คืนหนึ่งที่สวนธรรมถ้ำพุหวาย3
โสภณ เปียสนิท
.......................................
(กล้วยป่า และอาคารวิหารหลวงปู่วัดปากน้ำภาษีเจริญ อยู่ระหว่างการก่อสร้าง)
พระอาจารย์เดินผ่านดินหมาดฝนจากศาลามาโรงฉัน อาจเกรงว่าผมจะหาอุปกรณ์ต้มน้ำไม่พบ “นั่นเตาแก๊สอยู่ข้างศาลา” มองตามที่ท่านชี้เห็นเตาแก๊สสองหัว ทำให้ผมสบายใจเรื่องอาหารการรับประทานไปอีกมาก นำกามาใส่น้ำวางบนเตาไฟสีม่วงอ่อนเรืองรองเย็นตา แต่ร้อนรน “ท่านฉันมื้อเดียวมากี่ปีแล้วครับ” “ก็ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ เพื่อความสะดวก ไม่ใช่เคร่งครัดอะไร” “อ้าว..แล้วเพื่ออะไรครับ” “ก็เพื่อลดภาระการขบฉัน จะได้ไม่ต้องห่วง” “แล้วฉันตอนไหนครับ” “ราว 11.00 น. โน่น” พระคุณเจ้าหยิบซองกาแฟสำเร็จรูปวางข้างที่นั่ง ยืนถ้วยน้ำมาให้ ผมรู้ในทีว่าพระคุณเจ้าฉันกาแฟรองท้องก่อนตอนเช้า ส่วนผมได้อาหารเส้นสำเร็จรูปสองซองรองท้องไปก่อน อิ่มจนอืด
เสร็จภารกิจมื้อเช้า พระอาจารย์ชวนผมเดินทางสู่ที่ทำการวนอุทยาน พบเจ้าหน้าที่ 4 คนนั่งคุยกันอยู่เบาๆ ฝั่งตรงข้ามถนนมีศาลาสำหรับขายผลิตภัณฑ์การเกษตรของชาวบ้าน เห็นส้มบ้าง กล้วยบ้างวางขายอยู่บนร้านไม้รวก ไม้ไผ่ รับมอบไฟฉายคนละดวงจากเจ้าหน้าที่แล้วออกเดินขึ้นเขาแบบสบายๆ ไม่เร่งร้อน เพราะความสูงชันทำให้รู้สึกเหนื่อยนิดหน่อย มองกลับหลังคำนวณระยะทางราว 150 เมตร ถึงปากถ้ำมีป้ายบอกจุดต่างๆ ในถ้ำอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ให้นักท่องเที่ยวใช้ประโยชน์
เจ้าสีนวล คุมใต้ถุนกุฏิพระอาจารย์มหาสามารถ ยามค่ำคืนเดียวดาย
พระอาจารย์เดินนำเข้าถ้ำด้วยความคุ้นเคย ภายในถ้ำกว้างใหญ่หลายมุมมองมีหินงอกหินย้อยหลายรูปร่างแปลกตาขึ้นอยู่ตรงนั้น ตรงนี้ ระหว่างเยี่ยมชมมีนักท่องเที่ยวอีกสองกลุ่มนับคร่าวๆ ได้เกือบ 20 คน แว่วเสียงบรรยายของมัคคุเทศก์ พระอาจารย์บอกว่า “มีหินพระธาตุด้วยนะ” “เป็นพระธาตุจริงหรือเปล่าครับ” “เป็นแค่หินพระธาตุ หลายคนเก็บเอาไปทำพระเพื่อกราบไหว้บูชา” “เจ้าของที่เขาไม่ว่าหรือครับ” “บอกกล่าวเขาก่อนซิว่า จะนำไปทำอะไร ทำประโยชน์เพื่อพระศาสนาเขาไม่ว่าหรอก” มีข้อยกเว้นเสียด้วย เปล่าผมไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่คิดในใจ
ห่างจากปากถ้ำเข้าไปราว 6 เมตร ปากถ้ำกว้างใหญ่ มูลค้างคาวเกลื่อนกลาดอับชื้น มีพระพุทธรูปเกศดอกบัวตูมรูปทรงพระธรรมกาย ขนาดใหญ่เท่าครึ่งของคนสีทองตั้งกลาง ด้านหลังองค์พระมีรูปพระธรรมกายแก้วใส และรูปหลวงปู่วัดปากน้ำหลายบาน ขนาดใหญ่กว่า 12 นิ้วตั้งอยู่ให้กราบไหว้เพื่อความเป็นศิริมงคล บนฐานปูนพระพุทธรูปมีรอยสลักปูนว่า แม่ชีละอองนวล จากวัดปากน้ำมารวมศรัทธาชาวบ้านสร้างไว้ บอกพ.ศ. 2527 (ตัวเลขไม่ค่อยชัดเจน) พระเล่าว่า “กล่าวกันว่าหลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญเคยเดินธุดงค์มาพักปฏิบัติ ณ ถ้ำแห่งนี้ สมัยที่ท่านยังไม่ได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ แม่ชีองค์นี้จึงตามรอยหลวงปู่มาเพื่อสร้างพระไว้เป็นที่ระลึก” ผมรู้สึกอัศจรรย์ใจว่า หลวงปู่เดินทางรอนแรมธุดงค์มาไกลถึงเพียงนี้เลยหรือ สมัยนั้นจะเป็นป่าลึกขนาดไหนคงไม่ต้องบรรยาย