จังหวะก้าวเชิงรุก ของสภาองค์กรชุมชนตำบล จังหวัดพัทลุง


สภาองค์กรชุมชนท้องถิ่น สามารถเข้าไปหนุนเสริมการทำงาน ในระดับท้องถิ่น ร่วมกับ อบต. อปท. กำนัน ผู้ใหญ่บ้านและหน่วยงานอย่างเต็มภาคภูมิ โดยมีกฎหมายรองรับ

              สภาองค์กรชุมชนตำบล  ในจังหวัดพัทลุง 32 สภาองค์กร  ได้จัดเวทีแลกเปลี่ยน เรียนรู้ แนวทางความร่วมมือในการทำงาน ระหว่างภาครัฐ กับสภาองค์กรชุมชนตำบล  ของจังหวัดพัทลุง มีหน่วยงานของรัฐ 13 หน่วยงาน

คือ มหาวิทยาลัยราชภัฎสงขลา 

สำนักงานท้องถิ่น

สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

สำนักงานแรงงาน 

องค์การบริหารส่วนจังหวัด

สำนักงานเกษตรจังหวัด

 ศูนย์ต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติด

ศูนย์พัฒนาสังคม

สำนักงานสาธารณสุข

สำนักงานพัฒนาชุมชน

สำนักงานสหกรณ์

และสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน  

 คุณ อุบล ทองสลับล้วน จนท.พมจ.  กล่าวต้อนรับ

 

       โดยมีนาย พิศิฎ  บุญช่วง ผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงมาเป็นประธานเปิดงาน ที่ห้องประชุม อิรวดี  

  ผู้ว่ากล่าวเปิดงาน

      ที่ประชุมได้อภิปรายกันถึงร่าง บันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการ  ระหว่าง สภาองค์ชุมชน กับ 13 หน่วยงาน 

     สรุปสาระสำคัญของข้อตกลง  ทั้ง 5 ข้อ เป็นเรื่องที่ทางสภาฯต้องการให้มีหน่วยงานมาสนับสนุนกิจการของสภาฯ

       ซึ่งเมื่อผู้เขียนได้มาวิเคราะห์แล้ว ร่างข้อเสนอดังกล่าว หากมีการบันทึกความร่วมมือ  จะทำให้เจตนารมณ์ของสภาองค์ชุมชนเปลี่ยนไป

       เพราะฐานคิดของการให้ได้มาซึ่งพรบ.ฉบับนี้ มาจากฐานคิดที่ต้องการให้พลังชุมชน เปลี่ยนแปลงสังคม "จุดเริ่มจากชุมชน  เปลี่ยนแปลงสังคมจากฐานราก"  หากฐานรากในการพัฒนาในการพัฒนาชุมชนมีความเข้มแข็ง มีตัวตนที่แท้จริงมีงานขับเคลื่อนเชิงประจักษ์ ผู้เขียนเชื่อว่าหน่วยงานย่อมต้องเข้ามาสนับสนุนเป็นหุ้นส่วน โดยยึดแผนงานโครงการที่ผ่านเวทีของสภาฯเป็นหลัก  

 

     บทบาทหน้าหลักของสภาองค์กรชุมชน ตามที่ได้ฟัง อาจารย์ไพบูลย์ วัฒนธรรมศิริ พูดไว้ 

       "คือสามารถเข้าไปหนุนเสริม กระบวนการทำงานในระดับท้องถิ่น ร่วมกับ อบต. อปท. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และหน่วยงานในพื้นที่  อย่างเต็มภาคภูมิ โดยมีกฎหมานรองรับ"

      การที่เราจะชวนเพื่อนมาเป็นหุ้นส่วน แล้วเราบอกเพื่อนว่า"คุณ  ต้อง ต้อง ต้อง ต้อง และ ต้อง แต่เราไม่ได้บอกว่า เราต้อง ต้องต้องอะไรบ้าง 

     เราเดินไปหาเพื่อนให้มาเป็นหุ้นส่วน หรือเราต้องการให้เพื่อนเพื่อนเดินเข้ามาขอเป็นหุ้นส่วนกับเรา เจตนารมณ์ของสภาองค์กรชุมชนที่นำไปสู่การปฎิรูปประเทศ ต้องให้เพื่อนเดินเข้าหาขอเป็นหุ้นส่วน 

       ไม่เช่นนั้นแล้ว สภาองค์กรชุมชนก็ไม่ต่างอะไร กับสภาต่างที่เกิดมากมายในเมืองไทยเป็นสภาที่มีเจ้าของไปในที่สุด

 

 

 

 

พี่ไสว หนูยก จนท.อาวุโส ของ พอช.

 

หมายเลขบันทึก: 432522เขียนเมื่อ 24 มีนาคม 2011 00:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:39 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (10)

มาชื่ยชมครับ หุ้นส่วน ร่วมพัฒนา

ระยะนี้เมืองลุงพัฒนาเร็วมาก  คนคอนขอเอาใจช่วยค่ะ

สวัสดีครับท่านอาจารย์ jj

งานในพื้นที่ที่ต้องทำ นอกเหนืองานประจำคืองานในชุมชน

สอดรับประคำพูดของอาจารย์ ที่ว่า"พบได้ทุกที่   ยกเว้นที่ทำงาน"

สวัสดีครับคุณ แก้ว  พัทลุง นคร เรามีเครือข่ายหลายองค์กรทำงานร่วมกัน  คงได้มีโอกาส มาเล่าให้ฟังกันต่อ

สวัสดีค่ะ...ท่านผู้เฒ่า

ชื่นชม ๆ ๆ ติดตาม  ศึกษาเป็นตัวอย่าง

อำเภอสระใครกำลังเริ่มเล็ก ๆ จากรากฐานหมู่บ้าน

การเดินทางยังอีกนานค่ะ

อ้อ

สวัสดีคุณ หมอ อยากเป็นพันธมิตรร่วมทำงานกับชุมชน งานเครือข่ายต้องได้ใจ ทำให้เห็นจริงครับหมอ

ท่านวอญ๋า

 

งานในพื้นที่ที่ต้องทำ นอกเหนืองานประจำคืองานในชุมชน

ดูแลสุขภาพด้วยจ้า

 

สวัสดีครับคุณ ท้องฟ้า

ขอบคุณสำหรับวาทะ นี้

(งานในพื้นที่ที่ต้องทำ นอกเหนืองานประจำคืองานในชุมชน

ดูแลสุขภาพด้วยจ้า) ติดใจ โครงการ "กรีน แอน คลีน "อยากไปดู กลับมาทำ นำหัวหน้าคิด นำไมสู่ตลาดนัดกากใย ใส่ใจคุณภาพ ที่กำลังทำอยู่

 ซึ่งเมื่อผู้เขียนได้มาวิเคราะห์แล้ว ร่างข้อเสนอดังกล่าว หากมีการบันทึกความร่วมมือ  จะทำให้เจตนารมณ์ของสภาองค์ชุมชนเปลี่ยนไป

       เพราะฐานคิดของการให้ได้มาซึ่งพรบ.ฉบับนี้ มาจากฐานคิดที่ต้องการให้พลังชุมชน เปลี่ยนแปลงสังคม "จุดเริ่มจากชุมชน  เปลี่ยนแปลงสังคมจากฐานราก"  หากฐานรากในการพัฒนาในการพัฒนาชุมชนมีความเข้มแข็ง มีตัวตนที่แท้จริงมีงานขับเคลื่อนเชิงประจักษ์ ผู้เขียนเชื่อว่าหน่วยงานย่อมต้องเข้ามาสนับสนุนเป็นหุ้นส่วน โดยยึดแผนงานโครงการที่ผ่านเวทีของสภาฯเป็นหลัก  

 น่าชื่นชมที่ยืนหยัดจุดยืนอย่างมีหลักการเช่นนี้ค่ะ ยากมากนะคะที่จะทำงานโดยที่คนส่วนใหญ่อาจยังชินกับวิธีการแบบเดิมๆที่มักทำตามๆกันไป

เป็นกำลังใจให้ รักษาสุขภาพให้แข็งแรงนะคะ จะได้สามารถทำงานได้เต็มที่

สวัสดีครับคุณ นายนุช

คิดต่างจากพรรคพวก ที่ต้องการให้หน่วยงานไปส่งเสริมความเข้มแข็งของสภาองค์กรชุมชน แต่เจตนารมณ์ ของพรบ.สภาองค์กรชุมชน ไม่มีสภาพบังคับ ชุมชนตำบลใหนมีความพร้อม ก็จดแจ้งขอเป็นสภาฯได้ และมีหลายแห่งที่เขาขึ้นรูปเป็นสภาชาวบ้าน เป็นเวทีที่ทุกคนเข้ามาพูดคุยแล้วเขารู้สึกปลอดภัย โดยไม่ต้องใช้ พรบ.สภา ฯมาบังคับใช้

"วันนี้เรายังขาดพื้นที่พูดคุยแล้วรู้สึกว่าปลอดภัย" สภาองค์กรชุมชนผมก็ฝันอยากให้มีพื้นที่ (สภาฯ) แบบนี้ ทุกคนมาใช้บริการได้แล้ว ปลอดภัย ก็มีสุข

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท