ผู้นำมาเผยแพร่ ดร.ศุภฤกษ์ ภมรรัตนปัญญา
บทนำ
ผู้ที่ได้มีโอกาสฝึกฝนปฏิบัติธรรมจนรู้คุณค่าของคุณธรรม หรือธรรมะแล้ว จะมีความชัดเจนว่า
สุขภาพดีจะเกิดไม่ได้ ถ้าไร้คุณธรรมหรือไร้ธรรมะ การสร้างสุขภาพหรือดูแลแก้ไขปัญหาสุขภาพจะขาดหรือ แยกออกจากคุณธรรม หรือธรรมะไม่ได้ ซึ่งต้องเป็นคุณธรรมหรือที่มีประสิทธิภาพถึงขีดขั้นสามารถฝึกตนให้มีพลังจิตที่เข้มแข็งที่จะสกัดกั้น ลดหรือสลายสิ่งที่เป็นภัย เป็นความเดือดร้อนต่อชีวิตของตนได้ จนจิตวิญญาณมีความสดชื่น โปร่งโล่งสบาย เบิกบาน แจ่มใส มั่นคง มั้นใจ ผาสุก อันเนื่องมาจากได้ฝึกฝนพลังจิตจนสามารถลดหรือจัดการกับวัตถุข้าวของหรืออาหารการกินที่เป็นภัยต่อสุขภาพ ความกล้ว ความวิตก กังวลอย่างเข้าใจชัด และแก้ไขถูกต้นเหตุรากเหง้าของปัญหา สำหรับผู้ที่มีภูิมิธรรมจะเข้าใจชัดว่า คุณธรรมหรือธรรมะนั้น เป็นกุญแจดอกที่สำคัญอย่างยิ่งที่จะไขรหัส เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาสุขภาพ เพราะโดยสัจจะแล้ว ต้นเหตุไม่้น้อยกว่า 70 - 80 % ของการเจ็บป่วย มาจากความติดยึดสารพัดในใจคน ดังที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ว่า "จิตวิญญาณเป็นประธานของสิ่งทั้งปวง" และพระองค์ก็ตรัสว่า คุณธรรมหรือธรรมะของพระองค์นั้นเป็นไปเพื่อความดับหรือพ้นทุกข์
เิดิมทีนั้นผู้เขียนเข้่าใจว่า คุณธรรมหรือธรรมะนั้น ช่วยลดทุกข์ ดับทุกข์ หรือพ้นทุกข์เฉพาะทางจิตใจเท่านั้น แต่เมื่อได้ฝึกฝนอย่างถ่องแท้แล้ว ผู้เขียนได้พบสิ่งมหัศจรรย์ในคุณธรรมหรือธรรมะว่า สามารถช่วยลดทุกข์ ดับทุกข์หรือพ้นทุกข์ทางร่างกายได้ด้วย กล่าวคือ สามารถทำให้โรคภัยไข้เจ็บหรือความเจ็บป่วยต่าง ๆ ทุเลาเบาบางหรือหายไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ และนั่นเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ผู้เขียนจำเป็นต้องนำเสนอรายละเอียดของคุณธรรมหรือธรรมะกับความเกี่ยวข้องสัมพันธ์ต่อสุขภาพ ในหนังสือความลับฟ้านี้ ซึ่งผู้เขียนมีเจตนามุ่งหวังให้ผู้อ่านได้รู้องค์ประกอบสำคัญอย่างมากอีกส่วนหนึ่งที่จะนำไปสู่การมีสุขภาพที่ดี
จากการที่ผู้เขียนได้มีโอกาสศึกษาทดลองพิสูจน์ประสิทธิภาพหรืออานุภาพของคุณธรรมหรือธรรมะขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งพระองค์ท่านเป็นผู้รู้โลกอย่างแจ่มแจ้ง (โลกวิทู) เป็นผู้ซึ่งไม่มีผู้ใดเทียบเท่า (อนุตตโร) ผู้เขียนได้ประจักษ์แจ้งถึงผลของการทดลองปฏิบัติพิสูจน์กับตนเองและเก็บข้อมูลจากผู้อื่นที่ปฏิบัติพิสูจน ์ประสิทธิภาพของธรรมะเช่นเดียวกัน ทำให้ผู้เขียนหมดความสงสัยว่าทำไมพระพุทธเจ้า จึงทรงกล้าตรัสถึงประสิทธิภาพหรืออานุภาพแห่งคุณธรรมหรือธรรมะของพระองค์ท่านว่า ผุ้ใดก็ตามที่ปฏิบัติอย่างถูกตรงแล้ว จะสามารถลดทุกข์ ดับทุกข์หรือพ้นทุกข์ได้อย่างเป็นจริงตลอดกาล (อกาลิโก) โดยเชื้อเชิญหรือท้าทายให้มาพิสูจน์กันได้ (เอหิปัสสิโก) ซึ่งผู้ฝึกฝนและปฏิบัติพึงรู้เห็นได้ด้วยตนเอง (สันทิฐิโก)
พระองค์ได้ตรัสไว้ว่า สัจจะความจริงที่พระองค์ได้ตรัสรู้และประกาศออกไปนั้น สามารถพิสูจน์ความจริงได้ตลอดกาล ไม่มีผู้ใดลบล้างได้ ท้าทาย หรือเชื้อเชิญให้มาพิสูจน์กันได้ไม่จำกัดกาลเวลา ผู้เขียนมีความเห็นว่า เราน่าที่จะได้ศึกษา ทดลอง พิสูจน์ตามเป็นอย่างยิ่ง เพราะนักวิทยาศาสตร์โดยส่วนใหญ่จะใช้เวลาแค่ไม่กี่ปีพิสูจน์ความจริงเพียงชาติเดียว แล้วนำมาเผยแพร่ ความน่าเชื่อจึงยังไม่เที่ยงแท้แน่นอนมากนัก ซึ่งผู้เขียนเองนั้นได้พยายามศึกษาทดลองและพิสูจน์ตาม ก็พบว่าได้ผลดังที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้จริงอย่างน่าอัศจรรย์ยิ่ง
ดังนั้น วิทยาศาสตร์สุขภาพเชิงธรรมะและจิตวิญญาณ ก็คือ หลักปฏิบัติืที่เป็นต้นเหตุให้สุขภาพแข็งแรงอายุยืน 7 ประการ
ที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ในพระไตรปิฏกเล่ม 22 ข้อ 125-126 "อนายุสสสูตร" ที่ 1-2 ดังนี้
1. เป็นผู้ทำความสบายแก่ตนเองผู้เขียนมีความเชื่อมั่นว่า คำตรัสของพระพุทธองค์ดังกล่าวเป็นผลดีต่อสุขภาพอย่างมากเพราะได้ทดลองนำหลักปฏิบัติทั้ง 7 ข้อ ไปปฏิบัติโดยเชื่อมร้อยเข้ากับหลัก 8 อ. เพื่อสุขภาพที่ดีตามแนวบุญนิยม
2. รู้จักประมาณในสิ่งที่สบาย
3. บริโภคสิ่งที่่ย่อยง่าย
4. เที่่ยวไปในกาละอันสมควร
5. ประพฤติเพียงดังพรหม (เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา)
6. เ็ป็นผู้มีศีล
7. คบมิตรที่ดีงาม
1. อิทธิบาท 4พบว่า ตัวเองและผู้ที่สนใจฝึกฝนการดูแลสุขภาพแบบพึ่งตนดังกล่าว ส่วนใหญ่มีสุขภาพที่ดีขึ้น
2. อารมณ์
3. อาหาร
4. อากาศ
5. ออกกำลังกายและอริยบท
6. เอนกาย
7. เอาพิษภัยออก
8. อาชีพที่เหมาะสม
เนื่องจากมีผู้คนจำนวนมากมักถกเถียงกันถึงวิธีการดูแลสุขภาพให้แข็งแรง อายุยืน ผู้เขียนมีความเห็นว่า ด้วยพระปรีชาญาณของพระพุทธเจ้าที่ทรงรู้ว่า มนุษย์แต่ละคนมีสภาพร่างกายที่มีความแตกต่างกันไป
จึงได้ทรงเมตตาเปิดเผยความลับของฟ้า ก็คือ ให้แต่ละคนได้ตรวจสอบความเหมาะสมของตัวเอง ซึ่งเราสามารถเชื่อมร้อยการปฏิบัติเข้ากับหลัก 8 อ.
อ้างอิง..http://www.morkeaw.net/k-science-Frameset.html
ไม่มีความเห็น