ความรู้สึกต่อ ETI 5701


       บันทึกนี้อาจจะเป็นบันทึกสุดท้ายในบล๊อกเปิดใจไปกับเสียงของพระจันทร์ แต่จะไม่ท้ายสุดในบล๊อกต่อ ๆ ไป เพราะบล๊อกนี้สร้างขึ้นมาจากการทำตามใบงานที่ อ.องค์คุลีมาร ให้มา บางบันทึกอาจไม่เต็มใจทำ แต่อีกหลาย ๆ บันทึกก็มาจากใจจริง ๆ ดังนั้นบันทึกนี้ ขอเป็นการระบายความรู้สึกต่อวิชา ETI 5701 ที่มี อ.องค์คุลีมาร เป็นผู้สอนนะค่ะ

       ความรู้สึกแรกที่นึกออกก็คือ....งานเยอะมากค่ะ งานบางชิ้นก็คิดว่าทำไปเพื่ออะไร อย่างวาดรูปเอย เขียนบล๊อกเอย เขียนระบายความรู้สึกของตนเอง บางครั้งก็คิดว่า อาจารย์จะอยากรู้เรื่องของคนอื่นไปทำไม อย่างงานเขียนบล๊อกหนูบอกตามตรงว่าหนูเบื่อมาก ที่จะต้องมานั่งเขียน นั่งอ่านบันทึกของเพื่อนทุกคน มันเหมือนการบังคับให้ทำอะไรที่เราไม่เต็มใจหรืออยากจะทำ แถมยังทำให้ทะเลาะกับเพื่อนร่วมห้องว่าใช้ไฟเปลือง เล่นเนตอยู่คนเดียว นอนดึกทำให้เขานอนไม่หลับ ฯลฯ จึงต้องแยกห้องกันอยู่ นั่นก็ทำให้หนูมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาอีก 

       หนูไม่อยากจะอ้างว่าไม่มีเวลาทำ เพราะทุกคนมี 24 ชั่วโมงเท่ากัน แต่หนูรู้สึกหนูเหนื่อยมาก เพราะเรียนเสร็จกลับไป 6 โมงเย็น หนูต้องไปสอนพิเศษ เพราะหนูหาเงินใช้เอง ถ้าไม่ทำงานก็ไม่มีเงินใช้ เงินทุนก็ไม่ออกสักที กลับมาสองทุ่ม หาข้าวกิน นั่งทำการบ้าน แน่นอนว่าการบ้านไม่ได้มีแค่วิชาเดียว แต่บางวันก็มีถึง 4 วิชา แล้วภาระงานของเรายังมีอีกอย่างหนึ่งคือเล่มวิทยานิพนธ์ ที่แก้แล้วแก้อีกก็ยังไม่เสร็จสักที เพราะเล่มวิทยานิพนธ์เป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งทำให้เราต้องตั้งใจทำอย่างมาก กว่าจะคิดแต่ละประโยคออกนี่ใช้เวลานานเลยทีเดียว  ทุกวันนี้หนูนอนวันละ 3-4 ชั่วโมงหรือบางวันอาจจะไม่ได้นอน อาจารย์ก็อาจจะเห็นหนูหน้าตาแบบ...ไม่ไหวแล้ว

      แต่สิ่งที่หนูได้จากอาจารย์ คือ ความอดทนและการใช้ชีวิตแบบนักสู้ค่ะ สิ่งที่หนูบ่น หนูคิดว่าปัญหาของหนูมันใหญ่มาก แต่ก็ยังมีคนที่เขามีปัญหามากกว่าเรา หนักกว่าเราอีก ปัญหาของหนูมันเป็นปัญหาที่เล็กมาก เล็กจริง ๆ อาจารย์ทำให้ความคิดของหนูเปลี่ยนไป สิ่งที่อาจารย์สอนทุกอย่างมันคือทักษะการใช้ชีวิต ทำให้เราเข้มแข็งเมื่อเจอปัญหา ทำให้หนูมองโลกในแง่ดีมากขึ้น ที่สำคัญอย่าเพิ่งให้เครื่องหมายลบ (-) กับใคร ถ้ายังไม่ได้รู้จักเขาจริง ๆ

    หนูยอมรับเลยว่าเจอหน้าอาจารย์ครั้งแรกหนูก็ให้เครื่องหมายลบแปะหน้าผากอาจารย์ไว้แล้ว แต่พอเรียน ๆ ไปเครื่องหมายลบอันนั้นก็กลับกลายเป็นเครื่องหมายบวกติดหน้าอาจารย์เต็มไปหมด อาจารย์ไม่ใช่เป็นแค่อาจารย์ค่ะ แต่อาจารย์เป็นครูด้วย อาจารย์อาจใช้เรียนผู้สอนในมหาวิทยาลัย แต่ส่วนใหญ่อาจารย์ก็แค่สอนหนังสือ แต่อาจารย์องค์คุลีมารไม่ได้แค่สอนหนังสือ แต่สอนลูกศิษย์ให้เป็นคนดีค่ะ

    สุดท้ายขอขอบพระคุณอาจารย์องค์คุลีมารจากใจ ที่ทำให้หนูคิดได้ ทำให้หนูเปลี่ยนแปลง ทำให้ลุกขึ้นสู้ไม่ว่าปัญหาจะหนักสำหรับเราแค่ไหน อาจารย์ทำให้หนูไม่ใช่แค่คนธรรมดาแต่เป็นมนุษย์ธรรมดาที่มีจิตใจที่สูงขึ้นค่ะ เวลาที่หนูเหนื่อย หนูท้อ หนูมีอคติ หนูจะนึกถึงคำสอนของอาจารย์เสมอค่ะ หนูสัญญา

  อาจารย์จะอยู่ในใจของพวกเรา สควค. รุ่น 14 ตลอดไปค่ะ

หมายเลขบันทึก: 440113เขียนเมื่อ 21 พฤษภาคม 2011 09:28 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:44 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

สวัสดีคะ คุณเสียงของพระจันทร์

จริงคะถึงงานจะเยอะแต่อาจารย์องค์คุลีมารแฝงข้อคิดและแนวทางในการทำงานไว้ทุกงาน

โดยเฉพาะ ความอดทน และ พยายาม

ขอบคุณคะ

      ดีใจแทนอาจารย์ Ongkuleemarn ที่การพัฒนาทักษะชีวิตให้ผู้เรียน บรรลุผลในตอนท้าย (Happy Ending) และขอแสดงความยินดีที่หนูเสียงของพระจันทร์เปลี่ยนทัศนะที่มีต่อการมอบงานของอาจารย์ ซึ่งทำให้ดูได้รับสิ่งที่มีคุณค่าในการดำเนินชีวิต

ขอบคุณครับ ว่าที่คุณครู เสียงของพระจันทร์ สำหรับการ (เคย) ให้เครื่องหมายลบ และเครื่องหมายบวก ;)...

ขอบคุณ ท่านอาจารย์ ผศ. วิไล แพงศรี ที่แอบมาให้กำลังใจเด็กอยู่ในหลาย ๆ บันทึกครับ ;)...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท