๕...รัก..หวง...ห่วง..แม่...


เหตุการณ์เล็กๆ ระหว่างแม่กับผมได้ผ่านไปแล้ว แต่ในใจผมยังรู้สึกผิด และอยากจะคุยกับแม่และบอกกับแม่ว่าไม่ต้องเป็นห่วงผม อีกไม่กี่สัปดาห์ผมจะกลับไปหาแม่ และพ่อ รวมทั้งพี่ๆ ครับ และภาวนาว่าค่ำคืนนี้ และวันต่อๆ ไปขอให้ช่วงเวลาที่ผมโทร.ไปบ้าน ผมได้พูดคุยกับแม่ อย่าให้มีเสียผู้หญิงมากบอกว่า "ท่านกำลังเข้าสู่ระบบฝากข้อความ..." อีกเลย ผมอยากบอกกับแม่ว่าผมรักแม่... และเป็นห่วงแม่เสมอครับ...

ผมเฝ้ามองเจ้าหน้าที่เทศกิจหนุ่มท่านหนึ่ง  คอยหลอกล่อ และป้อนเมล็ดถั่วลิสงตราโก๋แก่ให้กะรอกหนุ่ม - สาว สามสี่ตัว  ที่วิ่งขึ้น - ลง จากยอดไม้มายังโคนไม้ใหญ่  ข้างตึกสูงซึ่งอยู่ไม่ห่างจากสนามหลวงมากนั้น  ด้านข้างเทศกิจหนุ่มผู้นั้นมีนักท่องเที่ยวฝรั่งชายหญิงคู่หนึ่ง กับชายไทยไม่ทราบชื่ออีกท่านหนึ่ง ถึงกล้องอันใหญ่คอยถ่ายภาพกะรอก ที่ไต่ไปมาอยู่บนต้นไม้ ประหนึ่งว่าเป็นสิ่งประหลาด และไม่เคยเห็นมาก่อนอย่างไงยังงั้น  ถัดจากต้นไม้ไปไม่ไกลมีกลุ่มนกพิราบหลากหลายสีเกาะกลุ่มอยู่เต็มพื้นทางเท้าขนาดใหญ่เท่าถนนหนึ่งเลน พร้อมกับเสียงคนขายอาหารนกเรียกร้องให้นักท่องเที่ยวซึ้งอาหารนก ว่า "หารนกไหมคะ หารนก"...

 

ครับนานๆครั้งที่ผมจะมีโอกาสเข้ามาใช้ชีวิต และสัมผัสบรรยากาศในกรุงเทพมหานคร เพราะหากไม่จำเป็นแล้วผมไม่เคยนึกพิศวาสเมืองที่หลายคนชื่นชอบ และยกย่องให้เป็นเมืองศิวิไลซ์แห่งนี้แต่อย่างใด  นั่นไม่ใช่เพราะผมไม่ชอบที่กรุงเทพเป็นเมืองเจริญ หรือไม่ชอบที่ผู้คนแออัด และหลากหลายเหตุผล  หากแต่เพราะผมมีความรู้สึกว่าผมมากรุงเทพคราวใด ผมมักจะนอนไม่เต็มอิ่ม และเกิดอาการหายใจขัดๆ อย่างบอกไม่ถูก  เฉกเช่นการมาครั้งนี้ของผม ซึ่งมีกำหนด ๘ สัปดาห์ ผมมีอาการเช่นทุกครั้งที่เคยมา คือหายใจขัด รู้สึกไม่สดชื่นยามตื่นนอนตอนเช้า และมีควาอยากที่จะอาบน้ำอยู่ตลอดเวลา...

 

กับช่วงเวลาสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมาในเมืองกรุง  ผมมีโอกาสได้เดินไปสัมผัสกับท้องถนน และสวนสาธารณะทั้งใหญ่ และเล็กในเมืองกรุง ตลอดจนได้ลิ้มลองอาหารตามร้านอาหารต่างๆ อยู่บ้าง  แม้ไม่บ่อยนักแต่มันก็พอให้ได้ลิ้มรสกลิ่นไอของเมืองกรุงได้ไม่น้อย ทั้งสภาพรถติด ความเบียดเสียดของผู้คน  ฝนตก  รถติด สารพัดปัญหา  ซึ่งผิดกันนักกับบ้านบนดอยของผม  บ้านที่เต็มไปด้วยป่าเขาอันอุดมสมบูรณ์  มองไปทางไหนก็ให้เห็นแต่สีเขียวระรานตา  ผิดกับกรุงเทพที่มองไปทางไหนก็ให้เห็นแต่ตึกรางบ้านช่องที่สูงตระหง่า....

 

หลังจากเดินเที่ยวจนเหนื่อยผมมีโอกาสได้กลับมานั่งพักที่ห้องพัก ซึ่งอยู่ติดริมทางขึ้นสะพานพระปิ่นเกล้าฝั่งพระนคร  ซึ่งเต็มตลอด ๒๔ ชั่วโมงภายในห้อง ผมจะได้ยินเสียงรถวิ่งขึ้น - ลง สะพานตลอดไม่เว้นแม้เพียงวินาทีก็ว่าได้ (คนกรุงเทพนี่รวยจริงๆ) ทันทีที่ผมปล่อยความคิดไปเพลินๆ เสียงโทรศัพท์ประจำกายของผมก็ดังขึ้น ทันทีที่ผมกดรับสาย เสียงที่คุ้นหู (เสียงคู่ทุกข์คู่ยากของผมเอง) ก็ดังมาพร้อมกับความห่วงใย และส่วนหนึ่งของการสนทนาในครั้งนั้นคือ "พี่โทร.กลับบ้านบ้างนะ เห็นแม่บ่นคิดถึง"

 

ครับผมมากรุงเทพหลายสัปดาห์แล้ว  ลืมไปเลยว่ายังไม่ได้โทร. หาแม่เลยสักครั้ง ป่านนี้ท่านคงคิดถึงผมแย่ ผมจึงไม่รีรอ..รีบกดโทรศัพท์กลับไปหาแม่ทันที แต่น่าเสียดายที่ความพยายามของผม ถูกจำกัดด้วยคลื่นโทรศัพท์ เพราะเสียงที่ผมได้ยินทุกครั้งที่ผมกดโทรศัพท์ไปก็คือเสียงตอบรับจากหญิงสาวว่า "ท่านกำลังเข้าสู่ระบบฝากข้อความ...." ผมพยายามอยู่หลายครั้ง  จนเช้าวันนี้ วันที่นี้ (๑๙ มิ.ย.๕๔) ผมโทร.ไปหาแม่อีกครั้งก็พบกับเสียงพี่เขยที่กำลังขับรถไถนา ไปไถนาซึ่งแกบอกผมว่า "ไม่มีอะไร แม่บอกเห็นหายเงียบไป เลยแหย่เล่นเฉย.."

 

 ครับขึ้นชื่อว่าพ่อแม่ แม้จะพ่อแม่ของใครๆ  ผมเชื่ออย่างยิ่งว่าย่อมจะไม่มีพ่อแม่คนใดมีความคิดที่จะนำความเดือดร้อน ความไม่สบายใจ มาสู่ลูกที่ก่อกำเนิดจากเลือดเนื้อของตัวเองอย่างแน่นอน  เฉกเช่นกับแม่ของผมซึ่งผมเชื่อว่าแท้จริงแล้วท่านคิดถึง และเป็นห่วงผมจริงๆ หากแต่เพื่อไม่ให้ผมต้องคิดมากและเป็นห่วงท่านเหมือนที่ท่านเป็นห่วงผม ท่านจึงฝากบอกพี่เขยผมว่า ท่านเพียงแหย่เล่น...

 

เหตุการณ์เล็กๆ ระหว่างแม่กับผมได้ผ่านไปแล้ว  แต่ในใจผมยังรู้สึกผิด และอยากจะคุยกับแม่และบอกกับแม่ว่าไม่ต้องเป็นห่วงผม อีกไม่กี่สัปดาห์ผมจะกลับไปหาแม่ และพ่อ รวมทั้งพี่ๆ ครับ และภาวนาว่าค่ำคืนนี้ และวันต่อๆ ไปขอให้ช่วงเวลาที่ผมโทร.ไปบ้าน ผมได้พูดคุยกับแม่ อย่าให้มีเสียงผู้หญิงมาบอกว่า "ท่านกำลังเข้าสู่ระบบฝากข้อความ..." อีกเลย  ผมอยากบอกกับแม่ว่าผมรักแม่... และเป็นห่วงแม่เสมอครับ... 

คำสำคัญ (Tags): #รัก#ห่วง#แม่
หมายเลขบันทึก: 444905เขียนเมื่อ 19 มิถุนายน 2011 17:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:46 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

คนบ้านนอกอย่างพวกเรา..ไม่เคยนิยมยินดีจะมีชีวิตที่เมืองหลวง

ครู ป.1 เลือกสถานที่เรียนนอกเมืองหลวง และพยายามจะเลือกให้ลูกด้วย

ยังมีพ่อแม่อยู่..รัก ห่วงใย ดูแลท่านมากๆด้วยล่ะ

คนที่ไม่มีท่านทั้งสองแล้ว..ได้แต่มองท้องฟ้า มองหาท่านทุกค่ำคืน

ขอบคุณมากครับ คุณพี่ คุณครู ป.1 ที่คอยให้กำลังใจเสมอ... หวังว่าสักวันผมจะมีโอกาสได้รู้จักมากกว่านี้ครับ...

สวัสดีค่ะ

แวะมาให้กำลังใจนะคะ

ขอบคุณ คุณวิมล212 มากครับ

ดีใจครับที่ตามมาให้กำลังใจ และติดตามเชียร์อยู่ตลอด ยังไงเสียก็อย่าลืมคิดถึงคุณแม่ เหมือน คุณครู ป.1 พูดไว้เน้อครับ

ยังมีพ่อแม่อยู่..รัก ห่วงใย ดูแลท่านมากๆด้วยล่ะ

ขอบคุณ ท่าน ผอ.ชยันต์ เพชรศรีจันทร์ ด้วยครับ ที่ให้ดอกไม้และกำลังใจครับ

สวัสดียามเช้าครับผม

ผมก็ไม่ถูกโรคกับกรุงเทพฯเหมือนกันครับ

ขอบคุณ คุณ เยอร์ เสี่ยว จื้น และ คุณหนานวัตน์ ครับ ที่ตามมาให้กำลังใจครับ

เป็นประสบการณ์เล็ก.. ที่มาเล่าสู่กันฝังนะครับ อยากให้ทุกคนรักแม่ครับ...

ขอบคุณ ครูปอ ครับที่ตามมาให้กำลังใจ...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท