English&Thinglish


ก่อนถึงระดับบัณฑิตวิทยาลัย คนไทยเรียนภาษาอังกฤษมาแล้วอย่างน้อยสิบปี

 

        คนไทยกับปัญหาการใช้ภาษาอังกฤษที่เป็นข่าวมาเป็นระยะๆ กว่าสิบปีมานี้ ไม่ใช่ปัญหาใหม่ เรื่องนี้เริ่มต้นและดำรงคงอยู่มานานหลายศตวรรษ ตั้งแต่เราเริ่มรู้จักและติดต่อกับชาวยุโรปแล้ว ปัจจุบันนี้ ปัญหาเดิมๆ ที่มีอายุยืนนานนี้ก็ยังไม่หายไปไหน ถึงแม้เราจะเห็นตัวหนังสือฝรั่งเต็มบ้านเต็มเมือง ไม่เว้นแม้กระทั่งสื่อของรัฐที่อ้างว่ารักความเป็นไทยก็ยังใช้ชื่อสถานี และชื่อรายการต่างๆ เป็นชื่อฝรั่งจำนวนมาก ปรากฏการณ์ที่เห็นชัดด้วยตาเปล่าเหล่านี้ ไม่ใช่หลักฐานที่ใช้ยืนยันได้ว่า คนไทยส่วนใหญ่สามารถใช้ภาษาอังกฤษได้จริงๆ

         ตัวอย่างที่เห็นชัดที่สุด (เพราะเป็นวิชาการที่สุด) คือภาษาอังกฤษที่บัณฑิตวิทยาลัยของมหาวิทยาลัยทั้งหลายในประเทศไทยใช้บังคับนักศึกษาระดับปริญญาโทและปริญญาเอกให้สอบ (มิฉะนั้นไม่จบ) นั้นมีไว้เพื่อ ติว ก่อนสอบมากกว่ามีไว้สอนและเรียนให้ใช้งานได้จริง เรื่องจริงคือ คนที่ใช้งานได้จริงหลังสอบคือคนที่ใช้งานได้จริงก่อนสอบอยู่แล้วทั้งนั้น ส่วนคนที่ใช้งานไม่ได้ก่อนสอบหลังจากสอบผ่านแล้วก็มักจะยังคงใช้งานไม่ได้เหมือนเดิม อย่างดีที่สุด คือ รู้ศัพท์ที่ต้องรู้เพราะต้องใช้เขียน วิทยานิพนธ์จำนวนหนึ่งเท่านั้นเอง เท่าที่ทราบ มีระดับปริญญาเอกบางหลักสูตรเท่านั้นที่จริงจังกับเรื่องนี้ เพราะเนื้อหาสาระจากวิทยานิพนธ์ จะต้องถูกนำไปเผยแพร่ในระดับนานาชาติด้วย แต่ถ้าใช้กติกาข้อนี้หลังจากเล่มภาษาไทยจบสมบูรณ์แล้วก็คาดหมายได้ไม่ยากว่าทำด้วยวิธีใด...นี่ขนาดมีกฎกติกาบังคับ มีกระบวนการเรียนการสอนเป็นเรื่องเป็นราว ต้องเสียสตางค์เรียน และใช้ข้อสอบนานาชาติจริงๆ แถมอาจจะต้องสอบแล้วสอบอีกหลายครั้งจน(จำข้อสอบได้เกือบหมดถึงจะ)ผ่าน ก็ยังใช้เป็นหลักประกันไม่ได้ ที่น่าคิดมากคือ ก่อนถึงระดับบัณฑิตวิทยาลัย คนไทยเรียนภาษาอังกฤษมาแล้วอย่างน้อยสิบปี ซึ่งเป็นสิบปีที่สูญเปล่าจริงๆสำหรับหลายคน

        ข้อแก้ตัวหรือแก้ต่างที่ได้ยินบ่อยที่สุด คือ เพราะเราไม่เคยเป็นเมืองขึ้นของฝรั่ง นอกจากนี้ยังเคยได้ยินเช่นกันว่า การที่คนไทยอ่อนภาษาอังกฤษไม่ควรถือเป็นปมด้อย   อันนี้ก็น่าคิด เพราะมีมิติทางวัฒนธรรมสนับสนุนอยู่ไม่น้อย ฟังแล้วรู้สึกว่าเป็นคำแก้ตัวของพวกขี้แพ้ชวนตีน้อยกว่าข้อความแรก

        ผมขอพูดซ้ำกับที่เคยได้ยินมาแล้วหลายครั้งว่าการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในประเทศไทยที่แล้วๆมา คือหนึ่งในความล้มเหลวทางการศึกษาที่ชัดเจนมาก (จนน่าจะเป็นคู่แข่งของวิชาคณิตศาสตร์ได้) และนี่เหมือนกับยืนยันที่ผมเคยพูดแล้วเช่นกันว่า คนไทยจำนวนหนึ่งเรียนเพราะต้องการวุฒิมากกว่าภูมิรู้

        ผมเชื่อว่ามีเหตุปัจจัยมากมายอยู่เบื้องหลังความล้มเหลวนี้ แต่ผมจะใช้ธรรมชาติและวัฒนธรรมทางภาษาของ คนไทยเป็นหลักในการอภิปรายหลังจากนี้ครับ 

หมายเลขบันทึก: 430765เขียนเมื่อ 11 มีนาคม 2011 18:22 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:38 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

ขอบคุณทุกๆกำลังใจครับ หลังจากนี้ยังมีอีกหลายตอนครับ

สวัสดีค่ะอาจารย์(สล่ากวาม)

เป็นคนหนึ่งที่เรียนภาษาอังกฤษมามากกว่าสิบปี เรียนตั้งแต่อยู่ชั้นป.5 ก่อนหน้านั้นเรียนโรงเรียนวัดไม่มีสอนภาษาอังกฤษนะค่ะ

ยอมรับว่าที่เรียนมาสูญเปล่าจริงๆค่ะ เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาใช้ภาษาอังกฤษในการอ่าน (ก่อนจะอ่านได้พอที่จะเข้าใจก็ต้องเสียเวลาอย่างมากในการแปล)และก็มีเขียนบ้างในการเรียนอย่างที่อาจารย์บอกแหละค่ะ ส่วนเรื่องการพูดเพิ่งจะได้กับคนแคนาดาเมื่อ 5  ปีมานี่เองรู้เรื่องบ้างไม่รู้เรื่องบ้าง (ที่ไม่รู้เรื่องเพราะฟังไม่ออก ว่าเขาพูดอะไร ) ก่อนหน้าก็เคยพูดกับครูที่สอนภาษาอังกฤษบ้างตอนเรียนนิดๆหน่อยๆ ซึ่งเป็นคนไทย ไม่ได้ไปติวตามสถาบันสอนภาษาอังกฤษต่างๆกับครูต่างชาติ ที่มีราคาแพงมาก แต่ถึงยอมเสียเงินเรียนแต่ไม่ได้ฝึกปฏิบัติจริงก็เหมือนการเรียนขับรถ เรียนแล้วไม่มีรถขับ ก็มีแต่ใบขับขี่ พกใส่กระเป๋าไว้เท่านั้น

หลายคนแก้ปัญหาโดยการส่งลูกเข้าเรียนในโรงเรียนสองภาษาตั้งแต่เล็ก แล้วไปต่อระดับมหาวิทยาลัยในต่างประเทศหมดเรื่องหมดราวไป คนกลุ่มนี้จะสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้ดี

เด็กไทยในวัยเรียนตั้งแต่ระดับอนุบาลและระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน 12 ปี รัฐบาลมีงบประมาณให้ในการจ้างครูต่างชาติมาสอนภาษาอังกฤษ ในบางโรงเรียนจะจัดหลักสูตรสองภาษาซึ่งผู้ปกครองจะต้องจ่ายในส่วนที่แตกต่างตามที่โรงเรียนกำหนด  แต่ในบางโรงเรียนจ้างครู ที่ไม่ใช่ native speaker  มาสอนภาษาอังกฤษให้แก่เด็ก ทำให้เด็กเสียโอกาสที่ดีในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษอย่างน่าเสียดาย

แต่ตอนนี้เดินไปทางไหนก็มีแต่คนต่างชาติ หากใครที่พูดภาษาอังกฤษไม่คล่อง ทุนน้อย ลองหันมาฝึกพูดภาษาเพื่อนบ้านใกล้ๆก็น่าจะดี ไกลหน่อยก็ประเทศจีน เพราะยังมีช่องทางธุรกิจการค้าอีกมาก

คนรุ่นก่อนมักได้เรียนอย่างลุ่มๆดอนๆเช่นที่ท่านเล่ามานั่นแหละครับ รุ่นต่อๆไปถ้าเรียนถูกวิธีคงดีขึ้นเอง เพราะมีคนต่างชาติมาสมัครสอนภาษาอังกฤษในบ้านเราทุกปี..ขอบคุณครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท