การสอนเด็กว่ายากแล้ว แต่การเลี้ยงเด็กนั้นยากกว่า
ครูที่ต้องทำหน้าที่ทั้งเลี้ยงและสอนจึงเป็น "ยอดครู..."
ช่วงเริ่มต้นของการสร้างห้องน้ำให้กับศูนย์พัฒนาเด็กเล็กแห่งนี้ คุณครูบอกว่าจะไปคุยกับทาง อบต. ในเรื่องของการหยุดการเรียนการสอนชั่วคราวเพื่อที่จะเปิดทางให้การทำงานและการพักอาศัยของทีมงานของข้าพเจ้าทำได้อย่างสะดวก
ทาง อบต. ตอบกลับมาว่า "ปิดไม่ได้ เพราะช่วงนี้พ่อแม่เขาต้องทำนา..."
จากคำพูดนี้ข้าพเจ้าจึงเริ่มรู้ว่า สถานที่นี้ไม่ใช่เป็นเพียงแค่โรงเรียนแต่เป็นสถานที่ฝากลูกฝากหลานในยามที่พ่อแม่จะต้องออกไปทำงาน
ข้าพเจ้าจึงเริ่มย้อนกลับไปดูวงจรชีวิตของคุณครูประจำวัน (Job Description) ที่ต้องไปรับเด็ก ๆ ในหมู่บ้านตอนเจ็ดโมงเช้า เดินเข้าแถวมาโรงเรียน ร้องเพลงชาติ สวดมนต์ สอนหนังสือ ทำอาหารกลางวันให้กิน พานอน พาอาบน้ำ ปะแป้ง แล้วบ่ายสามโมงก็พากลับไปส่งที่บ้าน แล้วยังไม่นับรวมถึงเก็บกวาด ทำความสะอาด ล้างจาน ล้างห้องน้ำ ดูแลความสะอาดรอบบริเวณโรงเรียน
คุณครูที่ทำหน้าที่เสมือนพ่อแม่ ซึ่งต้องดูเด็ก ๆ ซึ่งเปรียบเสมือนลูก เป็นทั้งครู เป็นทั้งแม่ เป็นทั้งแม่บ้าน เป็นทั้งภารโรง...
ในตอนกลางวันคุณครูจะมีกระทะไฟฟ้าหนึ่งใบทำอาหารให้เด็ก
อาหารก็ไม่ใช่อะไรที่เลิศหรู ต้มจืด 1 ถัง
ต้องเรียกว่า 1 ถัง เพราะต้มแล้วใส่ในถัง ไม่ได้ใส่ในหม้อ
ทำไมถึงต้องเป็นเช่นนั้น...?
ครั้งหนึ่ง ทีมงานถามคุณครูว่ายังขาดอะไรอีกไหม
คุณครูตอบว่า ขอถังน้ำกับขันด้วยค่ะ เพราะไม่มีโอกาสลงไปซื้อ...
ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กแห่งนี้ ตั้งอยู่ห่างจากถนนใหญ่ขึ้นเขามาประมาณ 5 กิโลเมตร
รถเก๋งเข้าไม่ได้ เข้าได้แต่รถปิคอัพ
ตอนแรกเราวางแผนว่า จะให้ทีมงาน CPAC นำคอนกรีตผสมเสร็จเข้ามาส่ง ทีมงานของแพลนท์สันป่าตองผู้ใจดี ได้ขับรถเข้ามาสำรวจแล้วก็พบว่า รถใหญ่ไม่สามารถเข้ามาได้เนื่องจากถนนเล็กและคดโค้ง
ดังนั้นเราจึงต้องสั่งปูน หิน ทราย ขึ้นมาผสมเทกันเอง
ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างจึงสูงขึ้นพอสมควร เพราะรถที่จะขึ้นมาส่งทรายคิดค่าขนส่งเที่ยวละ 1,500 บาท (ไม่รวมค่าทราย) เพราะสภาพการเดินทางค่อนข้างลำบาก
ดังนั้นข้าพเจ้าจึงเริ่มเข้าใจภาพของศูนย์พัฒนาเด็กเล็กว่าเป็นบ้านหลังที่สองอย่างแท้จริง
เป็นสถานที่ฝากลูก ๆ ใว้ในยามที่พ่อแม่ไปทำงาน
ฝากไว้ให้กับคุณครู ช่วยเลี้ยง ช่วยดู ช่วยสอน ช่วยอบรม
พูดไม่เพราะ ก็หัดให้พูดครับ พูดค่ะ
สอนให้ร้องเพลงชาติไทย สอนให้สวดมนต์เพื่อเข้าถึงพระรัตนตรัย
สอนบวก ลบ คูณ หาร เพื่อให้มีความรู้ไว้ใช้ในสังคม
ดูแลเรื่องกิน เรื่องนอน
ตอนแรกที่ไป เด็ก ๆ ไม่มีมุ้ง
เราก็เห็นแต่อาคารเรียนมีตาข่ายขึงรอบ ๆ อยู่เพื่อกันยุง แต่ก็คงกันไม่ได้มากเพราะมีรูรั่วที่ใหญ่ขนาดมือรอดได้อยู่โดยรอบ
ยุงที่นี่ดุมาก โดยเฉพาะ "แมงอีลัก" เป็นสมญานามที่คนแถวนั้นเรียกแมลงชนิดหนึ่งซึ่ง "ปากเบา" มาก ตอนกัดไม่เจ็บเหมือนยุง แต่พอผ่านไปสักพักหนึ่ง "คัน" น่าดู คันกว่ายุงหลายเท่า
สิ่งที่ครูขอเรา ไม่เคยขอให้กับตัวเอง
ขอห้องน้ำ ห้องอาบน้ำ ขันน้ำ มุ้งครอบให้กับเด็ก ๆ
คนที่ไปเห็นต่างก็เต็มใจที่จะให้ เพราะให้แล้วใช้จริง เกิดประโยชน์จริง
อุปกรณ์การเรียนนั้นไม่ขาด เพราะรัฐบาล ราชการ จัดให้
แต่อุปกรณ์ในการเลี้ยงดูลูกนั้นใครจะจัดให้...
ชีวิตของคน ๆ หนึ่งที่ทำหน้าที่เป็นทั้งพ่อ ทั้งแม่ ทั้งครู คือ ปูชนียบุคคลที่น่ายกย่อง...
อยากให้ครูทั้งโลกได้อ่านจังเลย.....คงดีไม่น้อย