เสียงพูดภรรยาของผม ดังออกมาจากห้องแต่งตัวประมาณ 5 ทุ่ม ของคืนวันที่ 16 มิถุนายน 2554 ขณะที่ผมกำลังนั่งอ่านหนังสือ เพื่อเตรียมตัวเปิดประตูบ้าน ส่งภรรยาไปขึ้นเวรดึก
"พรุ่งนี้ อย่าลืมเตรียมของใส่บาตรไปทำบุญ ขึ้นตึกใหม่นะ ตื่นแต่เช้านะ โทรไปหาด้วย ถ้าไม่ยุ่งมาก จะลงไปทำบุญด้วย"
ร.พ.ภูเขียว เป็นโรงพยาบาลอำเภอ หรือโรงพยาบาลชุมชนครับ เปิดบริการเริ่มแรก เมื่อ พ.ศ. 2489 และ พ.ศ. 2539 ขยายเป็น ร.พ. 90 เตียง จนถึงปัจจุบัน และกำลังจะขึ้นตึกใหม่ ประมาณ 80 กว่าล้านบาท จำนวน 5 ชั้น เพื่อจะพัฒนาเป็น ร.พ.ทั่วไป
สำหรับครอบครัวของผมผูกพันกับ ร.พ.ภูเขียว มากครับ เพราะทุกคนต้องไปใช้บริการที่นั่น พี่ ๆ น้อง ๆ ก็ทำงานที่นี้หลายท่าน ภรรยาของผมด้วย และตัวผม ซึ่งทำงานภายใต้หน่วยบริการปฐมภูมิเครือข่าย
ทิมดาบ ลูกชายของผมก็คลอดที่นี้ และพวกเราก็อยู่บ้านพักโรงพยาบาล จนกระทั่งทิมดาบ ขึ้นชั้น ป. 1 จึงย้ายออกมาครับ
ทิมดาบเขาชอบทำบุญครับ ตื่นแต่เช้าโดยไม่ปลุกเลย รีบล้างหน้า แปรงฟัน และอาบน้ำ และผมมาช่วยแต่งตัวให้ชุดพละ ทิมดาบ อยู่ด้านขวามือ ชุดพละสีเขียว กับเพื่อนเขา แต่อยู่กันคนละโรงเรียน
มีผู้คนมาทำบุญมากมายครับ ทั้งในส่วนเจ้าหน้าที่ ผู้ป่วย ญาติ ประชาชนในอำเภอ และญาติโยม ที่ติดตามหลวงพ่อสายทอง ครับ
และหลวงพ่อสายทอง ท่านจะร่วมสร้างตึกสงฆ์ให้โรงพยาบาลของเราอีกตึกหนึ่งครับ หลังจากที่ท่านไปร่วมสร้างให้หลายโรงพยาบาลในจังหวัดชัยภูมิ นับว่า ท่านเป็นพระนักพัฒนาโดยแท้ครับ ผมและครอบครัวคงไม่พลาดการทำบุญที่ยิ่งใหญ่ในครั้งนี้
ผมเห็นหลวงพ่อ คณะเจ้าหน้าที่ ประชาชน และผู้ป่วยและญาติ มีส่วนร่วมในการพัฒนาโรงพยาบาล ที่ซึ่งเป็นสถานที่ที่ใครยากจะหลีกเลี่ยงไปใช้บริการไม่ได้ ผมรู้สึกอิ่มในใจไม่ได้
ผมหวังว่า ทุกคนคงรักโรงพยาบาล ดูและรักษา และการให้บริการและรับบริการ โดยความห่วงใยและจริงใจในการให้บริการ โลกของเราคงจะน่าอยู่มากมาย ถึงแม้เราจะเจ็บป่วยแสนสาหัสเพียงไร ก็พร้อมจะฝ่าฟันด้วยกัน
ที่สำคัญ การส่งเสริมสุขภาพ การดูแลตนเอง และการป้องกันโรค ดีกว่าการรักษาพยาบาลนะครับ ดังสุภาษิตที่ว่า
ความไม่มีโรค เป็นลาภอันประเสริฐครับ
อนุโมทนาบุญทุกท่านครับ
อนูโมทนาบุญด้วยนะค่ะพี่
สาธุๆๆ ^__^
ทิมดาบดูอ้วนขึ้นนะคะ^__^
ฝากอนุโมทนาด้วยคนครับ น้อง ๆ ห้องไอทีโทรมาชวนแต่ผมไม่ว่างเลย
ช่วงนี้เรียนก็ธรรมดา แต่ต้องขยันมากกว่าเด็ก ๆ 2-3 เท่า(หรือสิบเท่า...มั้ง)