สิ่งที่ประทับใจในวันนี้ คือ
การได้เห็นการส่งทอดจิตวิญญาณ
ของคนรุ่นหนึ่ง ให้กับคนอีกรุ่นหนึ่ง
ที่ทำด้วยความรัก ด้วยการประสานกำลังกันเป็นทีม
ที่มิใช่เพียงทีมกีฬา แต่เป็นทีมของเผ่าพันธ์มนุษย์
ที่กำลังลงแรงลงใจรดน้ำพรวนดิน ไถหว่าน
ให้พืชพันธ์รุ่นใหมได้ ่เจริญ งาม และแข็งแรง
ทอเส้น สานใย เรียนรู้ด้วยเครือข่ายครอบครัว
เมื่อวันที่ ๒๓ ก.ค.๔๙ ที่ผ่านมานี้ ณ โรงเรียนไทย-ญี่ปุ่น (ดินแดง)
เพลินรักบี้คลับ (PRC-Plearn Rugby Club) ร่วมกับสโมสร Rugby Son ภ.ป.ร.
ได้ประสานงานให้เกิดการเล่นรักบี้สานสัมพันธ์ ๓ โรงเรียน คือ
ซึ่งคณะผู้ปกครอง นักเรียน และครูของแต่ละโรงเรียน
ได้ทยอยไปถึงสนามของโรงเรียนไทย-ญี่ปุ่นตั้งแต่ ๑๔.๓๐ น.
แม้จะมีเมฆมาบังพระอาทิตย์เป็นบางครา ก็ยังนับว่าเป็นบ่ายที่อากาศร้อนวันหนึ่ง
ระหว่างที่พี่ๆ ของทั้งสองโรงเรียนคือ เพลินพัฒนา และ ภ.ป.ร. ฝึกซ้อม
และเตรียมพร้อมร่างกายกันอยู่นั้น
บรรดาคุณพ่อทางโรงเรียนไทย-ญี่ปุ่น ก็ได้พาลูกๆ คละวัย
คือมีตั้งแต่เด็กอนุบาลไปจนถึงเด็กช่วงชั้นที่สอง (ประมาณด้วยสายตา)
มาฝึกซ้อมพร้อมๆ กันด้วยลีลาต่างๆ
ซึ่งสัดส่วนของบรรดาคุณพ่อกับเด็กๆ นั้น น่าสนใจมาก
คือ มีผู้ใหญ่ประมาณร้อยละ ๔๐ และ เด็กประมาณร้อยละ ๖๐
ทำให้เราได้เห็นการร่วมมือกันสร้างเยาวชนของเขา
ที่มาจากรากฐานที่สำคัญที่สุดนั่น คือ สถาบันครอบครัว
และเมื่อหลายครอบครัวมารวมกันก็จะยิ่งผนึกกำลังให้ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว
เมื่อถึงเวลา ๑๕.๐๐ น.
ก็มีพิธีเปิดงานอย่างเรียบง่ายโดยมีตัวแทนโรงเรียนไทย-ญี่ปุ่นกล่าวต้อนรับอย่างอบอุ่น
หลังจากนั้น ก็ตามด้วยการเล่นระหว่างโรงเรียน ภ.ป.ร.ราชวิทยาลัย และ โรงเรียนเพลินพัฒนา
ซึ่งปกติจะเล่นรักบี้กันทุกวันศุกร์เว้นศุกร์ ที่ โรงเรียนเพลินพัฒนา
แต่สำหรับศุกร์ที่ ๒๑ ก.ค. นี้ ได้ย้ายการเล่นมาเป็นวันเดียวกันนี้แทน
นักกีฬาของโรงเรียนเพลินพัฒนาและ ภ.ป.ร. ส่วนใหญ่เป็นนักเรียนช่วงชั้นที่ ๒
ระหว่างที่การเล่นของสองโรงเรียนนี้ดำเนินไป
ก็ได้เห็นภาพที่ประทับใจริมสนาม
คือ คุณพ่อและนักกีฬารักบี้ชุดผู้ใหญ่ของโรงเรียนไทย-ญี่ปุ่นได้พาเด็กๆ ต่างวัย
ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักเรียนชั้นอนุบาล
มานั่งดูการแข่งขันข้างสนามอย่างเป็นระเบียบ
โดยไม่หวั่นแม้แดดจะร้อนแรงขนาดไหนก็ตาม
เด็กของเขาอยู่ที่ไหน ผู้ใหญ่ (คุณพ่อ) ก็อยู่ที่นั่นด้วย
ส่วนบรรดาคุณแม่ขอกางร่มอยู่อีกทางหนึ่งไม่ห่างไปนัก
ต่อจากนั้น ก็เป็นรายการเล่นรวมกันของทั้งสามโรงเรียน
โดยแบ่งผู้เล่นออกเป็นสองฝ่าย
แต่ละฝ่ายประกอบด้วยนักเรียนจากทั้งสามโรงเรียนคละกัน
และใช้หมวกของเพลินพัฒนาเป็นตัวบ่งชี้ว่าใครอยู่ฝ่ายไหน
คือ ได้แบ่งเป็นฝ่ายหนึ่งสวมหมวก และอีกฝ่ายไม่สวมหมวก
บางคนที่ไม่คุ้นกับหมวกแบบนี้ก็ขำที่เห็นเพื่อนๆ สวมหมวก
บรรยากาศของการเล่นรักบี้แบบคละกันหมดนี้ดำเนินไปอย่างสนุกสนาน
และปิดท้ายด้วยการเล่นคละกันระหว่างครู และผู้ปกครอง ของทั้งสามโรงเรียน
แถมด้วยนักเรียนช่วงชั้นที่สองบางคน เพิ่งได้เห็นการเล่นรักบี้แบบไม่แบ่งอายุจริงๆ ก็ในวันนี้
เพราะภาพที่เห็นตรงหน้านั้นมีส่วนต่างระหว่างอายุมากโขจริงๆ
สุดท้ายก็มีการถ่ายรูปด้วยกัน และตัวแทนของโรงเรียนไทย-ญี่ปุ่น
ก็ได้มอบถ้วยที่ระลึกให้กับตัวแทนของโรงเรียน ภ.ป.ร.วิทยาลัย และ โรงเรียนเพลินพัฒนา
สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้ เป็นความประทับใจของทุกคน
ฟังดูประหลาดแต่สิ่งที่เห็นก็คือ
เด็กๆ ได้รับการฟูมฟักท่ามกลางแสงแดดและสนามทราย
จากผู้ใหญ่ทุกคนที่มีใจมุ่งมั่นจะพัฒนาคนด้วยกีฬารักบี้
นักกีฬาน้อยได้เรียนรู้ว่าการร่วมทีมกันด้วยใจนักกีฬานั้นทำได้โดยไม่ต้องใช้ภาษาพูดเดียวกัน
ต้องขอขอบคุณผู้ใหญ่ทุกท่าน ที่ช่วยประสานงานให้เกิดการเรียนรู้
และการสานสัมพันธ์ให้เกิดเป็นเครือข่ายของโรงเรียน ของครอบครัว และของเด็กๆ
นับเป็นก้าวย่างที่มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ สำหรับการทอเส้นและสานใย
ให้เกิดเป็นเครือข่ายชุมชนแห่งการเรียนรู้ของเพลินพัฒนา
แล้วพบกันใหม่ ครั้งหน้าที่โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตร์ศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน นะคะ
เห็นแล้วรู้สึกดีจนต้องนำมา "บอกต่อ" นี่แหละค่ะ
การศึกษาที่ไร้ขอบเขตและรูปแบบเช่นนี้จะมีที่ไหนอีกบ้างหนา
ครูส้มมีความเห็นว่ามีได้ทุกที่เลย แต่ต้องช่วยสร้างกันหลายๆ คน... เนอะ
" พืชพันธุ์แห่งวันพรุ่ง...คงสมดุลเพื่อสื่อความหมายแห่งเผ่าพันธุ์ การดำรงค์อยู่เพื่อวางเป้าหมายแห่งชีวิตนั้นอาจเป็นเพียงเพื่อการสมมุติ แต่หากมามองสิ่งที่เป็นการวางรากฐานของการศึกษาไทยแล้วล่ะ ....มีความหมายมาก ๆ ครับ..................