ประชุมสภามหาวิทยาลัยหลังคามุงจาก


          มหาวิทยาลัยนี้คือสถาบันอาศรมศิลป์   ที่น่าจะเป็นสถาบันอุดมศึกษาที่เล็กที่สุดในประเทศ   คือในปีการศึกษา ๒๕๕๔ รับนักศึกษาเพียง ๒๔ คน 

          การประชุมสภาสถาบันในวันที่ ๓ พ.ค. ๕๔ ใช้เวลาทั้งวัน   เพื่อระดมความคิดทบทวนตัวเองร่วมกับฝ่ายบริหารและดำเนินการสถาบัน   หลังจากทำงานมาเกือบครบ ๕ ปี   ว่าเวลานี้สถาบันเป็นอย่างไร   และในอนาคตควรเป็นอย่างไร

          เห็นได้ชัดเจน ว่านี่คือสถาบันอุดมศึกษาทางเลือก หรือนอกกระแสหลัก   ที่ทำหน้าที่สร้างการเปลี่ยนแปลง (เป็น change agent) ให้แก่สังคม   โดยเข้าไปร่วมทำงานกับกิจการด้านต่างๆ ของอุดมศึกษาในกระแสหลักอย่างกลมกลืน   เพื่อร่วมกันสร้างการเปลี่ยนแปลงให้แก่บ้านเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ระบบอุดมศึกษา

          สถาบันฯ ทำงานด้าน การรียนรู้ วิจัย บริการสังคม และทำนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรม อย่างบูรณาการเป็นเนื้อเดียวกัน   หรือเรียกว่าทำงานวิชาการอย่าง holistic   ผมเชื่อว่า สถาบันฯ ได้พิสูจน์แล้วว่า เป็นนักทำงานวิชาการแบบบูรณาการ ตัวจริง ได้ผลจริง

          ผมตีความว่า สถาบันอาศรมศิลป์ทำงานวิชาการบนพื้นฐานของธรรมชาติ และความงาม   ทั้งที่เป็นความงดงามเชิงกายภาพ คือสถานที่ (ดังรูป) และความงดงานภายใน คือจิตวิญญาณของความเป็นมนุษย์   และความเป็น “สังฆะ” หรือชุมชนวิชาการแนวอาศรมศิลป์

          ฝ่ายบริหารและทีมงาน ได้ระดมความคิดกันมาหลายยก และเสนอยุทธศาสตร์การทำงาน ๗ ข้อคือ

๑. จัดการเรียนการสอนแนวปฏิรูปการเรียนรู้  บูรณาการในหลายรูปแบบ เช่น บูรณาการกับงานวิจัยและงานบริการวิชาการ  หรือบูรณาการศาสตร์ต่างๆ  หรือบูรณาการ กาย จิต สังคม  เป็นต้น


๒. สร้างนวัตกรรมการเรียนรู้ ทั้งงานวิจัย/วิทยานิพนธ์ งานบริการวิชาการ และการบริหารงานเพื่อสนับสนุนภารกิจหลักในด้านต่างๆ


๓. การรับใช้ชุมชนและสังคม ส่งเสริมสิ่งแวดล้อม ภูมิปัญญา


๔. พัฒนาตนบนการงาน พัฒนาองค์กรด้วยวิถีสังฆะ


๕. สร้างเครือข่ายและภาคีการเรียนรู้ต่างๆ อย่างหลากหลาย


๖. เป็นหุ้นส่วนเชิงนโยบายกับหน่วยงานต่างๆ


๗. พึ่งพาตนเองในเชิงเศรษฐกิจได้อย่างมั่นคง

          ผมเสนอว่า ควรเพิ่มข้อ ๘ เพื่อให้ครบมรรคมีองค์แปด   คือ ยุทธศาสตร์ที่ ๘ ท้าทายทฤษฎีเดิมๆ จากการปฏิบัติงานในบริบทไทย และตีความหาความหมาย อธิบายปรากฏการณ์จริง

          ที่จริงในการประชุมวันนี้ ผมได้ทั้งความรู้และความสุข   เพราะในห้องประชุมเรานั่งล้อมอ่างดอกไม้ หอมกลิ่นดอกแก้ว ให้ความสดชื่นยิ่งนัก   แล้วยังหอมกลิ่นปัญญา ที่ท่านนายกสภาฯ ศ. ระพี สาคริก กล่าวออกมาเป็นระยะๆ   การประชุมสภาสถาบันนี้ไม่เหมือนใคร   เพราะท่านนายกสภาฯ ทำหน้าที่วิพากษ์ข้อเสนอต่างๆ เป็นระยะๆ ด้วยมุมมองที่ลึกซึ้งและให้สติและปัญญา

 

วิจารณ์ พานิช
๔ พ.ค. ๕๔

สนามหน้าสถาบัน

 

อาคารทั้งหมดหลังคามุงจาก

 

อาคารที่เน้นสัปปายะ ไม่เน้นอลังการ์

 

 ง่ายงามและธรรมชาติงาม

 

 

สวนและสนามหน้าอาคาร

 

อีกมุมหนึ่งของหลังคามุงจาก

 

แยกขยะ

 

ด้านหน้าของห้องประชุม

 

ความงามเจือความธรรมดา

 

ประชุมล้อมวงระดมความคิด

 

วงประชุมรอบอ่างดอกไม้

 

อ่างดอกไม้ที่ให้ความสดชื่นทั้งแก่สายตาและกลิ่นหอม

 

หลวงพี่ไพศาลกำลังให้ความเห็นเรื่องการบูรณาการ ศาสตร์ - ศิลป์ - จิตวิญญาณ  ว่าควรเพิ่มความเข้มข้นด้านศาสตร์

 

รศ. ประภาภัทร นิยม อ. เมธี ภมรานนท์ ศ. ดร. อรศิริ ปาณินท์ ศ. ดร. ผุสดี ทิพทัส

หมายเลขบันทึก: 440879เขียนเมื่อ 26 พฤษภาคม 2011 12:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:45 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

double hairspring makes movement more Lady Hillary will be charged a penalty

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท