นอนกรน เสียงน่ารำคาญ สัญญาณอันตราย


เสียงกรน อดทนฟัง

จากปัญหาของคนทั่วโลก ที่ต้องเผชิญกับเสียงกรน รวมทั้งคนไทยที่มีจะนวนมากถึงร้อยละ 30 ของประชากรทั้งหมดโดยไม่จำกัดอายุ ทำให้เสียงกรนก่อให้เกิดความรำคาญ  ส่งผลต่อสุขภาพกาย สภาพจิตใจ ชีวิตสมรส และสถานภาพทางสังคมของผู้กรน และพบมากที่สุดในคนอ้วน

        ซึ่งอาจเป็นสาเหตุร่วมของการเกิดโรคร้ายแรงอื่นๆ อาทิ โรคหัวใจ อัมพฤกษ์ อัมพาต ตามมา นอกจากนี้ยังพบว่า 1 ใน 3 ของผู้ป่วยหยุดการหายใจขณะหลับ  และมีปริมาณออกซิเจนลดลงเกินครึ่ง ทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอ เสี่ยงเกิดอันตรายขณะทำงานหรือ ขับรถในตอนกลางวัน ซึ่งอาจทำให้ถึงแก่ชีวิตได้

 

                           

 

        ด้วยผลของโรคนอนกรนที่ตามมาไม่อาจนิ่งนอนใจได้ทั้งต่อตัวผู้กรนและคนใกล้ชิด มูลนิธิโรค นอนกรนและการนอนหลับผิกดปรกติ นำโดย ศ.นพ. ชัยรัตน์ นิรันดรรัตน์  ประธานมูลนิธิฯ เล็งเห็นความสำคัญของการลดจำนวนผู้นอนกรน ซึ่งเป็นภัยคุกคามชีวิตและความสุขของคนรอบข้าง

        โดยได้รับเกียรติจาก พลโท ธวัชชัย ศศิประภา ผอ.ศูนย์แพทย์พระมงกุฏเกล้า เป็นประธานเปิดงาน ภายในงานจัดให้มีการบรรยายในหัวข้อ "โรคนอนกรนรักษาได้" จาก พ.อ. นพ.ดร. โยธิน  ชินวลัญช์ และ พญ. วิสาข์สิริ ตันตระกูล และรับฟังการเสวนาในหัวข้อ "การรักษาและดูแลสุขภาพให้ปราศจากการนอนกรน " โดยประธานมูลนิธิ และพอ.(พิเศษ) นพ.ประสิทธิ์ มหากิจ ซึ่งเป็นความรู้ ที่จำเป็นในการลดภาวะเสี่ยงต่อการเป็นโรคนอนกรน เพื่อลดปัญหาสุขภาพและภาวะกวนใจต่างๆ ต่อคนใกล้ชิดผู้นอนกรนด้วย

 

                                

 

       ศ.นพ. ชัยรัตน์ กล่าวว่า ร้อยละ 90 ของคนนอนกรนจะไม่รู้ว่าตัวเองกรน และมักปฏิเสธว่าตัวเองไม่กรน บางครอบครัวภรรยาทนไม่ได้ต้องรีบพาสามีมารักษา เพราะนอนไม่หลับกันทั้งบ้าน ในบางรายภรรยาและลูกนอนหลับยากอยู่แล้ว  ก็ยิ่งทรมานมาก ถ้าต้องตื่นมากลางดึก เพราะเสียงกรน

        คนนอนกรนเมื่อต้องไปค้างคืนที่ต่างจังหวัดไม่สามารถนอนร่วมห้องกับผู้อื่นได้   ทำให้เกิดความอับอาย เกิดปัญหาต่อการเข้าสังคมได้   บางรายเป็นหนักถึงขั้นหงุดหงิด  ทะเลาะวิวาท เกิดปัญหาครอบครัวตามมา เพราะทั้งตัวเองและคนข้างๆพักผ่อนไม่เพียงพอ    ทำให้ตื่นมาแล้วอ่อนเพลีย   ขาดประสิทธิภาพในการทำงาน โดยเฉพาะผู้ที่ต้องทำงานกับเครื่องจักร หรือต้องขับรถเป็นระยะทางไกล  อาจทำให้หลับในและเกิดอุบัติเหตุถึงชีวิตได้ 

 

                           

 

                ข้อเท็จจริงที่อันตรายที่สุดของโรคนอนกรน คือปัญหาคุณภาพชีวิต  ของผู้กรนและคนรอบข้าง แม้ไม่ได้เกิดขึ้นแบบเฉียบพลันแต่ไม่ควรเพิกเฉย หากปล่อยทิ้งไว้จะเป็นปัญหากับสุขภาพเรื้อรังตามมา   ส่วนอาการที่บ่งชี้ว่าต้องรับการรักษา  คือเมื่อคนรอบข้างบอกว่า   คุณ เริ่มมีอาการหยุดหายใจเป็นช่วงๆ เริ่มเกิดอาการ ง่วงนอนตอนกลางวัน มากผิดปรกติ และควรสังเกตตัวเองด้วยว่า เมื่อตื่นขึ้นมาแล้ว มีอาการหายใจไม่ออก และสำลักน้ำลายร่วมด้วยหรือไม่ ถ้ามีอาการควรรีบพบแพทย์โดยเร็ว 

 

                                

                           

 

               อาการกรน พบได้ในทุกวัย โดยเฉพาะวัยทำงาน ผู้ชายเป็นมากกว่าผู้หญิง เพราะ ฮอร์โมนเพศชาย ทำให้ผนังช่องคอและกล้ามเนื้อรอบผนังคอของผู้ชายหนากว่า

 สาเหตุของการกรนตามลำดับ คือ 

 

 1. คนอ้วน ที่มีไขมันพอกอยู่รอบผนังคอ และรอบผนังโคนลิ้น เป็นกลุ่มแรกที่พบอาการกรนมากที่สุด 

2. ดื่มสุรา ทำให้หลับลึกเกินไปจนกล้ามเนื้อโคนลิ้นหย่อนง่ายจนไปอุดตรงบริเวณช่องคอ

3. สูบบุหรี่  ควันบุหรี่ ที่สูดเข้าไปทุกวัน ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเนื่อง ผนังคออักเสบเรื้อรัง จนทำให้ช่องคอแคบลง

4. ลักษณะทางพันธุกรรม คนที่มีใบหน้าสั้น คางสั้น และคอสั้น สรีระทางร่างกายเหล่านี้ ส่งผลให้โคนลิ้นตกลงไปอุดช่องคอได้ง่ายขณะนอนหลับ 

5. โรคภูมิแพ้ ทำให้หายใจติดขัด ต้องใช้แรงในการสูดลมหายใจมากขึ้น ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนของช่องคอ

6. การทำงานและการออกกำลังกายหักโหมจนเกินไป เมื่อเหนื่อยมากกล้ามเนื้อโคนลิ้นก็จะหย่อนมากผิดปรกติ  จนอุดช่องคอได้ เช่นกัน ส่วนสาเหตุ การกรนในเด็ก ไม่แตกต่างจากผู้ใหญ่นัก มีสาเหตุ ของการกรนที่เพิ่มขึ้นมา คือ ต่อมทอนซิล (ต่อมน้ำเหลืองหลังคอ)  อักเสบ และต่อมอะคีนอยส์ (ต่อมน้ำเหลืองโพรงจมูก) อักเสบ  ซึ่งจะทำให้เด็กหายใจยาก เกิดการกรนได้ง่ายขึ้น

 

                            

 

        ประธานมูลนิธิ กล่าวว่า ผลเสียของการกรนที่ทุกคนไม่ควรนิ่งนอนใจ คือ ภาวะเสี่ยงต่อการขาดออกซิเจนในขณะหลับ ซึ่งบางคนเป็นมากจนถึงขั้นหยุดหายใจเป็นบางช่วงขณะนอนหลับ  แต่ละคนมีอาการมากน้อยต่างกัน โดยส่วนใหญ่จะคิดเป็นความถึ่ คนที่เป็นมาก จะหยุดหายใจ 30 ครั้งต่อชั่วโมง    ส่วนคนที่เป็นน้อย จะหยุดหายใจประมาณ 5-15 ครั้งต่อชั่วโมง 

 

        ซึ่งเมื่อร่างกายขาดออกซิเจนบ่อยครั้งในยามหลับแบบต่อเนื่อง  ทำให้ต้องอยู่ในภาวะเสียงต่อการเป็นโรคหัวใจ โรคความดัน โรคเบาหวาน อัมพฤกษ์ อัมพาต หย่อนสมรรถภาพทางเพศ   และที่น่ากลัวที่สุด คือ อาการง่วงนอนใน ตอนกลางวันหรือ ที่เรียกว่า  หลับใน ในขณะขับรถ หรือทำงานกับเครื่องจักร ซึ่งเกิดจากการรับออกซิเจนไม่เพียงพอในเวลากลางคืน ทำให้ร่างกายต้องหลับชดเชยในเวลากลางวัน 

 

                      

 

               ศ.นพ. ชัยรัตน์  ยังบอกอีกว่า ผู้ป่วยโรคนอนกรน สามารถใช้หมอนช่วยลดอาการกรนได้   เนื่องจากการหนุนหมอนที่มีระดับความสูงพอเหมาะ จะช่วยให้ทางเดินหายใจไม่พับงอจนเกินไป แต่ในรายที่มีอาการกรนมาก   การแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ  ด้วยการหนุนหมอน ไม่สามารถช่วยได้    แต่ควรเริ่มรักษาด้วย  การดูแลตัวเอง ลดน้ำหนัก เลิกสุรา งดบุหรี่ ไม่ทำงาน หรืออกกำลังจนหักโหมเกินไป

 

 

                 การเลี่ยงการใช้ยาที่ทำให้ง่วงนอน เพราะจะทำให้กรนมากขึ้น   เนื่องจากร่างกายเหนื่อยล้า และบริหารช่องคอให้กล้ามเนื้อดึงตัวไม่หย่อนง่าย ด้วยการเป่าท่อที่มีความยาว สัก 1 เมตรครึ่ง   เป่าจนสุดแรงให้ลมออกที่ปลายท่ออีกข้างหนึ่งเป่าวันละ 20 นาที   วิธีนี้สามารถช่วยให้ช่องลมกว้างขึ้น    เป็นอีกวิธีที่คนทั่วโลกพิสูจน์มาแล้วว่าได้ผลหรืออาจเลือกประยุกต์วิธีที่ง่ายขึ้น  "

 

 

               สำหรับผู้ประสบปัญหานอนกรนเล็กน้อย ถึงปานกลาง ลองกำมือหนึ่งข้างให้หลวมพอสำหรับลมผ่านได้ นำมือจ่อที่ริมฝีปาก ก่อนออกแรงเป่าลมค้างไว้ครั้งละ 5-10  วิยาที โดยส่งแรงลมให้ผ่านออกทางด้านล่างของมือ ทำติดต่อกันวันละ 20 นาที จะช่วยทำให้ช่องลมกว้างขึ้น  หมอผู้เชี่ยวชาญ ด้านการกรน แนะนำ และว่า ถ้าในบางรายอาการหนัก การรักษาก็ต้องอาศัยเครื่องมือ และการผ่าตัดร่วมด้วย แพทย์จะเน้นการรักษา ผู้ป่วยตามอาการ ซึ่งอาจทำให้ผู้ป่วยรู้สึกรำคาญและต้องเจ็บตัว เพื่อให้หายใจสะดวกขึ้น และกรนน้อยลง   แต่ปัจจุบันการรักษาอาการนอนกรนทำได้ง่ายกว่าที่คิด

 

                        

                บางคนอาจคิดว่า นอนกรนเป็นปัญหาด้วยหรือ อย่ามัวแต่คิด  เมื่อรู้ตัวแล้วให้รีบมารักษา  เพื่อให้ตัวเองและคนที่เรารักนอนหลับได้ดีขึ้น   หากรอให้ก่อเกิดผลเสียต่อร่างกายจนเกิดโรคอื่นๆ ตามมาแล้ว  ถึงคิดตัดสินใจมาพบแพทย์ สำหรับผู้ที่เป็นโรคนอนกรน การรักษา ทางการแพทย์อย่างถูกวิธีช่วยได้

 

 

ขอบคุณ ข้อมูล จากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ คอลัมม์ สรรหาสารพัน

 และ ขอบคุณภาพเพื่อประกอบการเขียนบันทึกจากอินเตอร์เน็ต

 

               ด้วยความปรารถนาดี ............กานดา แสนมณี

 

   

หมายเลขบันทึก: 428000เขียนเมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2011 16:30 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:37 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)

กรนก็ด้วย

กัดฟันก็ด้วย

ช่วยแก้หน่อยครับ

  • เพิ่งพบการรักษาแบบนี้
  • การเป่าท่อที่มีความยาว สัก 1 เมตรครึ่ง   เป่าจนสุดแรงให้ลมออกที่ปลายท่ออีกข้างหนึ่งเป่าวันละ 20 นาที 
  • น่าสนใจมาก
  • แต่น้องกลัวอันนี้,มากที่สุด
  •  หย่อนสมรรถภาพทางเพศ   
  • 5555

ขอบคุณค่ะ..เป็นโรคภัยที่ร้ายแรงอย่างคาดไม่ถึงนะคะ..

                      โครงการแกนนำป้องกันยาเสพติด ส.ว. ๓

    รร.นวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา พุทธมณฑล กรุงเทพมหานคร

       โครงการรางวัลดีเด่นจากโครงการเธอคือแรงบันดาลใจปี ๒

          http://gotoknow.org/blog/nongnarts/428008

สวัสดีค่ะพี่ดาที่คิดถึง

  • ขอบคุณมากๆนะคะที่นำเรื่องราวที่มีประโยชน์มาเผยแพร่
  • มีความสุขมากๆนะคะ
  • น้องมีมะม่วงมาฝากด้วยค่ะ
  • ต้นอยู่หน้าบ้านนี่เองเด็กนักเรียนเดินผ่านไป มาก็เก็บกินกันตามสบายเลยค่ะ เพราะลูกดกมากๆ

สวัสดีค่ะ

 

Ico48   ทั้งนอนกรน กัดฟัน  แล้วมีคนนอนข้างๆหรือเปล่าค่ะ  ถ้ามีคงอดทนจนเคยชินเสียงไปแล้ว อายุมากแล้ว ต้องมีอาการทั้ง 2 มานานมากแล้ว ฟันเป็นอะไรหรือเปล่าคะ  คงต้องปรึกษาคุณหมอแล้วค่ะ แต่ถ้าไม่มีง่วงนอนกลางวันฯ คงไม่เป็นอะไรแล้วมังค่ะ

 

Ico48    ค่ะพี่ดาก็พึ่งทราบวิธีการง่ายๆนี้ ดีมากเลยนะคะ ไม่ยุ่งยากอะไร ขอเพียงให้เริ่มทำกันบ้าง ก็จะดีต่อตัวเอง  อย่างที่คุณหมอบอก ...ไม่รู้ว่าตัวเองนอนกรน......ยิ่งถ้าอยู่คนเดียว ก็ยิ่งไม่ทราบ    แต่ถ้าเป็น ชีวิตคู่ อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ ต่างฝ่ายต่างเห็นเป็นข้อบกพร่อง เพราะตอนรักกันดีๆก็ไม่เห็นว่าไม่ดี ทนได้ พอนานไป รำคาญเบื่อก็มีการไปมีกิ๊ก นอกใจได้ เช่นกัน  แต่ต่างฝ่ายไม่ทราบสาเหตุหรือบอกกันตรงจุดเสียงกรน น้ำลายไหล ทุกคืนๆ ก็น่าเบื่อได้  อ. ขจิตกลัวเรื่องหย่อน สมรรถภาพฯ ใช่ค่ะต้องระวังโดยเฉพาะยังโสดด้วยใช่หรือเปล่าค่ะ

 

Ico48  ค่ะ โดยเฉพาะชีวิตคู่ต้องบอกกล่าวกันบ้างเพื่อให้ดีขึ้นนะคะ  แต่ส่วนใหญ่ก็อดทน จนเป็นความเคยชิน ขอบคุณมากค่ะ นำภาพ นักเรียนที่ได้รับรางวัลมาฝากให้ดาชมแล้วดาจะไปชมที่บันทึกอีกครั้งนะคะ

 

Ico48   น้องน้อย  มะม่วงสวยงามมากทำให้พี่ดา คิดถึงต้นมะม่วงอกร่องที่หน้าบ้านที่สุพรรณ  อยู่ริมคันคลองต้นใหญ่มาก ลูกดก เป็นอกร่องขาว สุกแล้วกินกับข้าวเหนียวมูล อร่อยมากๆ ขอบคุณนะคะนำภาพมาฝากพี่ดา เป็นพวงมะม่วงที่แก่แล้วด้วยนะคะ นำมาบ่มได้เลย พวงนี้ถูกเด็กๆเด็ดไปหรือยังค่ะ

 

-สวัสดีครับพี่กานดา..

-สบายดีนะครับ...

-เรื่องคนนอนกรน....มีเรื่องเล่า....เคยไปนอนกับพี่คนหนึ่ง..เขากรนทั้งคืน...แถมมีการหยุดหายใจเป็นระยะ ๆ ซะด้วย...ครับ....

-จำได้ว่า คืนแรกนอนไม่หลับ...พอคืนที่สอง เราต้องชิงหลับก่อน...จะได้ไม่ต้องได้ยินเสียงกรนน่ะครับ 5555

-ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ..ดี ดี แล้วจะนำไปบอกต่อนะครับ...

-เก็บ "เม็ดกระบก" มาฝาก ครับ...

สวัสดีค่ะ คุณเพชรน้ำหนึ่ง

     พี่ดาก็เคยมีประสบการณ์นะ   ที่วัด หลวงปู่แหวน-วัดดอยแม่ปั๋ง อ.พร้าว เชียงใหม่ เป็นครั้งแรกที่ไม่ได้หลับได้นอน เพราะเสียงกรนแข่งกันบนที่พักให้ ผู้มาจากต่างจังหวัดนอน ซึ่งเพื่อนพี่ดามาจากกทม.เป็นทัวร์มากัน ก็ชวนพี่ดาไปแอ่วกราบไหว้หลวงปู่แหวนด้วย คืนนั้นเราก็แปลกที่ คนที่นอนทั้งหมดรวมกัน ก็กรนแข่งกัน ทำให้ไม่ได้หลับทั้งคืน เช้ามาพี่ดาก็ปวดหัวไม่สบาย แต่ก็ยังประทับใจหลวงปู่แหวน ศรัทธาท่านมากๆ ที่สุดจนถึงปัจจุบันนี้ ที่วันนั้นได้พบท่าน  เช้ามาผู้คนไม่ทราบว่ามาจากไหนรถทัวร์มาเพิ่มอีกเต็มลานที่จอดรถ เพื่อมาใส่บาตร กับท่านแต่เช้า

      ซึ่งความที่พี่ดาศรัทธา หลวงปู่แหวนมากๆ เมื่อเกิดเรื่อง อุบัติเหตุกับรถ มีท่านอยู่ในรถ จึงมั่นใจค่ะ และทุกวันนี้ท่านก็อยู่ที่ตัวพี่ดาเกือบทุกเวลา 

  • พี่ดา
  • ตอนนี้สงสัยจะหายกรนแล้ว
  • เอามาฝาก ผมเพิ่งเห็นทองกวาวสีเหลือง
  • ที่ไปฝากพี่ใหญ่
  • บ้านผมและที่มหาวิทยาลัยมีแต่สีส้มครับ

...พี่ใหญ่กลับมาอีกรอบหนึ่ง เพื่อชื่นชมภาพของคุณดา..งามทุกวัยจริงๆ..ภาพไว้ผมหางเปียน่ารักมากค่ะ..คิดถึงนางเอกเรื่องบ้านทรายทอง..

                      Ico256

สวัสดีค่ะคุณพี่ใหญ่

       ขอบคุณมากค่ะ ภาพ ผมเปีย ดาไปเที่ยวทะเลที่ระยองค่ะ ยังเรียนม.พายัพอยู่  ภาพชุดผ้าเกาะยอสีลายสีม่วงๆนั้นทำงานที่บริษัท มีเดียโฟกัส จำกัด สุขุมวิท 71 กทม.ค่ะ ผลิตจำหน่าย หนังสือคู่แข่ง คลังสมอง และหนังสือพิพ์ หญิงยุคใหม่  เคยอ่านเล่มไหนบ้างหรือเปล่าค่ะ ดาทำงานช่วงปี 2525 -2526 จนถึงต้นปี 2527 ค่ะ

 

 

 

สวัสดีค่ะอ. ขจิต

ไม่กรนแล้วนะคะ  ทองกวาวทั้งต้นและดอก เป็นต้นไม้และดอกไม้ประจำจังหวัดเชียงใหม่ค่ะ  ขอบคุณมากค่ะนำภาพทองกวาวสีส้มมาฝากพี่ดากำลังอยากได้ชมพอดี เพราะพี่ดาถ่ายภาพมาไม่ชัดค่ะต้นมันสูง มาก 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท