เหนือฟ้ายังมีฟ้า


เหนือน้ายังมีหลาน

ตอนไปเที่ยวพักร้อนเมื่อเดือนก่อน  หลานชายที่จบสถาปัตย์ แล้วมาสำเร็จปริญญาโททางการบริหารที่นี่ ไปเที่ยวด้วยกัน  เพราะคุณแม่ของหลานมาจากเมืองไทย  เลยต้องมีการโครงการนำเที่ยวทางภาคตะวันออกของอเมริกา

เคยเขียนบันทึกพร้อมกับรูปภาพต่างๆ ที่ได้ประสพมาให้พวกเราได้อ่านเป็นสองสามครั้งแล้ว  ไปคราวนี้ได้กล้องใหม่ถูกใจ ไนคอน ดีเจ็ดพัน  กะว่าจะไปถ่ายรูปให้สะใจ  เพราะอยากได้มานาน  เคยมีกล้อง ไนคอน เอพวัน ตอนสมัยหนุ่มๆ  แต่ก็ไม่ค่อยมีเวลา  เพราะต้องเรียนและทำงานด้วย  พอมีครอบครัว ก็เปลี่ยนจากกล้องถ่ายรูปมาเป็นกล้องถ่ายหนัง

ขอบอกตามตรงคุณต้องเลือกเอา ว่าจะถ่ายรูปหรือถ่ายหนัง เพราะโอกาสและเวลามีครั้งเดียว พอผ่านไปแล้วก็ผ่านไปเลย จะเอาทั้งสองอย่างไม่่ได้ ผมเลือกเอากล้องถ่ายหนังครับ

ไปเที่ยวคราวนี้ลูกๆไม่ได้ไปด้วย เลยวางแผนว่าจะถ่ายเป็นภาพนิ่งมากกว่าหนัง แต่ก็เอาทั้งกล้องถ่ายรูปและกล้องถ่ายหนังไปด้วย   รูปที่ออกมาก็อย่างที่เห็นแหล่ะครับ บันทึกเรื่อง ถ้าแม้จากแววตามาด้วยพี่ กับ เรื่องศรรัก  

เย็นวันหนึ่งหลานเอารูปที่เขาถ่ายมาให้ดู  ผู้เป็นน้าถึงกับ โอ้โห้เลย  เหนือฟ้ายังมีฟ้า หลายชายเขาถ่ายได้ดีจริง ภาพที่ผมถ่ายจะมีแค่สองมิติ  แต่ภาพที่เขาถ่ายจะมีสามมิติ

ภาษาอังกฤษเขาว่า เซนออฟเดฟ จะมีความลึกมาให้เห็นเกือบทุกรูป  เนื่องจากหลานชายจบจากสถาปัตย์ วิญญาณนักออกแบบปรากฎตามรูปภาพครับ มีทั้งเสันตรง เส้นโค้ง เส้นขนาน รูปสี่เหลี่ยม รูปวงกลม มาปรากฏให้เห็นในรูปภาพกันเต็มไปหมด

ใครว่าการศึกษาจากเมืองไทยไม่ได้ผล  เมืองไทยผลิตบัณทิตที่ได้ความรู้ที่ติดมากับหัวใจเลยครับ  เห็นจากการถ่ายรูปแล้วต้องย่อมรับความจริง 

ถ่ายๆไปตามตึกที่ พิพิธพัณฑ์เก็ตตี บอกตึกนี้อย่างน้อยพันล้านบาทไทยครับ  รวมหมดทุกตึกก็เป็นหลายพันล้าน  เมืองไทยขนาดตึกย่อมๆก็ห้าร้อยล้านแล้วครับ คิดแบบนักออกแบบชั้นยอดเลย  บอกราคาเสร็จ

แต่เขาไม่ชอบถ่ายคน  ส่วนมากผมจะถ่ายแต่คน วิวกับดอกไม้ไม่สน  เพราะอีกสิบยี่สิบปี ก็ไม่มีใครสนใจดอกไม้อีกแล้ว  ตึกก็พังหายไป ดอกไม้ก็เฉาตาย แต่รูปคนยังอยู่ไว้สำหรับให้ดูเพื่อความคิดถึง สังเกตดูรูปภาพรับปริญญา คุณจะดูตึก ดอกไม้ หรือจะดูคน  ร้อยทั้งร้อย ต้องดูคน นอกจากจะดูคนแล้ว  คนๆนั้นจะต้องเป็นเรา กับคนที่เรารัก คนอื่นเราก็จะไม่สนใจ ยกเว้นลูกเราเท่านั้น ลูกคนอื่นเราก็ไม่อยากดู 

หลานชายถ่ายรูปมาเกือบหกร้อยรูป  ถ่ายๆๆๆๆ ถ่ายแต่ตึก จนผู้เป็นแม่บ่นว่า

แหม... เธอถ่ายรูปฉัน มีไม่ถึงห้ารูปนะ


 


 

ญวนย่าเหล เพลงรำวงพื้นเมือง

ลงานเดี่ยวเปียโนของ นาวาตรี ปิยะพันธ์ สนิทวงศ์ ร น. ศิลปินแห่งชาติ ปี พ.ศ. ๒๕๔๑ สาขาศิลปการแสดง(นักดนตรีสากล) ผลงานชุดนี้เป็นชุดที่อาจารย์ ปิยะพันธ์ ได้รวบรวมเพลงไทยที่อาจารย์ชอบมาตั้งสมัยเป็นเด็กรวมทั้งเพลงไทยสากลรุ่น ใหม่ใหม่มาเรียบเรียงเสียงประสานใหม่แล้วนำมาบรรเลงซึ่งอาจารย์กล่าวว่านี่คือ อัลบั้มแรกและอัลบั้มสุดท้ายของอาจารย์ และชื่ออัลบั้ม “ ฝากรักเอาไว้ในเพลง “ เป็นชื่อของบทเพลงที่อันเป็นที่รักที่สุดของอาจารย์ เล็กเล็กน้อยน้อยเกี่ยวกับอัลบั้มชุดนี้ คือ บันทึกเสียงที่ “ บ้าน นันทาภิวัฒน์ ” เปียโนที่ใช้บรรเลงคือ Boesendorfer

 


 

สงวนลิขสิทธิ์ทุกประการ เพราะรูปเป็นของหลานครับ

คำสำคัญ (Tags): #ท่องเที่ยว#happy ba
หมายเลขบันทึก: 437464เขียนเมื่อ 29 เมษายน 2011 05:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 5 พฤษภาคม 2013 03:38 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สวยคะ มุมมองดี มองในส่วนที่คนอื่นๆ มักจะผ่านเลย

(คนอื่นๆ หมายถึง ตัวกระติกเองคะ)

 

เพลงยวนยาเหล  เดี๋ยวนี้จะมีคนร้องได้เพียงใด 

ส่วนมากจะเป็นช่วงที่ทำกิจกรรมรอบกองไฟ ฝึกลูกเสือชาวบ้าน ซึ่งยังจะมีอยู่หรือไม่ ไม่แน่ใจแล้วคะ

 

อ่านไปก็ยิ้มไปค่ะ เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือน้ายังมีหลาน

จบสถาปัตย์ ถ่ายรูปมีแต่ตึก ...ลืมไปว่าแม่อยากดูรูปตัวเอง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท