ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกคนจะได้รับแบบประเมินที่ประกอบไปด้วยหัวข้อ
ในประเด็นพัฒนาการของนักเรียนที่เห็นในคราวนี้มีความโดดเด่นเป็นพิเศษกว่าทุกคราว เนื่องจากเป็นภาคเรียนสุดท้ายของการก้าวผ่านจากช่วงชั้นที่ ๑ ไปสู่ช่วงชั้นที่ ๒
เมื่อสิบสัปดาห์ก่อน ในงาน “ชื่นใจ...ได้เรียนรู้”คราวที่แล้ว หลายคนเพิ่งเริ่มผลิบานการเรียนรู้ของเขาให้ได้เห็น (อ่านเพิ่มเติมได้จากบันทึก หนูทำได้ หนูทำเป็น หนูอยากทำhttp://gotoknow.org/blog/krumaimai/407618 ตอนที่ (๒) http://gotoknow.org/blog/krumaimai/407805 ตอนที่ (๓)http://gotoknow.org/blog/krumaimai/407807 ตอนที่ (๔)
มาในครั้งนี้ดิฉันพบว่าหลายคนเติบโตขึ้นมาก ทั้งทางร่างกาย และ การสะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจในสิ่งที่เขารู้ออกมาผ่านท่าทีการสื่อ "สาร"นั้นสู่ผู้อื่น
นาน่าเป็นเด็กหญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่ไม่เคยมั่นใจในการเสนอเรื่องราวใดๆ เลย มีบางครั้งที่เธอเดินออกมา แล้วก็วิ่งกลับไปกลับมาโดยไม่หลุดคำพูดออกมาจนสักประโยคเดียว หลังจากจบงาน “ชื่นใจ...ได้เรียนรู้” คราวที่แล้ว คุณครูแคท – คัทลียา ได้เรียกเธอ และเพื่อนบางคนนำเสนอให้ครูฟังซ้ำอีกครั้ง ก็พบว่านาน่าสามารถพูดเรื่องที่ตัวเองเตรียมมาให้ครูฟังได้อย่างคล่องแคล่ว แต่ต้องให้นาน่ายืนพูดอยู่หลังบอร์ดที่ไม่มีใครมองเห็น เมื่อครูแคทเห็นดังนี้จึงพูดกับนาน่าว่า “ที่บ้านหนูมีหุ่นมือไหมคะ” นาน่าตอบว่า “มีค่ะ..หนูมีพี่นกแก้ว”
นับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา หากเมื่อใดมีการนำเสนอ คุณครูทุกคนก็จะให้นาน่านำพี่นกแก้วมาโรงเรียนด้วย และเอาพี่นกแก้วมาพูดนำเสนอโดยที่เธอยืนพูดกับพี่นกแก้ว แล้วหันข้างให้ผู้ชม แล้วนกแก้วก็ทำให้นาน่าพูดนำเสนอเรื่องต่างๆ ที่เธอรู้ออกมาได้
ในวันที่ ๑๗ มี.ค. ๕๔ นาน่าสวมเสื้อกันหนาวสีเขียวหม่น ขับให้สีเขียวสดใสของพี่นกแก้วโดดเด่น และที่สดใสมากไปกว่านั้นก็คือเสียงของนาน่ากับพี่นกแก้ว ที่พูดนำเสนอตำนานของโลกตามความเชื่อของชาวคริสต์ได้อย่างคล่องแคล่วเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด นาน่าที่ยืนอยู่กลางห้อง แรกๆ ก็หันข้างให้ผู้ชม แต่ก็มีบางครั้งที่หันหน้าออกมาบ้าง หรือบางทีก็หันหลังให้ผู้ชมบ้าง แต่พี่นกแก้วของเธอตรึงผู้ชมเอาไว้ได้ตั้งแต่ต้นจนจบ
วันนี้เป็นวันสำคัญวันหนึ่งในการเติบโตของน่าน่า ไม่แพ้วันที่เธอก้าวเดินได้เองเป็นครั้งแรก ทุกคนได้เห็นว่านาน่าไม่เพียงแต่จะพูดออกมาได้อย่างไม่ติดขัดเท่านั้น แต่การที่เธอพูดทุกคำออกมาจากใจ ทำให้การนำเสนอของเธอมีชีวิตชีวา และมีความเป็นธรรมชาติอย่างมาก
พี่นกแก้วของเธอยังพูดกับคนดูด้วยว่า “เรื่องนี้เราไม่รู้หรอกก็เราเป็นนกแก้วนี่นา” ตัวของพี่นกแก้วที่ขยับไปมา กับสองขาสวมร้องเท้าบูธคู่เล็กที่แกว่งไกว เปลี่ยนท่าทางไปทุกครั้งที่มีการพูดถึงเรื่องต่างๆ สร้างความเพลิดเพลินให้กับผู้ชมจนกระทั่งทุกคนลืมไปเลยว่านาน่าคนเดิมประหม่าเพียงใดเมื่อต้องพูดเรื่องอะไรต่อหน้าผู้คน
ปัจจัยที่ช่วยให้นาน่าประสบความสำเร็จในการนำเสนอวันนี้ นอกจากเรื่องการสังเกตเด็ก และการหาวิธีแก้ไขปัญหาด้วยความเอาใจใส่ของคุณครูแคท แล้วก็คือ ลำดับ และตำแหน่งของการนำเสนอ
นาน่าเป็นผู้เชี่ยวชาญอยู่ในฐานที่ ๔ และเป็นคนที่ต้องนำเสนอในลำดับท้ายๆ ก่อนการนำเสนอ ทุกคนต้องมานั่งรอที่เก้าอี้ที่ตั้งอยู่ข้างห้อง จากนั้นเลื่อนไปนั่งที่แถวหลัง แล้วเลื่อนขึ้นมานั่งอยู่แถวหน้า ซึ่งมีโต๊ะยาวปูผ้าตั้งอยู่ ที่นั่งตรงนี้เป็นที่นั่งสำหรับผู้เชี่ยวชาญที่จะต้องเตรียมตัวพูด ซึ่งจะลุกมานั่งกันคราวละ ๔ - ๕ คน เมื่อถึงคราวของตนก็ลุกไปพูดแนะนำตัวทีละคน การเลื่อนตำแหน่งที่นั่งตามลำดับเช่นนี้ ช่วยลดดีกรีความประหม่าลงไปได้มาก ดิฉันสังเกตว่าเธอนั่งพูดกับพี่นกแก้วเบาๆ และนั่งเล่นกับพี่นกแก้วอยู่ แม้ตอนที่ถึงเวลาต้องเตรียมตัวพูด
โต๊ะยาวตัวนี้อยู่ในตำแหน่งกำลังพอดี และทำให้นาน่ามีที่(พัก)พิง เมื่อเธอต้องยืนพูดอยู่กลางห้องคนเดียว
ที่สำคัญคือ วันนี้นาน่ามีสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ และเอื้อต่อการก้าวข้ามอุปสรรคและความยากลำบากน้อยใหญ่ที่ต้องเผชิญ ถึงแม้ว่าการพูดต่อหน้าผู้คนมากมายจะเป็นเรื่องที่นาน่ากลัวที่สุดก็ตาม แต่ทุกสายตา ทุกความรู้สึกที่ส่งมาถึงก็คือแรงใจจากทุกคนที่อยากจะเห็นการเติบโตของเธอนั่นเอง
ไม่มีความเห็น