อะเบอร์ดีน


เมืองที่ว่านี้ น่ารักมากคะ สงบเงียบ ผู้คนน่าจะมีคุณภาพชีวิตที่ดี อยู่ร่วมกันด้วยความสุข คล้ายๆเมือสักสองร้อยปีที่ผ่านมา มีสวนครัวเล็กๆ หน้าบ้าน มีสวนดอกไม้ที่ใช้ประโยชน์ ร่วมกันได้ กลางหมู่บ้านมีโบสถ์อันเก่าแก่ สืบทอดจากบรรพบุรุษ เด่นเป็นสง่า

แม่ต้อยเริ่มต้นการเดินทางในประเทศสกอตแลนดิ์ จากเมืองที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของประเทศนี้ ที่ชื่อว่า อะเบอร์ดิน ( Aberdeen)

การเดินทางจากประเทศเนเทอร์แลนดิ์ โดยเครื่องบินใช้เวลาสั้นๆประมาณ ชั่วโมงกว่าๆ เท่านั้นเอง

ที่สนามบินอัมสเตอร์ดัม เราผ่านการทำ boarding pass จากระบบคอมพิวเตอร์ ไม่มีเจ้าหน้าที่คอยบริการ อำนวยความสะดวกเหมือนที่อื่นๆ  การทำก็ง่ายมาก เพียงแค่ระบุ สิ่งที่เป็นหลักฐานของเราในการออกตั๋ว  เช่น หมายเลข พาสปอร์ต  หรือ ชื่อนามสกุล หรือ โค้ดของตั๋วเป็นต้น คอมพิวเตอร์จะตรวจสอบและ พิมพ์ boarding pass ให้เราตามที่นั่งที่เราระบุ หลังจากนั้นเราต้องยกกระเป๋าไปโหลดเอง  ฮ่าๆๆๆ  เรียกว่าช่วยตนเองทุกอย่าง สามารถตัดรายจ่ายพนักงาน ไปได้โข  แต่ก็สะดวกดีคะ

ที่เมือง อเบอร์ดีน เราหาโรงแรมที่น่ารัก และสะดวกมาก เพราะใกล้ กับรถประจำทาง และ แหล่งช้อบปิ้ง

แม่ต้อยได้ห้องนอน ใต้หลังคา อับอบอุ่น  มองออกไปจากหน้าต่าง เห็นหลังคาตึกเก่าแก่ ยอดแหลมเสียดฟ้าของ วิหารต่างๆ มีนกนางนวลตัวยักษ์ คอยด้อมๆ มองๆ

 

หากวันใดเราตื่นสายสักนิด เธอก็จะพากันมา ส่งเสียงร้อง ปลุกที่ริมหน้าต่าง เลยทีเดียว เชื่องมากๆคะ

เมื่องนี้เป็นเมืองท่า และมีน้ำมันมาก การอุตสาหกรรม เกี่ยวกับ น้ำมัน เช่น การขุดเจาะ จึงเป็น อาชีพหลัก  พอๆกับ อาชีพ ดั้งเดิมคือการประมง  และเป็นประตูเริ่มต้นของ ของประเทศ ที่เรียกว่า Highlands  อันเป้นพื้นที่ตอนเหนือของประเทศ  ซึ่งจะยังคงบรรยาศและทัศนียภาพดั้งเดิมของชาว สก้อต  รวมทั้งต้นกำเนิดของระบบ ชนกลุ่มที่ปกครองพื้นที่ดั้งเดิม ต่างๆ ที่เรียกว่า clans และมี  Tartans เป็นผู้ปกครอง  กลุ่มต่างๆเหล่านี้ จะมีเอกลักษณ์โดยการ การแต่งกายด้วยชุดที่เป็นผ้าตาราง คล้ายๆกระโปรง ที่เรามักจะเรียกกันว่า ผ้าตาสก็อต  นั่นและคะ เรียกว่า Kilt

แต่ความจริงแล้ว kilt ในแต่ละกลุ่ม จะมีรายละเอียด และสี ของลายผ้า แตกต่างกันออกไป และเป็นเอกลักษณ์ ของแต่ละกลุ่ม สามารถจดจำกันได้

เช่นกลุ่ม  The mackenzies    The macDonalds  The Macleods  เป็นต้น  ลายผ้า และสีสรร จะมีความแตกต่างกัน  และเครื่องแต่งกายอันเป็นความภูมิใจ มาจวบจนทุกวันนี้  ในงานพิธี หรืองานสำคัญ เราจึงได้มีโอกาสเห็น คนสก๊อตแต่งกายด้วยชุดประจำชาติของเขา  รวมทั้งเป็นเครื่องหมายว่า ชาติตระกูลของเขามาจากสายใดด้วย

และที่โรงแรมที่แม่ต้อยพักนี่เอง ในคืนแรกที่เรามาเข้าพัก จึงได้เห็นผู้ชายที่หล่อเหลา เด็กน้อย ที่น่ารักในชุด kilt ให้แม่ต้อยแอบถ่ายเล่นๆ อิอิ  เพราะเขามีงานฉลองงานแต่งงานคะ แม่ต้อยเลยได้เข้าร่วมบรรยากาศ แบบ ลับๆล่อๆ ฮ่าๆๆ

 

เครื่องแต่งกายเต็มที่ เพียงแต่ แม่ต้อยบอก ไม่ได้ว่า  เขามาจากตระกูลใดเท่านั้นเอง เพราะยังจำแนกลายผ้า เครื่องประดับ ไม่ออกคะ

 

เดินเล่นที่เมืองนี้ เพลิดเพลินดีคะ  เพราะว่าผู้คนอัธยาศัยดี ถนนหนทางไม่ค่อยซับซ้อนเท่าไหร่ มีตึกราม และโบสถ์ วิหารเก่าแก่แทบทุกถนน

 สินค้าที่วางจำหน่าย ก็เป็นประเภท เครื่องหนาว และก็ kilt นี่แหละคะ 

แม่ต้อยเลยไม่กล้าซื้อคะ  เพราะยังไม่แน่ใจว่าเราควรจะเข้าไปเป็นสมาชิก  กลุ่มใดดี  จะเป็น The mackenzies   หรือ  The macDonalds  ฯลฯ  ก็ยังตัดสินใจไม่ได้ อิอิ

แม่ต้อยได้ม๊โอกาส เดินเล่นไปที่เมืองเก่าของที่นี่ด้วยคะ  หากใครที่ไปเที่ยวกับทัวร์ ตามปกติ คงไม่มีโอกาสได้ไปแน่นอน  แต่คราวนี้ เราถามไถ่จากคนในพื้นที่คะ    คนที่แนะนำไปเขาบอกว่า ที่นี่คือเมืองเก่าแก่ของอเบอร์ดีน ที่สร้างมาตั้งแต่สมัยยุคกลาง แต่ในปัจจุบันยังมีคนมาพักอาศัยอยุ่ เป็นบ้านเล็กๆก็จริง แต่คนที่มาอยู่นั้นต้องมีเงินมาก  หากเขาอยากจะแนะนำขอให้เราไปที่นี่เป็นอันอับแรกเลย

เราก็ต้องไปสินะคะ  เราเดินในตอนเช้า ยังไม่มีใครออกมาเดินเพ่นพ่าน เยี่ยงเราเลย  เดินออกจากเมืองไปไกลพอสมควร  การเดินนี่ก็ดีไปอย่างเพราะว่าเราจะได้เห็นสิ่งละอันพรรณ ละน้อย  เช่น แม่ต้อยเห้นป้ายแขวนไว้ที่โบสถ์ ตัวใหญ่เบ้อเริ่มเลยว่า

“ For sale “   ก็เลยมีความรู้อีกอย่างว่า  เขาสามารถเปลี่ยนแปลงโบสถ์ไปทำ ประโยชน์ อย่างอื่น เช่น ทำร้านอาหาร หรือ คาเฟ่ก็ได้ เหมือนกัน นิ

ความพยายามอยู่ที่ไหน  ความสำเร็จอยู่ที่นั่น  ในที่สุดเราก็เจอคะ เมืองเก่าที่เขาภาคภูมิใจ

 

เมืองที่ว่านี้ น่ารักมากคะ สงบเงียบ ผู้คนน่าจะมีคุณภาพชีวิตที่ดี  อยู่ร่วมกันด้วยความสุข คล้ายๆเมือสักสองร้อยปีที่ผ่านมา มีสวนครัวเล็กๆ หน้าบ้าน มีสวนดอกไม้ที่ใช้ประโยชน์ ร่วมกันได้ กลางหมู่บ้านมีโบสถ์อันเก่าแก่ สืบทอดจากบรรพบุรุษ  เด่นเป็นสง่า

ในหมู่บ้าน สะอาด ไม่มีการใช้รถยนตร์คะ คงต้องเอาไปจอดไว้ที่ใดที่หนึ่ง เพราะในหมุ่บ้านนี้ไม่สามารถนำรถยนตร์มาขับได้ เพราะถนน เป็นแบบโบราณ แคบๆ

อิ่มเอมใจจากการชมเมืองแล้ว คืนนั้นแม่ต้อยหลับสนิท ในห้องนอนใต้หลังคาที่น่ารัก  พรุ่งนี้แม่ต้อยนัดกับเพื่อนๆที่จะมาจาก  กรุงเทพฯ อีกกลุ่มใหญ่ เพื่อเดินทางมุ่งสู่ ภาคเหนือ หรือ Highlands จนถึงเมือง อินเวอเนส

ยังไม่ทันสว่างดี เสียงกริ่งดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง  แม่ต้อยผลุดลุกขึ้นมาถามลุกชาย

“ นั่นเสียงอะไร ?”  ในใจเต้นรัว

“ ไม่รู้ครับ เด่ยวจะดึงปลั้กไฟทุกอันออกไปก่อน “  ลุกชายวิ่งวนเพื่อหาสาเหตุ ว่าอาจจะเกิดมาจากห้องเรา

เสียงกริ่งหยุดไป และดังมาใหม่อีก ไม่ยอมหยุด

เราจึงรู้ว่าเป็นสัญญาณเตือนเรื่องไฟไหม้ แม่ต้อยจึงคว้ากระเป๋าเงิน พาสปอร์ต วิ่งลงไปข้างล่าง

แขกทุกคนวิ่งลงไปหมด บางคึนก็แต่งตัวรัดกุม บางคนยังอยู่ในชุดนอน

คงจำกันได้ว่า เมื่อวานเย็นมีงานแต่งงาน  แม่ต้อยจึงเห็นเจ้าบ่าวเจ้าสาว วิ่งลงมาด้วยในกลุ่มพวกเราที่ยังหลับๆ  ตื่นๆ

แต่ อิอิ   แม่ต้อยก็แอบตาดี  เห็นว่าเจ้าบ่าว เธอยังไม่ได้ สวมเสื้อเลยคะ  คงรีบเพราะเมื่อคืนนี้งานเลิกดึกเหมือนกัน        โถ หนาวแย่ ฮ่าๆๆ อากาศตอนเช้า ราวๆ ตีห้า นี่มันหนาวนะจ้ะ

ประมาณ ครึ่งชั่วโมง ทุกอย่างก็เรียบร้อย ไม่มีเหตุอันใด พวกเราเลย ตื่นมานั่งจิบกาแฟอุ่นๆที่ห้องอาหาร เสียเลย

อร่อยมากๆคะ  ขอบอก  แล้วจะมาเล่านะคะ ว่าไป Highlands  สนุกแค่ไหนคะ  ในคราวต่อไป

สวัสดีคะ

 

 

คำสำคัญ (Tags): #อะเบอร์ดีน
หมายเลขบันทึก: 441313เขียนเมื่อ 29 พฤษภาคม 2011 12:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

แม่ต้อยไปเที่ยวหรือครับ ดูแล้วอากาศเย็น Kilt ของเขามีหลายลายมากๆๆๆ

ดีนะเจ้าบ่าวลืมใส่เสื้อไม่ได้ลืมใส่กางเกง 555

สวัสดีค่ะ

ฮา...แบบอาจารย์ขจิตค่ะ

รอตอนต่อไปนะคะ  ขอขอบคุณค่ะ

Ico48

สวัสดีคะ  ฮั่นแน่  แม่ต้อยว่าแล้วเชียว ว่าอาจารย์ขจิตนะ  สนใจเฉพาะเจ้าบ่าว

อ่าๆๆ

นี่แม่ต้อยยังไม่ได้บอกเรื่องท่อนล่างนะคะ  แค่อธิบายท่อนข้างบนคะ  อิอิ

สบายดีหรือคะ  คิดถึงนะคะ

Ico48

สวัสดีคะ ครูคิม

ดีใจมากคะ ที่ยังได้คุยกับครูคิม  แม่ต้อยไปเที่ยวมาคะ  นี่หากพาอาจารย์ขจิตไปด้วยกับครูคิมคงสนุกมากมายนะคะ

คิดถึงคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท