หาเงินซื้อที่ดินเพื่อการเกษตร


        อันเนื่องมาจากต้องหาเงินกู้ซื้อที่ดินปลูกยางพารา  ท้ายที่สุดผมก็หาหนี้สินมาใส่หัวจนครบ ๒.๘ ล้านเศษ เพื่อซื้อที่ดิน ๙๘ ไร่เศษที่ บ้านป่าจี้ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน  วันนี้สร้างหนี้ได้สำเร็จแล้วครับ  เอาเงินไปจ่ายให้เจ้าหนี้เรียบร้อยแล้ว ได้เอกสารสิทธิ์ นส.๓ มาจำนวน ๙ ฉบับ เป็นที่ไร่ละประมาณ ๑๓ ไร่เศษ รวมแล้วเป็นแปลงเดียวกันครึ่งภูเขา  จะเอาไว้ปลูกยางพาราครับ

         ผมจะไม่พูดถึงเรื่องเทคนิคการปลูกยางพาราแล้ว เพราะเล่าสู่กันฟังมาเยอะ แ่ต่จะเล่าถึงเทคนิคการหาเงินกู้เพื่อมาซื้อที่ดินครับ  กว่าจะหามาได้ยากเย็นแสนเข็ญดังที่เคยเล่ามาก่อนหน้านี้  แต่ท้ายที่สุดก็หาทางออกจนได้

        ๒๐๐,๐๐๐ บาท แรกเอามามัดจำ ได้จากเงินเก็บสะสมที่ได้จากการทำงานและเหลือจากส่งลูกเรียนหนังสือ  ๒๗ มกราคม ๒๕๕๔ เอามามัดจำที่ไว้ก่อน เพราะหลังจากที่สืบทราบว่าที่ดิน ๙ แปลง ที่เขาเคยพาไปดูเมื่อ ๒๕๕๑ ยังไม่ได้ขาย  เหตุผลที่ขายไม่ได้เพราะเป็นที่ดินแปลงใหญ่ต้องใช้เงินเยอะ เจ้าของต้องการขายรวมทั้งแปลง  ผมเองก็อยู่ในสถานะเดียวกัน คือไม่รู้จะเอาเงินมากมายอย่างนั้นมาจากไหน แ่ใจนั้น อยากได้ที่แปลงใหญ่

        ปลาายปี ๒๕๕๔ มีช่องทางกู้ ชพค. ๑.๒ ล้านบาท ต่อสมาชิก ๑ คน แต่ต้องจับกลุ่มกัน ๓ คน ก่อนสิ้นปี ๒๕๕๔ ให้ภรรยาส่งเรื่อง กู้ ชพค. ก่อน ซึ่งคาดว่าเงินจะออกต้นเดือนมีนาคม  ส่วนผมยังจับกลุ่ม ๓ คนไม่ได้  ค่อยแก้ปัญหาเอาภายหลัง ถ้าไม่ได้ที่ดินแปลงนั้น ได้แปลงอื่นก็จะเอา แต่ต้องหาเงินรอไว้ก่อน  เพราะรู้ว่าการซื้อที่ดินหากไม่มีเงินรอจ่าย ก็ไม่มีโอกาส

        ช่วงปีใหม่ ๒๕๕๔ ทราบจากเจ้าของที่ว่ายังขายไม่ได้ ตัดสินใจซื้อเลย นัดมัดจำ ๒๗ มกราคม ๒๕๕๔  ผมเลยเอาเงินสองแสนดังกล่าวมาจ่ายมัดจำ  พร้อมกับไปสำนักงานที่ดินเพื่อทำหนังสือจะซื้อขาย และประกาศฯ ๓๐ วัน ตามหลัดเกณฑ์การซื้อขายที่ดิน เอกสารสิทธิ นส ๓

        มีเวลา ๓๐ วันจะหาเงินจากที่ไหน  จากยอดซื้อทั้งหมด ๒,๙๔๒,๐๐๐ บาท เขาลดให้ ๑๐๐,๐๐๐ บาท เพราะไม่ต้องผ่านนายหน้า เหลือต้องจ่าย ๒,๘๔๒,๐๐๐ บาท  มัดจำไป ๒๐๐,๐๐๐ บาท  ต้องหาอีก ๒,๖๔๒,๐๐๐ บาท

        ภรรยาได้ ชพค. มา ๑,๑๐๐,๐๐๐ บาท  ภรรยาไปกู้สหกรณ์มา ๗๐๐,๐๐๐ บาท รวม ๑,๘๐๐,๐๐๐ บาท  ต้องหาอีก ๘๔๒,๐๐๐ บาท

         ผมไปกู้สหกรณ์มาอีก ๓๓๐,๐๐๐ บาท ต้องหาอีก ๕๑๒,๐๐๐ บาท

         ถึงตอนนีเริ่มตันแล้วครับ  มีเครดิตที่ไหนไปกู้มาหมดแล้ว  โชคดีที่ ชพค.ขยายเวลาจากหมดเขตสิ้นเดือนธันวาคม ๒๕๕๓ เป็นส้นเดือนมีนาคม ๒๕๕๔  วิ่งเต้นหากลุ่อยู่ร่วมเดือน  มาสำเร็จช่วงต้นเดือนมีนาคม ๒๕๕๔  ส่งเอกสารยื่นคำร้องเสร็จหมด  เอาล่ะ ถ้าไปยืมใครก่อนก็มีโอกาสใช้คืนแน่นอน

        ขอยืมเพื่อนที่ทำงานอีก ๒๐๐,๐๐๐ บาท  เขาไม่เอาดอกเบี้ยครับ คนเคยไปมาหาสู่กัน เคยพึ่งพากัน  สัญญากันว่าเงิน ชพค.ออกจะนำมาคืน  ยังขาดอีก ๓๑๒,๐๐๐ บาทอีก  ทำไงดีหว่า

        ตัดสินใจยืมแม่อีก ๓๐๐,๐๐๐ บาท  สัญญาว่าจะคืนเมื่อเงินกู้ ชพค.ออก เหมือนกับสองแสนข้างต้น

        เอาล่ะ อีก ๑๒,๐๐๐ บาท เปียแชร์เอาก็แล้วกัน  สู้แชร์มือแรกเอามาเลย ได้มา ๕๐,๐๐๐ บาท  เงินครบแล้ว เหลือเงินอยู่ ๓๘,๐๐๐ บาท

      เอามาซื้อตั๋วเครื่องบินซะ ๒ เที่ยว รวมค่าใช้จ่ายเดินทางประมาณ ๑๓,๐๐๐ บาท  คงเหลือเงิน ๒๕,๐๐๐ บาท

        ปัญหาคือค่าโอน ที่จะต้องจ่ายอีกน่าจะไม่ต่ำกว่า ๕๐,๐๐๐ บาท ทำไงดี 

        โชคดีที่ ช่วง มกราคม - กุมภาพันธ์ ๒๕๕๔ ราคายางพาราพุ่งทะลุ กก.ละ ๑๖๐ บาท  ช่วงนั้นเก็บเงินไว้ได้ ๔๐,๐๐๐ บาทเศษ  เอามารวมกับเงินที่เหลือ ๒๖,๐๐๐ บาท ได้เงินสดติดตัวมา ๖๕,๐๐๐ บาท  อย่างไรซะค่าโอนไม่เกินนี้แน่

         ก่อนถึงวันเดินทาง เอายอดเงิน ๒,๖๔๒,๐๐๐ บาท ไปซื้อดราฟ สั่งจ่ายตัวเอง ค่าซื้อดราฟ ๑,๐๐๐ บาทครับ แต่ปลอดภัยกว่าถือเงินสด  เพราะดราฟเป็นชื่อเราเอง ถ้าเราไม่เซ็นเบิกให้ ใครก็เอาไปเบิกไม่ได้

          เอาดราฟ กะเงินสดบินตรงหาดใหญ่ - เชียงใหม่ ใช้เวลา ๒ ชั่วโมงเศษ ต่อรถแทกซี่ ๑๒๐ บาทออกจากสนามบิน ต่อรถสองแถวจากแถวๆหนองหอยเข้าลำพูน จากเชียงใหม่ถึงลำพูน ใช้เวลา ๑ ชม.เศษ  ต่อรถสองแถวอีกทีจากลำพูนเข้าอำเภอลี้ ถึงอำเภอลี้ ใช้เวลา ๒ ชั่วโมงครึ่ง ถึงเวลา ๑๘.๐๐ น.

          รุ่งเช้า ๑๗ มีนาคม ๒๕๕๔ ผู้ขายมาพบและบอกว่าค่าใช้จ่ายในการโอนประมาณ ๒๒๐,๐๐๐ บาท  โห จะเอาเงินจากไหนนี่  นอกจากค่าที่ดิน  มีเงินติดตัวมาเพียง ๖๕,๐๐๐ บาท  แต่พอสอบถามรายละเอียดพบว่า ยอดนั้นรวมภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาอยู่แล้วด้ว  เลยต้องทำความเข้าใจกันใหม่ว่า ภาษีเงินได้ไม่ใช่หน้าที่ของผู้ซื้อ เป็นเงินได้ของผู้ขาย ซึ่งผู้ขายต้องเป็นคนจ่าย ไม่ใช่ผู้ซื้อต้องมารับผิดชอบ  พร้อมกับเอาตัวเลขการระดมทุนดังที่ผมร่ายยาวมาข้างต้นให้ดู พร้อมกับบอกว่า ถ้าจ่ายค่าธรรมเนียมการโอนคนละครึ่ง ผมประมาณแล้วไม่น่าจะเกินสามถึงสี่หมื่นบาท  เขาเลยตกลงว่าภาษีเงินได้บุคคลเขาจะจ่ายเอง

          ถึงเวลาไปทำการโอน ไม่ลืมที่จะเอาลูกหยีกวน โอทอป จากปัตตานีไปฝากเด็กๆ ในสำนักงานที่ดินสองห่อครับ

          วันนั้นเริ่มเวลา ๑๐.๐๐ น. เอกสารการโอนเสร็จ ๑๔.๐๐ น.  จ่ายค่าธรรมเนียมการโอนจากยอดรวม  ๙๓,๐๓๐ บาท คนละครึ่ง เป็นเงิน ๔๖,๕๑๕ บาท  ผมจ่ายเป็นตัวเลขกลมๆ ให้ ๔๗,๐๐๐ บาท  แล้วก็รอเอกสาร

          สำหรับคนขาย ต้องเสียภาษี ๑๓๐,๔๙๖ บาท รวมกับยอด ค่าธรรมเนียมการโอนประมาณสี่หมื่นหกพันบาท เป็นเงิน ๑๗๖,๐๐๐ บาท  โห ค่าภาษีโหดมาก

          ยอดเงินกู้ทั้งหมด เมือถึงสิ้นเดือนเมษายน ๒๕๕๔ ผมและภรรยาต้องผ่อนจ่ายเดือนละประมาณ ๒๔,๐๐๐ บาทครับ เหลือเงินไว้จ่ายในครัวเรือนรวมทั้งส่งลูกเรียนหนังสือ ประมาณเดือนละ ๓๐,๐๐๐ บาทเศษ

           เล่าสู่กันฟังเพื่อถ่ายทอดประสบการณ์การหาเงินกู้ซื้อที่ดินครับ

หมายเลขบันทึก: 431631เขียนเมื่อ 17 มีนาคม 2011 23:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:39 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (25)

จำได้ว่าพี่ชนันท์เลยเล่าเรื่องทำนา ที่บ้าน

ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้างครับ รอติดตามรับชมครับ

เอามาฝากครับ

http://gotoknow.org/blog/supersup300/431612?page=1#2392474

 

มาเป็นกำลังใจให้พี่ชนันท์คะ

ได้มาเรียนรู้วิธีบริหารจัดการเงินเพื่อนำไปซื้อที่ น่าสนใจมากๆ เลยนะคะ ^_^

         ขณะตอบนี่ ผมยังอยู่ที่จังหวัดลำพูนครับ  ตั้งแต่ประมาณวันจันทร์ที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๔ ฝนหนาวกลางฤดู้อน ตกตลอดเวลาครับ โห อากาศที่อำเภอลี้ ๑๖ องศา ครับ ฝนตกตลอดเวลาก่อนผมมา ๒ วัน เมื่อคืน ๑๗ มี.ค. ตกยันสว่าง พึ่งมาหยุดเช้านี้(๑๘) แผนที่จะขึ้นไปสวนเป็นอันพับครับ เพราะทางขึ้นชันมากและก็ลื่นด้วย อีกอย่าง เราเป็นคนจร ไม่มีรถโฟวีล นี่เป็นอีกปัจจัย ถ้าจะทำสวนที่นี่ผมต้องวางแผนหารถโฟวีลสักคัน หรือไม่งั้นก็เอาแทรคเตอร์มาใช้สักคัน ถึงจะทำงานได้

        ขอบคุณ มะปรางเปรี้ยวนะครับ ที่ให้กำลังใจ ผมเห็นว่าเรื่องอย่างนี้ ไม่ค่อยจะมีองค์ความรู้นะครับ คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะเปิดเผยหนี้สินของตนเอง เห็นว่าอายที่เป็นหนี้นะครับ แต่สำหรับผมไม่เคยปิดบังครับ เพราะเราไม่ใช่คนร่ำรวยมาจากไหน แต่เครดิตดีครับ  เห็นว่าหลายคนไม่รู้จะปรึกษาใคร การเขียนเพื่อเผยแพร่ให้คนที่สนใจน่าจะเป็นประโยชน์ เผื่อจะได้อานิสงส์ ชาติหน้าจะได้ไม่ต้องกู้เงิน ไม่ลำบากเหมือนชาตินี้ไงครับ พูดถึงกุศลเช่นนี้ มะปรางเปรี้ยวได้เยอะเลยแหละ

        สำหรับคุณต้นกล้า หลังจากผมพึ่งหัดใช้เครื่องดำนา ผมดำไป ๔ ไร่ ครับ ขณะนี้ข้าวพันเฉี้ยง กำลังจะสุกครับ บางส่วนเป็นเก็บได้แล้ว เสร็จธุระจากนี่(หนี้) คงได้กลับไปจัดการครับ ที่ปัตานี ตอนนี้เป็นฤดูเก็บเกี่ยวครับ  ข้าวที่ผมใช้เครื่องดำนา ไม่ได้ถ่ายรูปมาลงซักกะที ขออภัยด้วยนะครับ แต่ก่อนจะเก็บเกี่ยวสัญญาว่าจะถ่ายรูปมาให้ชมกันครับ

เชียร์และเป็นกำลังใจ..ให้ครับ

พี่ชนันท์คะ

ต้องขอบคุณมากๆ ค่ะ ที่แบ่งปันข้อมูลกันอย่างเต็มที่ หนูเองก็ใฝ่ฝันอยากจะทำการเกษตรอยู่เหมือนกันเลย คงต้องขอเรียนรู้กับพี่บ่อยๆ ผ่านทางบันทึกนี่ล่ะค่ะ

ขอบคุณมากๆ นะคะ ^_^

แวะมาให้กำลังใจครับ  และดีใจที่ใช้บริการสหกรณ์ในการลงทุน คนที่ทุนน้อยมักเข้าถึงเงินทุนของสถาบันการเงินได้อยาก ต่อไปก็วางแผนการชำระคืนดี ๆ นะครับ  ขอให้โชคดี

เป็นหนี้แต่ได้ที่ดินเป็นความคิดที่ดีมากครับ

ขอบคุณทุกกำลังใจนะครับ  เพราะว่า "ความไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ" ผมเคยพบรสชาติหนี้สินมามากแล้ว  เพราะว่าในอดีตการจะสร้างตัว หากรอเงินเก็บก็อีกนานครับ เช่น การสร้างบ้าน หากเก็บเงินให้ได้ ๑.๕ ล้าน คงได้อยู่บ้านไม่เกิน ๕ ปี เพราะอายุเข้าวัยเฉลี่ยหากจะพอใจในความ "ไม่มี" ก็ดูจะขาดแคลนมากเกินไป ไม่ใช่อยากจะฟุ่มเฟือยนะครับ แต่เวลามันฝืด แสนจะทรมาน เลยต้องดิ้นรนอย่างที่เล่ามา

 

ในขณะเดียวกัน เมื่ออยากได้อะไร จำเป็นต้องสร้างหนี้ แต่สร้างไม่ได้นี่สิ มันเหนื่อย ไม่ใช่ใครๆ ไฟเขียวให้เราเป็นหนี้ง่ายๆ ครับ  เราจะเป็นหนี้ได้ต้องมีเครดิต ครับ

... อ่านแล้วเหนื่อยใจแทนพ่อแม่ ยังไงจะช่วยประหยัดเงินนะครับ

จะพยายามประหยัดให้มากไว้นะครับ

แต่ไทรเชื่อว่าการสร้างหนี้ครั้งนี้ของพ่อมีคุณประโยชน์มากกว่าโทษแน่นอนครับ

ที่ดินอย่างไรก็ไม่มีวันหาย ราคาไม่มีวันตก อยู่บนโลกนี้วันยังค่ำ แถมยังสามารถนำ

ไปสร้างเงินจากทางอื่นได้อีกด้วย ^^

ขอให้ประสบความสำเร็จ หนี้สินโดยเร็ว โชคดี

อยากหาเงินซื้อทึ่ดินทำสวนยางพาราบ้างจัง

ปัจจุบันเงินเดือนแค่ 12500 บาทเอง

กู้ธนาคารได้ไหม

ใครพอรู้บ้าง ช่วยบอกหน่อย ค่ะ

            ตอบคุณkiki ผมแนะนำให้หาพื้นที่ใกล้ๆบ้าน ที่ราคาไม่่แพงมากนัก พื้นที่ไม่ต้องเยอะ อาจจะสามถึงสี่ไร่ก่อน ราคาไม่เกิน ๒๐๐,๐๐๐ บาท การจะกู้หนี้ล้วนๆ โดยไม่มีเงินอื่นชวย จะลำบากมากครับ ทีสำคัญต้องเก็บหอมรอมริบไว้เป็นทุนสักก้อน ก่อนนะครับ ถ้ามีเงินเดือนประจำ ผมแนะนำให้เข้าสมัครสหกรณ์ออมทรัพย์ที่ไหนสักแห่ง เพราะจะเป็นแหล่งเครดิตอย่างดี เงินต้นพอประมาณดอกเบี้ยต่ำ แล้วอย่าเอาเงินกู้ไปซื้อรถยนต์เสียล่ะ เมื่อถึงเวลาเครดิตดี กู้ได้เยอะๆ ก็เอามาใช้ประโยชน์ในการซื้อที่ดิน ก็จะได้แปลงใหญ่ขึ้น สำหรับการติดต่อธนาคาร กู้เพื่อทำสวน ดูได้จากบทความนี้ครับ

บันทึกนี้ให้ความรู้ได้มากจริง ๆ ขอให้ผลผลิตงอกเงยจนสามารถปลดหนี้ได้หมดในเร็ววันคะ

โดยส่วนตัวแล้วกำลังหาซื้อดินสักแปลงสร้างบ้าน แต่เนื่องจากหากเราซื้อดินเปล่า ธนาคารปล่อยกู้แค่ 50% ของที่ดิน นั่นหมายความเราต้องมีเงินสดอีก 50% ของราคาที่ดิน สำคัญคือที่ดินแถวหาดใหญ่ ราคาุ่พุ่งขึ้น แบบสู้ไม่ไหว

เห็นจากบันทึก "บ้านในสวน" คือความใฝ่ฝันของดิฉันเลยคะ แต่ไม่ต้องมีพื้นที่ใหญขนาดนั้น คิดว่าหาให้ได้สัก10 ห้อง ก็หรูแล้ว แค่อยากมีพื้นที่ ให้ปลูกผักสวนครัวกินเอง แต่ดูจากสภาพแล้วคิดว่าคงอีกนาน

เมื่อวานผมขับรถผ่าน เนินพิจิตร - เขากลอย - ลพบุรีราเมศร์ ผมว่าแถวนั้นน่าอยู่นะครับ หาซื้อที่ใกล้ๆ สัก 1-2 ไร่ ราคาประมาณที่สู้ได้ (น่าจะ ห้าแสนถึงล้าน) แล้วค่อยออกแบบบ้านทีหลัง

ผมอ่านเรื่องของพี่ ชนันท์ แล้ว รุ้สึกว่าพี่แกเป็นคนมุ่งมั่นดีนะครับ

ว่าแต่ว่า ทำไมพี่ชนันท์ไปซื้อที่ดินไว้ไกลจังครับ ไปถึงลำพูนโน่นครับ

ผมก็เป็นคนนึงครับ ที่กำลังมองหาที่ดินไว้ซักหน่อยเหมือนกันครับ แต่ก็ยังมองหาไม่เจอครับ

พอจะมีที่แนะนำบ้างมั้ยครับ

ขออภัยมาตอบหมวดสุนันท์ ช้ามากๆ

เหตุผลที่ต้องไปซื้อที่ไกลๆ มี 2-3 เหตุผลครับ ประการแรก ที่ดินแถวปัตตานีมันแพงมากครับ  ขนาดเป็นที่นารกร้างว่างเปล่า แลูกข้าวได้แต่ปลูกยางไม่ดีเพราะเป็นพรุอยู่ที่ลุ่ม ไร่ละ 50,000 - 120,000 บาทครับ  ที่ทางภาคเหนือ(ยกเว้นเมืองท่องเที่ยว) ที่บนเชิงเขา อาจเป็นไร่ข้าวโพด หรือที่เปล่า(ยกเว้นมีลำไย) ไร่ละไม่เกิน 50,000 บาท  เหตุผลที่ 2  เป็นการบริหารความเสี่ยงครับ  ถ้าปัตตานีอยู่ไม่ได้ หรือเครียดหนักๆ ก็ขึ้นไปพักผ่อนอยู่ที่โน่นสัก 7-10 วัน  กลับมาก็ Fresh ครับ  เหตุผลที่ 3 ที่ปัตตานีค่าแรงแพงมาก  หาคนทำงานยากมาก เล่นตัวอีกต่างหาก  แต่ที่โน่น สามารถหาคนมาทำงานได้วันละ150 - 250 บาท ไม่ยาก  แล้วก็มีเยอะด้วย  วันหนึ่งเราสามารถระดมแรงงานได้เป็น50-100 คนทีเดียว เหตุผลที่ 4 ปัจจุบันการเดินทางสะดวกมาก  ด้วยแอร์เอเซีย  สายการบินราคาถูก  บินตรงจากหาดใหญ่ถึงเชียงใหม่ ต่อเข้าอำเภอลี้ ลำพูนอีก 3 ช.ม.  ไปสายๆ ค่ำๆ ก็ไปถึงแล้วครับ  ขากลับก็เช่นเดียวกัน  ออกจากบ้านลี้เช้า บ่ายๆ ก็ถึงบ้านแล้วครับ  ค่าเดินทางเฉลี่ย ไปกลับ 4,000 - 5,000 บาท ไปทำสวนเป็นร้อยไร่  ผมว่าไม่แพงนะครับ  เหตุผลสุดท้าย  เพราะที่นั่นเป็นบ้านแม่ยายครับ

มาอนุโมทนา เอ้ย มาเชียร์ครับ 

ขอให้ได้ข้าว ต้นละหม้อ กอละเกวียนเลยนะครับ

เป็นกำลังใจให้ด้วยคนครับ ผมมีปัญหาแบบเดียวกับพี่บ่าวเลยแต่เป็นที่ดินที่สตูลเนื้ิอที่ 21 ไร่พร้อมสวนยางแค่ได้ตัดแล้ว ราคา 6ล้านบาทครับ กำลังคิดวิธีหาเงินเหมือนพี่บ่าวเลยครับ ไม่รู้ว่าจะเป็นพรันพรือมั่ง เขาจะให้ผมกู้เหมือน พี่บ่าวหรือป่าวก็ไม่รู้ึครับ แต่ก็ไ้ด้เห็นว่าพี่บ่าวทำได้ก็จะพยายามครับ

ท่านใดสนในที่จะซื้อที่สวนยางที่จังหวัดพะเยาราคาถูกบ้างค๊ะมีชาวบ้านแบ่งขายหลายแปลงค่ะเพราะลงสวนยางไปแล้วชาวบ้านทำไม่ไหวค่ะเลยจะแบ่งขายมีทั้งที่ซื้อแล้วกรีดทำรายได้เลยและกำลังรอกรีดอีกไม่ถึงปีค่ะทำเลดีมากค่ะส่วนใหญ่ติดถนนสายหลักที่ใช้เชื่อมต่อชายแดนไทย-ลาวค่ะห่างจากชายแดนประมาณ 5 กิโลเมตรค่ะ และเป็นถนนที่จะใช้เป็นเส้นหลักของกลุ่มอาเซียนที่กำลังจะมาค่ะ เหมาะกับท่านที่จะอยู่สบายๆตอนอายุมากหรือท่านที่อยากจะทำการค้าระหว่างชายแดนหรือจะทำการค้าเป็นกำไรก็ได้ค่ะเพราะมีนายทุนกว้านซื้อเพื่อกำไรจะหมดแล้วค่ะเพราะกำไรดีมากราคาขึ้นสูงตลอดยิ่งอาเซียนใกล้จะมาถึงแล้วแพง 10 เท่าตัวเลยค่ะ สาเหตุที่ราคาไม่แพงเพราะเป็นราคาที่ชาวบ้านขายเองค่ะส่วนผู้ประกาศขายนี้พอดีมีเพื่อนอยู่ที่นั่นแล้วการติดต่อยากลำบากค่ะก็เลยอาสาช่วยเพื่อนค่ะเพราะที่ดินสวนยางที่จะขายเป็นของญาติๆเพื่อนทั้งหมดค่ะ  ตอนนี้มี 3-4 แปลง ที่จะขายแต่ละแปลงเนื้อที่ไม่เท่ากันแต่ราคาถูกจริงๆเพราะทุกแปลงยังไม่มีนายทุนซื้อเพื่อขายเกร็งกำไรต่อค่ะ ผู้ประกาศไม่ใช่นายหน้าค่ะเพราะฉะนั้นถ้าขายหมดนี่แล้วก็ไม่มีแล้วค่ะ ถ้านานกว่านี้อีก 3-4 เดือนราคาจะขึ้นมาอีกนะค๊ะ ท่านใดสนใจติดต่อสอบถามรายละเอียดด่วนค่ะ  084-9114942 กฤษณาค่ะ

ขอโทษนะคะที่ต้องมาลงตรงนี้เพราะผู้ประกาศอยากได้ค่ะแต่ยังหาเงินซื้อไม่ได้ เผื่อจะมีท่านใดสนใจนะค๊ะ

อยากทราบว่าขายไร่ละเท่าไรคะ จะขายกี่ไร่คะ ก็สนใจอยู่นะคะ แต่ยังไม่มีเงิน กะว่าจะถามทางบ้านแฟนเหมือนกันว่าสนใจมั๊ย อยากซื้อไว้ไม่ต้องมากก็ได้ พอใช้ทำเกษตรผสมผสานด้วย

เป็นวิธีคิดที่ดีมากครับ ผมทำงานอยู่ในกรุงเทพน้อยคนนักที่จะคิดแบบนี้ส่วนใหญ่คิดแต่จะซื้อบ้านหรูซื้อรถคันใหญ่สร้างหนี้ที่ไม่ใช่ทรัพสินหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ทั้งๆที่ราคาก็แพงผ่อนกันแบบยาวๆ20-30ปีผ่อนหมดก็แก่พอดี แต่ของพี่ชนันท์คงเป็นชีวิตที่น่าอิจฉาสุดๆ ให้ทรัพสินสร้างรายได้โดยที่ทรัพสินก็ยังมีมูลค่าเพิ่มขึ้นทุกปี แถมเป็นมรดกอันมีค่าแก่ลูกหลาน นับว่าเป็นการบริหารจัดการชีวิตที่ดีจริงๆ ขอบคุณครับสำหรับองค์ความรู้

ตอนนี้เป็นยังไงบ้างครับ เล่าประสบการณ์หน่อยครับ ได้ทุนคืนมาบ้างยังครับ

พี่ชันน์ ไหมก้อเป็นคนหนึ่งที่อยากกู้เงินซื้อที่สัก5 ไร่เพื่อทำเกษตรแต่ไม่มีทุนคะ

อยากได้เงินสัก 5 แสน ซื้อที่ 5 ไร่ ราคาประมาณ3 แสนที่เหลือไว้เป็นทุนกับสำรอง

แต่ก้อยังหาไม่่ได้เลย อายุก้อ หลัก4 แล้วอยู่ กทม.มาตลอดรู้สึกอิ่มกับชีวิตแบบนี้



คงมีความรู้สึกเหมือนๆกัน อยากได้ แต่ไม่มีทุน คำตอบจึงอยู่ที่ "ทุน" ครับ ซึ่งหาเงินได้จาก 2 ช่องทางเท่านั้น คือ เงินออม กับ เครดิต ครับ

เงินออม ได้จากการเก็ย

เครดิต ได้จากผู้อื่นที่เขาให้ยืมโดยมีความหวังว่าจะได้เงินต้นคืน ดังนั้น ถ้าไม่มีเครดิต เขาก็ไม่ให้กู้ นี่คือปัญหา ครั

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท