เมื่อคืนที่ผ่านมาได้เห็นข่าวว่ามีการเสนอให้เปลี่ยนชื่อโดยตัดคำว่า "วัด" ออกจากชื่อโรงเรียนเพื่อเป็นการยกระดับ ป้องกันไม่ให้โรงเรียนถูกมองว่าเป็นโรงเรียนระดับ 2 หรือด้อยค่าว่าอย่างงั้น
ฟังอยู่ก็รู้สึกสลดใจในแนวความคิด เพราะทำไมคิดได้แค่เปลี่ยนชื่อแล้วจะทำให้โรงเรียนดีขึ้น เปลี่ยนชื่อแล้วทำให้นักเรียนเรียนดีขึ้นหรือเปล่า เปลี่ยนชื่อแล้วทำให้ครูสอนนักเรียนดีขึ้น เปลี่ยนชื่อแล้วทำให้คุณภาพการศึกษาดีขึ้นไหม?
สิ่งเหล่านี้น่าจะเป็นคำถามในใจของผู้ที่มีแนวคิดในการเปลี่ยนชื่อทั้งหลายแหล่...
แต่ ก็ไม่แปลกใจเพราะในอดีตประเทศที่กำลังพัฒนาประเทศนี้แหละที่เปลี่ยนชื่อยา ม้า เป็นยาบ้า เพราะจะได้กลัวถึงภัยของยา แต่ดูเหมือนว่าพอเปลี่ยนชื่อแล้ว ผู้ผลิตทำได้สมชื่อ เติมสารสาระพัดทำให้แรงกว่าเดิมหลายเท่าในที่สุดก็กลายเป็นยาบ้าสมใจ แต่ไม่เห็นมีใครกลัว มีแต่ระบาดทั่วแผ่นดิน
ถ้าการเปลี่ยนชื่อแล้วดีขึ้นก็อยากเสนอให้เปลี่ยนชื่อสองชื่อคือ
ฝ่ายรัฐบาล เป็น ฝ่ายนำทำความดี
ฝ่ายค้าน เป็น ฝ่ายสนับสนุนการทำความดี
--- และ ---
วุฒิสภา เป็น สภาส่งเสริมคนทำดี
ประเทศชาติจะได้มีคนดีเยอะ ๆ
ดีแบบจริง ๆ ไม่ใช่ดีแบบยกตัวเอง...
--- สวัสดีครับ ---
สวัสดีค่ะ
ไม่ทราบมาก่อนว่าโรงเรียนเหล่านี้ถูกเปลี่ยนชื่อ ตัดคำว่าวัดออกไป เพิ่งทราบจากข่าวเมื่อวานเหมือนกันค่ะ
ที่ผ่านมา โรงเรียนเหล่านี้มีชื่อเสียงและรู้จักกันมาในนามโรงเรียนวัดเบญจมฯ โรงเรียนวัดบวร โรงเรียนวัดเทพศิรินทร์ ฯลฯ ทั้งนั้นนะคะ
ใครคนหนึ่ง....กำลังหลงทางแล้วหละค่ะ คนตามก็เพลินหลงไปด้วย
แต่ถูกใจมากที่ทางวัดบอกว่าหากไม่ใช้ชื่อวัดก็ให้ย้ายโรงเรียนออกจากวัดไป
ขอบคุณพี่ คิม นพวรรณ และดร. ธวัชชัย ปิยะวัฒน์.ที่เข้ามาแวะชม ชอบคำนี้เหมือนกันครับ
แต่ถูกใจมากที่ทางวัดบอกว่าหากไม่ใช้ชื่อวัดก็ให้ย้ายโรงเรียนออกจากวัดไป
ไม่เข้าใจในความคิดที่เปลี่ยนชื่อโรงเรียน หากในความคิดของคุณมองว่าดูเหมือนโรงเรียนชั้น 2 ใครคือคนกำหนดไม่ทราบ คุณเปลี่ยนไปเพื่ออะไร ผลลัพธ์ที่ได้เป็นอย่างไร ทำไมจึงคิดเช่นนั้น ทำไมไม่มองที่การพัฒนาด้านการศึกษาให้มากขึ้น ทุกคนย่อมภูมิใจในสถาบันของตนที่ได้ศึกษามาคับ แต่ที่คุณทำให้ดูแตกต่างคือการสนับสนุนต่างๆๆ ที่มอบให้กับโรงเรียน คุณมาแบ่งมุมมองให้แตกต่างกันเองนะ
แต่ผมชอบนะที่วัดบอกว่าหากไม่ใช้ชื่อวัดก็ย้ายโรงเรียนออกจากวัดไป
อยากรู้ว่ากำลังคิดอะไรกันอยู่
การศึกษาไทยไม่เจริญเพราะพวกไร้สมองแต่ชอบคิดชอบทำ...ลิ้นยาวมากเป็นพิเศษเลยได้เป็นใหญ่เป็นโตเดินไปไหนก็ต้องถางขาเพราะมันใหญ่โต...คิดได้อย่างไรตัดคำว่าวัดออกโรงเรียนจะพัฒนายกระดับมากขึ้นสู่สากล...มันคิดได้อย่างไร...จะพัฒนาหรือไม่มันขึ้นอยู่กับบุคลากรทั้งภายในและภายนอกโรงเรียนที่ร่วมมือกันพัฒนาและจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรปรับปรุงทุกปีจนเด็กโง่ได้ใจ...สิ่งที่ดีอยู่แล้วก็ตัดออกจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรโคตรหัวโตเรียนจนนักเรียนไม่รู้อะไรเลยพาเหรดไปเรียนพิเศษที่อยู่รอบๆ โรงเรียนอย่างอาจริงเอาจัง..เพราะเรียนในโรงเรียนแล้วมันงงมีที่ไหนยิ่งปรับปรุงหลักสูตรเด็กยิ่งเรียนมากขึ้นปัจจุบันเรียนถึงคาบที่ 9 เลิกเรียน 17.00 น.(โีรงเรียนมาตรฐานสากล..บ้าบอ..ภาษาไทยเด็กมันยังอ่านไม่ออกยังฝันจะหาภาษาที่ 2 ที่ 3 ไม่บ้าแล้วจะให้เรียกอย่างไร)...อย่างเอาคำว่าวัดออกแล้วเด็กมันจะพัฒนาก็ให้รีบๆ เอาออกเด็กมันจะได้เป็นด๊อก(เตอร์)ทั้งโรงเรียน...เสียงเห่าหอนจะได้ยินไปทั่วบริเวณหลวงพ่อคงจะหวาดเสียวน่าดู...คิดได้อย่างไร ปล.มีอาชีพเป็นครูสอนจริงๆ ไม่เน้นทำผลงาน อายุราชการ 24 ปี
ขอบคุณคุณ rung มากครับที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น ตอนแรกนึกว่าผมคนเดียวที่รู้สึกว่ามันน่าจะโดนด่านะสำหรับความคิดอย่างนี้ ทำให้ผมคิดไปอย่างหนึ่งว่า โรงเรียนที่อยู่วัดทั้งหลายก่อนหน้านั้นหลวงพ่อ หลวงลุง ทั้งหลายอุ้มชูให้พื้นที่(ของวัด) ให้การสนับสนุน ให้ทุน ให้อะไรหลาย ๆ อย่าง แต่วันหนึ่งโรงเรียนสามารถอยู่ได้ก็รู้สึกว่าต้อยต่ำที่อยู่ในวัด (ผู้บริหารรุ่นใหม่ที่ไม่เคยเข้าวัด) รู้สึกว่าวัดคร่ำครึแล้วอยากจะหนีไปจากวัดหรือเอาคำว่าวัดออก ทั้ง ๆ ที่ยังยืนอยู่ในอาณาบริเวณวัด หรือพื้นที่บุญกุศลที่มีคนบริจาคทานให้
อย่างนี้แถวบ้านผมเรียกว่า เนรคุณ หรือ อกตัญญู ลืมกำพืด ลืม... สาระพัดที่เขาว่า เพราะคนที่คิดแบบนี้ไม่รู้จักบุญจักคุณ ไม่รู้ว่าสังคมเป็นอย่างไร ไม่เข้าใจคำว่า บวร (บ้าน วัด โรงเรียน)... คิดแล้วเศร้าครับ...