปู่สอนเริ่มตั้งหน้าตั้งตา ปลูกต้นไม้ เมื่อ ปี 2528 โดยตะเวนหาต้นไม้เล็ก ๆ ตามท้องนา ท้องทุ่ง และป่าละเมาะ

ต้นกล้าเล็ก ๆ ที่ได้ เช่น ประดู่ เต็ง รัง ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ

 

บทเรียนที่ปู่สอนได้จากการที่ไม่เคยปลูกต้นไม้เลยในชีวิต เช่น

 

การปลูกต้นไม้ครั้งแรก ปู่สอนจะขุดหลุมเรียงระยะใกล้ชิดติดกัน ตามที่ตนเองเคยเห็นในป่า แต่ช่วงนั้น เป็นฤดูฝนที่ตกชุก ต้นไม้ที่ปลูกไว้เกือบ 100 ต้น ตายมากกว่ารอด เมื่อทบทวนแล้วพบว่า หลุมที่ขุดให้ต้นไม้อยู่ใหญ่เกินไป น้ำจึงไปขังรากจึงเน่า 

ดังนั้น ปู่สอนจึงคิดว่า ปลูกต้นไม้ในหน้าแล้งจะดีกว่าหน้าฝน ประกอบกับฤดูฝนต้องช่วยครอบครัวทำนาน่าจะเหมาะสมกับวิถีชีวิตของปู่  

 

การเรียนรู้ของปู่จากการปลูกต้นไม้ในหน้าฝน พบว่า ต้นไม้จะใช้เวลาตั้งตัวนาน และเมื่อฝนหยุดตกอย่างกะทันหัน ต้นไม้เกิดอาการขาดน้ำ ก็เท่ากับหยุดการเจริญเติบโต เหี่ยวเฉา และตายได้

การปลูกต้นไม้ในหน้าแล้ง อาจจะต้องเหนื่อยมากสำหรับการรดน้ำ แต่เมื่อต้นไม้เริ่มตั้งตัวได้ และมีชีวิตอยู่จนถึงฤดูฝนก็จะเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว

 

เมื่อเปรียบเทียบแล้ว ปู่สอนเรียนรู้ว่า การปลูกต้นไม้ในหน้าแล้ง ต้นไม้มีโอกาสรอดมากกว่าในหน้าฝน

เพราะเมื่อต้นไม้ผ่านฤดูแล้งไปได้ก็เท่ากับว่าต้นไม้สอบผ่านการมีชีวิต

 

และก็เหมือนคนเรา ถ้าผ่านร้อน ผ่านหนาว ผ่านฤดูกาลที่แห้งแล้ง ทรหด และสุดโหด ก็ย่อมแกร่งกล้า และสอบผ่านแบบทดสอบของชีวิตได้อย่างทรนง

 

บทเรียนที่ผมได้จากบันทึกของผมบันทึกนี้

ผมมองว่า ชีวิตของทุกคนมีค่ามากมายนัก ชีวิตของคนหนึ่งผ่านการเรียนรู้ต่อสิ่งต่าง ๆ  ที่เข้ามาในแต่ละชีวิตของแต่ละคนหนึ่ง ล้วนน่าสนใจยิ่งนัก

 

และถ้าหลาย ๆ คน ในโลก มีการแบ่งปันความคิด และประสบการณ์ชีวิตให้คนอื่น ๆ รับรู้ ผมมองว่า โลกของเราต้องมีพื้นที่ห้องสมุดที่ยิ่งใหญ่ ที่จะรองรับในการเป็นผู้รู้ - ผู้ตื่น - ผู้เบิกบาน

น่าจะเข้ากับสุภาษิตที่ผมเคยท่องในสมัยเด็ก ๆ

"...เดินตามผู้ใหญ่...หมาไม่กัด..."

และยิ่งกับผู้ใหญ่ที่มีการเรียนรู้ด้วยการปฏิบัติด้วยปัญญา และการทบทวนอย่างเป็นระบบด้วยความรัก

ผนวกกับเด็กที่มีความคิดทบทวนไต่ตรองอย่างมีเหตุและผล

ผมยิ่งคิดเพิ่มเติมได้ว่า...

"...เดินตามผู้ใหญ่...หมาไม่กัด...และไม่เห่า..."  อีกด้วยครับ

 

หมายเลขบันทึก: 444941เขียนเมื่อ 19 มิถุนายน 2011 22:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:46 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

ปู่สอน    ปลูกป่า..น่านับถือ
ท่านลงมือ ช่วยรักษา ป่าไว้ให้
แต่บางคน ไม่ปลูก ไม่ใส่ใจ
ขอเพียงว่า..อย่าทำลาย  ได้ไหมเออ

สวัสดียามเช้าครับคุณหมอ

การเรียนรู้ของปู่สอนเป็นการเรียนด้วยชีวิต (ต่างจากเราที่เริ่มกันที่หนังสือ...ฮากว่านั้นคือ ผมขุดแปลงผักในสมุดการบ้าน...มีดีหน่อยตรงได้เพาะถั่วงอกในแก้วน้ำกับกระดาษทิชชู่...ฮ่าๆ โรงเรียนที่อยู่ตอนเด็กนั้นเป็นรร.ในเมืองน่ะครับ เขาไม่ให้พวกผมทำอะไรเลยนอกจากเรียนอ่านๆเขียนๆ...อิจฉาคนเรียนรอบนอก วิชา สปช. สลน. กพอ. ได้ลงมือทำกันจริงๆ) นานวันก็มีแต่จะงอกงามเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หากแต่ไม่มีใครรู้ ...ยิ่งสมัยนี้ด้วย แม้ว่าเรามีโครงการหลายอย่างที่ย้อนกลับไปหาคนเฒ่าคนแก่ แต่ก็แค่ส่วนน้อยครับ หลายท่านถูกลืม และหลายท่านหายไปตามกาลเวลา เสียดายความรู้-ประสบการณ์ของแต่ละท่านที่ฟันฝ่าจนมาถึงตอนนี้ ...ขอบคุณคุณหมอครับ ที่เพียรเฝ้าถอดบทเรียน-ความรู้จากปู่สอนมาให้ได้อ่านกันครับผม

รักษาสุขภาพด้วยเช่นกันครับ

ขอบคุณค่ะ..พี่ใหญ่เข้าใจจิตใจ ปู่สอน ที่รักดูแลต้นไม้เยี่ยงนี้..น่าชื่นชมอย่างมากค่ะ..ดีใจที่น้องทิมดาบนำมาแบ่งปันกัน..เก็บภาพดอกฟักทองจากสวนมาฝากค่ะ

จำไว้ในหัวใจคนไทย ทีเดียวเลยนะครับคุณทิมดาบ

ขอบคุณมากนะครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท