ยาชุด........ยังอยู่


จากการเดินทางไปเรียนรู้กับพื้นที่ในรูปแบบต่าง ๆ ทำให้ ทีมได้เห็นภาพสะท้อนบางอย่างชัดเจนเกี่ยวกับเรื่อง "ยาชุด" ลองอ่านดูนะคะ ดูเหมือนว่า "มีมานาน และก็ยังคง มีอยู่"


ยาชุด........ยังอยู่ 

               

ศุภลักษณ์  พริ้งเพราะ.........ผู้เขียน
ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ ๖ (ขอนแก่น)

 

จำได้ว่าเมื่อยี่สิบสามสิบปีที่แล้ว  สมัยที่ยังเป็นเด็ก  แถมเป็นเด็กน้อยบ้านนอกอีกต่างหาก  อะไรก็ยังไม่เจริญมากมายขนาดนี้  "เมื่อพ่อกลับจากทำนา  รู้สึกไม่สบายปวดเมื่อยตัว  ก็จะบอกว่าปั่นจักรยานไปซื้อยาให้หน่อย" 

ก็เป็นที่รู้กันภายในหมู่บ้านว่าจะต้องไปซื้อที่ไหน  ก็คงไม่ใช่ร้านขายยาที่มีเภสัชกรเป็นผู้ขาย  ไม่มีคลินิกหมอ  มีอนามัยที่มีเจ้าหน้าที่ทำงานอยู่คนสองคน  เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว

 เพราะการไปหายาช่วงเวลาเย็น  ๆ  นั้นจะไปหาที่สถานีอนามัยได้  เพราะเจ้าหน้าที่ก็คงกลับบ้านไปเรียบร้อยแล้ว  ถ้าจะพูดถึงโรงพยาบาลประจำอำเภอก็ไม่ไกลหรอก  แต่สมัยนั้นการไปมาไม่สะดวกเอาเสียเลย 

เพราะฉะนั้นถ้าจะให้ดีห้ามเจ็บห้ามป่วยว่างั้นเถอะ 

เมื่อเป็นเช่นนี้ทางเลือกสุดท้ายไปจบที่ร้านอาแปะ  (เมื่อก่อนคิดว่าเขาชื่อแปะ  แต่ไม่ใช่กลับแปลว่าลุงก็เป็นความรู้ใหม่เหมือนกัน)  แต่ตอนนี้ด้วยความที่สถานีอนามัยที่บ้านพัฒนาขึ้นเยอะมากจนกระทั้งเปลี่ยนชื่อกลาย เป็น  รพ.สต.ไปแล้ว 

แถมมีทั้งพยาบาล  เภสัช  และคุณหมอจาก  รพ.อำเภอมาตรวจให้อีกต่างหาก 

ในที่สุดร้านอาแปะก็หายไปจากหมู่บ้าน    (จริง  ๆ  แล้วแกตาย   ลูกหลานก็ไม่มีใครสานต่อ  ร้านอื่นก็ไม่มีใครขาย) 

ในพื้นที่จึงหาซื้อยาชุดไม่ได้อีกแล้ว   แต่การออกพื้นที่ไปในครั้งนี้เหมือนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง  มีคุณน้า  คุณอา  คุณพ่อ  ว่างั้นเถอะถือมาให้เราตรวจด้วย  บอกว่าไปซื้อที่ร้านชำ  (ร้านชำก็คือร้านขายทุกอย่างคล้าย  ๆ กับเซเว่นประจำหมู่บ้าน)  ร้านที่ขายยาชุดนี้ไม่ได้มาจัดยาเองเหมือนสมัยเมื่อก่อนหรอก 

แต่ทุกเช้าจะมีรถยนต์ขับรถมาส่งยาให้ถึงหน้าบ้าน  จะมียาที่รักษาเกี่ยวกับคนที่เป็นไข้หวัดใหญ่  ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ  ยาคลายเส้น  แต่ละชุดก็จะประกอบไปด้วยยาประมาณ  4 ถึง  5  เม็ด  ราคาก็อยู่ที่ชุดละ  5  บาท  ตกราคาเม็ดละบาท  ถู๊กถูก  ถูกมาก  ส่วนใหญ่เท่าที่ดูก็เป็นยาตามอาการ  หาซื้อได้ทั่วไป  แต่ยาแก้ไข้หวัดนี่ซิมีเด็กซามีธาโซนอยู่ด้วยแน่นอน 

ตัวอย่างยาที่ อสม. ถือมา

 

ยาตัวนี้ไม่ได้สามารถซื้อหาได้ง่าย  ๆ   แต่กลับมาอยู่ในยาชุดได้  สงสัยเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น  อสม.ที่เอามาให้เราดูบอกว่า 

“เดินไปร้านไหนก็สามารถซื้อได้  ไม่ลำบาก  เหตุผลที่ใช้ก็คือซื้อง่าย  ราคาถูก  หายเร็ว  ไปรักษาที่  รพ.สต.  กว่าจะได้ยามาทานต้องใช้เวลานาน  ทานเท่าไรก็ไม่หาย  ไปทีไรก็ได้แต่พาราเซตามอลทุกที” 

(นั่นนะซิ  แล้วจะทำยังงัยดีล่ะ)  ผลสรุปสุดท้ายชาวบ้านหรือแม้แต่  อสม.  ก็ยังเดินไปหาหมอที่ร้านชำแทน  เพราะหายชัวร์ 

แล้วเราล่ะในฐานะที่อยู่ในกระทรวงสาธารณสุข 

สำหรับเรื่องนี้แล้วเราจะมีทางออกอะไรบ้างไหม

ที่จะเข้าไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับยาชุดที่ประชาชนบริโภคในชุมชน  ว่าการรักษาแบบนี้เหมาะสมหรือไม่อย่างไร  (ตอนนี้กำลังคิดวางแผนอยู่ว่าจะทำอย่างไรดี  คิดจนปวดหัว ............ ขอตัวไปรับลูกก่อนแล้วกัน)


ขอบคุณเรืองเล่าจากพี่อ้อ ค่ะ

หมายเลขบันทึก: 430113เขียนเมื่อ 8 มีนาคม 2011 06:48 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:38 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท