คงมีไม่กี่คนที่จะมีประสบการณ์การได้ไปใช้ชีวิตกับชาวเรือพาณิชย์ ที่มีขนาดเป็นหมื่นๆตัน ทุกครั้งที่ฉันได้มีโอกาสไปใช้ชีวิตที่เรือกับสามีที่มีตำแหน่งเป็นถึงกัปตันเรือ (สูงสุดในเรือ)
นี่คือห้องของทำงานของกัปตันเรือ มีห้องทำงานแยกจากห้องนอน พื้นห้องปูพรม มีห้องน้ำในตัวด้วย
ฉันก็ตื่นเต้นทุกที บางครั้งก็เห็นนบรรดานกบินวนที่หัวเรือ
เห็นเรือบรรทุกสินค้าด้วยกัน เรือบรรทุกแก็ส เห็นการสั่งการบนเรือ เสมือนผู้โดยสารที่มีโอกาสเข้าไปในห้องนักบินนั่นแหละ การเอาเรือเข้าท่า และออกจากท่า ต่างกับการเอาเครื่องบินขึ้นและจอด เรือต้องใช้บรรดาพนักงานระดับ Officer ถึง 8 คนและระดับช่างเทคนิคฝ่ายต่างๆอีกราว 16 คน ทุกคนรับคำสั่งจากกัปตันเรือแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งกัปตันเรือเองก็ต้องประสานกับต้นกล ซึ่งดูแลห้องเครื่องที่ใช้ในการนำเรือล่องทะเล คราวที่ฉันได้ไปนี้ในเรือต้องสื่อสารกันเป็นภาษาอังกฤษ เนื่องมาจากมีพนักงานชาวพม่ารวมอยู่ด้วย
พม่าที่ฉันรู้จักตอนนั่งทานข้าวด้วยกันเขาเป็นคนที่จิตใจดี ทำงานเก่ง ชอบจะทำอาหารพื้นเมือง(โดยใช้วัตถุดิบที่หาได้) มาทำให้ทาน เป็นน้ำพริกแบบพม่า (สุดยอดของความเค็ม)เพราะเครื่องปรุงหลักคือกะปิ อย่างไรก็ตามน้ำพริกที่ว่านี่ทานกับข้าวต้มก็ไม่เลว
ใช้เวลา ราว 5 วันเรือที่ออกจากสิงคโปร์ก็ถึงฟิลิปปินส์ ประเทศนี้ในช่วงนี้เจอมรสุมมากๆ แม้แต่ฉันเองอยู่กลางทะเละก็ถึงกับทนแทบไม่ได้ ต้องฝึกดูจิตที่มักจะเกิดอยู่เสมอ แต่สุดท้ายก็จำเป็นต้องมีอาการอาเจียนไปหนึ่งครั้งจนได้
ภาพตอนไปเที่ยวที่สิงคโปร์ Chaina Town
ถ่ายตำแหน่งเดิมแต่ตอนนี้ร้านค้ามีมากขึ้น
ไม่มีความเห็น