("คนลัวะเก่าแก่ มักจะชอบเล่าว่าเวลาเจ้านายขึ้นมาเก็บภาษี มาเกณฑ์แรงงานหรือมาเอาหมูเอาไก่ ผู้หญิงลัวะทั้งสาวทั้งแก่จะต้องวิ่งหนีเข้าป่ากันอย่างไม่คิดชีวิต มิฉะนั้นจะถูกจับไปลวนลามตามใจชอบ สำหรับภาษีจะมีเจ้าหน้าที่ขึ้นมาตระเวนเก็บ(ภาษีเถื่อน)เป็นประจำ บางเดือนมาถึง 3 ครั้ง ส่วนใหญ่เป็นภาษีที่เรียกเก็บตามอำเภอใจ ดังเช่น
- ภาษีตอไม้ เก็บหลังฟันไร่
- ภาษีที่ดิน
- ภาษีเหล้า
- ภาษีฤดูหนาว
- ภาษีไฟฉายและถ่านไฟฉาย
- ภาษีเสาไฟฟ้า สมัยนั้นบนภูยังไม่มีไฟฟ้าใช้ เจ้าหน้าที่อ้างว่าเพื่อเป็น ค่าเสาไฟฟ้าในเมือง
- ภาษีขายควาย
- ภาษีขายหมู
- ภาษีเต้านม (ข้อนี้เจ้าหน้าที่คงเหลือบไปเห็นแม่ให้นมลูก เลยคิดภาษีเต้านม ขึ้นมาได้อีกหนึ่งรายการ) คนลัวะบางคนพูดว่า “ค่าโป๊ะก็เอิด โป๊ะเจ๊าะถูกโป๊ะดั้วแพง มันดูถูกอาเมจังนิ” แปลว่า “นมสั้น (เต้าเล็ก) เก็บถูก นมยาว (เต้าใหญ่) เก็บแพง มันดูถูก ผู้หญิงขนาดนี้” )
(จากงานวิจัยของ ศาสตราจารย์ ชลธิรา สัตยาวัฒนา ในหนังสือ “ลัวะเมืองน่าน”)
เป็นครูก็จริง แต่เพิ่งรู้เหมือนกันนะคะ
เรื่องภาษีเต้านม ขอบคุณข้อมูลดีๆค่ะ
ณ.ที่นี้มีตำนานการต่อสู้ที่น่าศึกษาไม่ว่าจะเป็นกบถผีบุญ มาสู้สหายผู้กล้าแห่งภูผาน่านหลายท่าน ที่เป็นตำนานแห่งการต่อสู้ครับครู อัมพร
สวัสดีครับป้าแดง
เรียนรู้อดีต เพื่อวางแผนในปัจจุบันไปพัฒนาอนาคต ประวัติศาสตร์เป็นบทเรียน
สวัสดีค่ะพี่หวอหญ่า...
มาเรียนรู้ภาษีเต้านมค่ะ...ข้าราชการไม่รับใช้ประชาชน...
เอารัดเอาเปรียบกดขี่ข่มเหงชาวบ้าน...มันน่าเอา....ฟาดกะบาล...จริงๆเชียว 555
ขอบคุณนะคะ..ขำๆค่ะ...แต่ถ้าทำได้จริง...ท่าจะดี...อิอิ
เทียนน้อย พักนี้ ไม่เห็นหน้าสวยๆ ในFBเลยน่ะ
ยังเขียนไม่จบเลย เปียงซ้อ รอหัวมันหมก
ขอบคุณ ครูกี้และป้าแดงที่แวะมาให้ดอกไม้แก่เผ่าลัวะ
และขอสวัสดีปีใหม่ทั้งสองท่าน ขอให้สุขภาพดีแข็งแรง