ผู้ใหญ่ชอบหยอกล้อเล่นกับเด็ก..ด้วยความเอ็นดู...สนุกสนาน..เป็นความสุขของผู้ใหญ่...
...แต่....เป็นความทุกข์อันแสนสาหัสของเด็ก...
ย้อยหลังไปเมื่อตอนครูปอเป็นเด็ก..ก็เคยถูกล้อเล่นเหมือนกัน..แสนสาหัสเชียวหละ..
เขาหาว่า..."แม่เก็บครูปอ..มาจาก..กอสวะหน้าบ้าน"...พร้อมทั้งบรรยายจนเห็นภาพว่า..กอสวะลอยมาติดที่สะพานท่าน้ำหน้าบ้าน..แม่ลงไปอาบน้ำเจอเข้าพอดี..จึงเอาไม้เขี่ยๆ กอสวะเข้ามา..พบเด็กอยู่บนกอสวะ..นั่นก็คือครูปอนั่นเอง...และที่ครูปอตัวดำ..เขายังย้ำอีกว่า..เป็นเพราะตากแดดนาน..กว่าแม่จะไปเจอ..ตัวก็เลยดำ".....ครูปอเสียใจมาก ๆ ชำใจมาก ๆ และก็หวาดระแวง...ว่า .. "ที่เราเรียก..พ่อ..กับ...แม่..น่ะเป็นพ่อกับแม่จริง ๆ ของเราหรือเปล่า..." ด้วยความเชื่อครูปอพยายามหาเวลาวิ่งไปดูกอสวะที่ศาลาท่าน้ำ...เผื่อจะเจอ..พี่น้องร่วมชะตากรรมลอยมากับกอสวะเหมือนครูปอบ้าง.....
...ครูปอเพียรถามพ่อกับแม่ว่า..รักครูปอไหม...รักเท่าไหน...พ่อกับแม่ก็จะตอบว่า "รัก...รักเท่าฟ้า"...ครูปอถามพ่อกับแม่บ่อย...เพราะคอยจับผิดพ่อกับแม่ว่า...จะรักครูปอน้อยลงหรือเปล่า...ถ้ารักครูปอไม่เท่าฟ้าละก็...ครูปอคงลอยมากับกอสวะจริง ๆ ด้วย....
.....ไม่ใช่แค่กอสวะนะ...วันหนึ่งมีญาติมาเยี่ยมพ่อกับแม่...พอเห็นครูปอเท่านั้นแหละ..ก็มีคำพูดเชือดเฉือนใจอีก.."เด็กคนนี้นะหรือที่ว่าได้มาจากกระบอกไม้ไผ่น่ะ.."
...หัวใจครูปอแทบสลาย...และสับสนมาก ๆ ตกลงครูปอ..ลอยมากับกอสวะ..หรือ..โผล่มาจากกระบอกไม้ไผ่กันแน่....ปัญหาเกิด...คราวนี้ครูปอเฝ้าเวียนดูลำไม้ไผ่ที่พ่อตัดมาใช้จากกอ...พยายามดูแล้ว ดูอีกว่า..ครูปออยู่ในกระบอกไม้ไผ่ได้อย่างไร...และโผล่ออกมาได้อย่างไร
วันหนึ่งพ่อถือขวาน.เลื่อย.และมีดเล่มใหญ่จะไปตัดไม้ไผ่ที่กอไผ่ในสวน...เป็นโอกาสดีมาก ๆ ที่จะวิ่งตามพ่อไปดูว่า...เราจะมีเครือญาติ..โผล่ออกมาจากกระบอกไม้ไผ่เพิ่มหรือไม่
...กลัวมาก ๆ เวลาพ่อใช้ขวานตัดไม้ไผ่..กลัวจะไปโดนเครือญาติของครูปอที่อยู่ในนั้น...ไม่เห็นมีเลย.(ผิดหวัง).
..เมื่อได้ไม้ไผ่ลำใหญ่ ๆ แล้ว..พ่อใช้เลื่อย..ตัดไม้ไผ่เป็นท่อน ๆ ครูปอดูลำไผ่ทุกท่อน..ไม่เห็นมีใครโผล่ออกมาเลย...รู้สึกผิดหวังจริง ๆ ...ครูปอเอามือล้วงเข้าไปในกระบอกไม้ไผ่..ดึงเยื่อไผ่บาง ๆ สีขาวนวลออกมา..ถ้าครูปอออกมาจากกระบอกไม้ไผ่จริง..น่าจะตัวขาว..เพราะในกระบอกไม้ไผ่เป็นสีขาว.แต่นี่ตัวดำ...จะออกมาจากกระบอกไม้ไผ่อย่างไร...สับสนจริง ๆ
...ยิ่งเวลาโดนดุ..ยิ่งสับสนว่าเรามาจากไหนกันแน่...กว่าความคิด..ความสับสนระหว่าง...กอสวะ..กับกระบอกไม้ไผ่..จะหายก็เล่นเอานานเหมือนกัน..จนโตนั่นแหละ...
...นี่ยังดีนะ...ที่ยังมีแค่สองทาง..ระหว่าง กอสวะ..กับกระบอกไม้ไผ่...ถ้าเป็นกองขยะด้วยละก็...ภาระครูปอต้องเพิ่มขึ้นแน่ ๆ ...คงต้องไปคุ้ยตามกองขยะเพื่อหาเครือญาติแน่ ๆ เลย....
หลานสาวคนเล็ก..เคยชอบล้อว่ามีคนที่มีลูกมากๆ
ทิ้งไว้...แล้วแม่ก็เก็บมาเลี้ยง...5555
สวัสดีค่ะคุณปณิธิ
ขอบคุณค่ะที่แวะมาอ่านกัน...
สวัสดีค่ะ ขอบคุณที่ไปแวะทักทาย
อ่านแล้วได้ข้อคิดมากค่ะ ผู้ใหญ่นั้นหากแค่มีอายุแก่กว่าเด็กแต่ขาดความมีจิตเมตตาสามารถทำอะไรที่ร้ายๆได้อย่างคาดไม่ถึงโดยที่ผู้ใหญ่คนนั้นอาจไม่ตระหนักรู้ถึงผลแห่งคำพูดของตน นี่ยังดีนะคะที่คุณครูปอมีคุณพ่อคุณแม่ที่รัก ให้ความอบอุ่น จึงไม่มีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น ตัวเองก็เคยพบผู้ใหญ่ปากกับสมองไกลกันมากมายค่ะ โบราณเขาว่า ผีเจาะปากมาพูดน่ะค่ะ^___^
คุณครูปอต้องทำบุญกุศลมาดีจึงเติบโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพและมีจิตใจอ่อนโยน นำบทเรียนของตนมาเป็นอุทาหรณ์ให้ได้คิดค่ะ
สวัสดีค่ะคุณนายดอกเตอร์
ค่ะ..ก็คิดว่าตนเองโชคดี...ที่มีพ่อกับแม่.ที่สุดยอดจริง ๆ
เป็นบันทึกที่ให้ข้อคิด สกิดเตือนผู้ใหญ่ คำที่พูดออกไป ทำร้ายจิตใจเด็กอยู่นานวัน