วิกฤตแค่ไหนก็มีเรื่องดีๆ...
สองวันที่ผ่านมา หน่วยเคมีคลินิกของเราเหมือนจะเป็นโลกย้อนยุคในการทำงาน เพราะเกิดปัญหากับเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่ทำหน้าที่ส่งข้อมูลผลการตรวจทั้งหลายเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ของโรงพยาบาล
ปริมาณงานที่เรามีในปัจจุบันแต่ละวันคือ รายการส่งตรวจไม่ต่ำกว่าพันราย และแต่ละรายจะส่งตรวจมากกว่า 1 รายการทดสอบ เฉลี่ยแล้วน่าจะไม่ต่ำกว่าประมาณ 5-6 การทดสอบต่อราย นั่นหมายความว่าผลทั้งหมดหลายพันกว่าการทดสอบซึ่งเป็นตัวเลขทั้งสิ้นนั้น ต้องใช้วิธีคีย์อิน คืออ่านตัวเลขผลจากกระดาษที่พิมพ์ผลออกมาแล้วกดแป้นใส่ตัวเลขเข้าสู่ระบบ ทีละการทดสอบ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเลขที่มีจุดทศนิยมอีกต่างหาก มีไม่กี่การทดสอบ เช่น น้ำตาลในเลือด ที่จะเป็นตัวเลขกลมๆ เรียกว่าคีย์ผลกันมือหงิก ตาลายจริงๆ
สมาชิกในหน่วยของเราต่างก็ปรับตัวกันอย่างรวดเร็วในการกระจายงานตามจุดต่างๆ จากปกติที่เราใช้เครื่องรุ่นใหม่ Modular P800 3 module ซึ่งใช้วิธีอ่านบาร์โค้ดเพื่อรับรายการสั่งตรวจได้ ทำให้เพิ่มความรวดเร็วในการส่งตัวอย่างเข้าเครื่องและลดความผิดพลาดจากการวางตัวอย่างสลับราย แต่ตอนนี้ส่งผลเข้าระบบไม่ได้ เราก็ปรับให้เครื่องวิเคราะห์ Hitachi 917 ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องรุ่นอาวุโส แต่ยังทำงานได้และยังสามารถส่งผลผ่านระบบคอมพิวเตอร์ได้ แต่เวลาเอาตัวอย่างตรวจเข้าเครื่องจะต้องคีย์อินเป็นเครื่องหลักในการทำงาน (แต่ก็จะทำงานได้ค่อนข้างช้ากว่าเครื่องใหม่)
แต่เมื่อเรามีเครื่องที่ยังส่งข้อมูลเข้าระบบได้อัตโนมัติเพียงเครื่องเดียว เราก็พยายามปรับให้เป็นหลักในการสั่งตรวจ พี่นุชรัตน์ซึ่งรับหน้าที่คุมเครื่องในสัปดาห์นี้ ก็พยายามหาวิธีที่จะเพิ่มความเร็วในการทำงานให้ จากที่เราไม่เคยใช้บาร์โค้ดกับเครื่องนี้ ก็ได้ค้นพบว่า เราสามารถตั้งให้อ่านบาร์โค้ดลองดูได้ เรียกว่าเป็นการค้นพบศักยภาพที่เรายังไม่เคยใช้ของเครื่องนี้ เนื่องจากเราเพิ่งมีระบบบาร์โค้ดใช้กับเครื่องหลังจากที่เราลดภาระงานของเครื่องนี้ลงแล้ว
บอกได้ว่าเป็นโชคดีของเราที่ได้ทำงานกับคนคุณภาพทั้งนั้น เพราะทุกครั้งที่มีปัญหา สมาชิกในหน่วยของเราไม่เคยต้องรอให้ใครมาจัดการให้งานดำเนินไปตามที่ควรจะเป็น ทุกคนจะช่วยกันคิดและหาวิธีปรับการทำงานเพื่อช่วยกันคลี่คลายปัญหา โดยมีจุดประสงค์ร่วมกันคือให้ผลการตรวจสามารถออกผลได้ทันเวลาอย่างถูกต้อง ไม่มีใครเกี่ยงงานหรือกลัวเหนื่อยเพิ่มขึ้นกันเลย ทุกคนยินดีที่จะต้องทำงานเพิ่มขึ้นในทันที รวมทั้งช่วยกันหาวิธีแก้ปัญหา
ดังนั้นทุกครั้งที่มีวิกฤตในการทำงาน เราจะค้นพบอะไรดีๆเพิ่มขึ้นเสมอๆ นึกขอบคุณที่โชคดีที่ได้อยู่กับคนดีๆ จึงขอบันทึกฝากไว้ สำหรับใครๆที่พบปัญหาในการทำงาน ขอให้เชื่อและเปิดใจเอาไว้ แล้วจะพบว่า วิกฤตแค่ไหนก็มีอะไรให้เราเรียนรู้ได้เสมอ
ความเห็น (4)
อาจจะเป็นเพราะ "วิกฤติ" อีกคำหนึ่งคือเรียกว่า "ปัญหา"
และคุณภาพของคนในด้านหนึ่งอาจจะวัดได้จากเจตคติในการ "มองปัญหา" ว่ามันเป็นอุปสรรค เป็นความท้าทาย เป็นบันไดคุณภาพ
รึเปล่าหนอ?
นวัตกรรมและไอเดียดีๆ มักจะเกิดขึ้นเมื่อเข้าสู่เวลาวิกฤตค่ะ โดยเฉพาะบุคลากรทางการแพทย์จะมีทักษะในการแก้ปัญหายามวิกฤตได้ดีค่ะ
เป็นกำลังใจให้ชาว chem lab มอ. ค่ะ :)
น่าชื่นชมค่ะ
ดีจัง ได้ความทึ่งไปเลยกับวิกฤตินะครับ