เรียนรู้ในระหว่างทาง..เสียใจ แต่ก็ไม่หยุด


...เสียใจบ้าง แต่ยังเชื่อว่ายังมีคนดีๆ และขายของโดยสุจริตอีกมาก

เรียนรู้ในระหว่างทาง..เสียใจ แต่ก็ไม่หยุด

วันอาทิตย์ที่ผ่านมา จำเป็นต้องไปราชการเป็นครั้งแรกในรอบสองปีกับอาจารย์อีกคน ตอนเที่ยงเพื่อนมารับไปทานข้าว meepole นั่งข้างหลังคนเดียวฝั่งคนขับ เพื่อนอีกคนนั่งด้านหน้า คุยกันตลอดทาง รถติดไฟแดงอีกเช่นกัน แต่มันเป็นถนนเล็กเลยติดไฟไม่นาน แต่ขณะที่รถจอดสนิทพอดี ก็มีเด็กชายอายุน่าจะไม่เกิน 10 ปีเดินมาที่รถด้านข้างฝั่งที่เพื่อนนั่งทำหน้าเศร้า เพื่อนคนที่ขับรถไม่ได้เปิดกระจกให้ เพื่อนที่นั่งข้างหน้าก็พูดผ่านกระจกว่าไม่เอา แต่ meepole นั่งหลังจึงไม่เห็นว่าเด็กต้องการอะไร เลยถามออกไปว่าเด็กทำอะไร

เพื่อนตอบว่า "มาขายดอกไม้"  

meepole บอกทันทีว่า "ซื้อเถอะ ช่วยเด็ก" (นึกถึงสามวันก่อนที่คิดไม่ทัน ว่าเขาขายผ้าเช็ดกระจก เขียนในตอนที่แล้ว) 

เพื่อนลดกระจกลง เด็กก็ยกตะกร้าพลาสติกเล็กที่วางดอกจำปีสดขึ้นมา ก็เห็นพร้อมกันทั้งคันรถว่าเด็กขายดอกจำปี สีเหลืองอ่อน สวยดี

เพื่อนก็ถามว่า "ขายยังไง "

เด็กบอกว่า " 3 ชุด 20 บาท"  ก็ตกลงซื้อ

เพื่อนส่งเงินให้ พร้อมกับที่เด็กส่งดอกไม้ให้ แล้วรีบเดินไปอย่างรวดเร็ว คนขับปิดกระจก พร้อมเสียงอุทานของเพื่อนที่ถือกรวยดอกไม้อุทานว่า

"ดอกไม้ไม่สวยเลยเหี่ยวทั้งนั้น" ก็มองตามไป ก็งง เห็นดอกไม้ในกรวยปลายดอกเป็นสีน้ำตาลแดง คือเหี่ยว แต่ตอนแรกที่เห็นกันทุกคนว่าดอกไม้สดสวย แต่ที่สำคัญที่เสียใจคือเพื่อนส่งมาให้พร้อมบอกว่ามี 3 กรวยก็จริงแต่อีกกรวยไม่มีดอกไม้เสียบอยู่ เป็นกรวยเปล่า งงมากว่าทำยังไง เพื่อนบอกว่าเด็กส่งมาให้ในลักษณะเอากรวยเปล่าไว้ด้านหลังตอนส่ง เวลารับมาจึงไม่เห็น และแต่ละกรวยมีดอกเพียง 2 ดอกสรุปว่า 4 ดอก 20 บาท

เรื่องความแพงไม่ไช่ประเด็นของเรื่อง แต่การเสียความรู้สึกของทุกคนในรถที่ตั้งใจจะช่วยอุดหนุนเด็กด้วยความสงสารและตั้งใจจะส่งเสริมให้กำลังใจเด็กว่าเป็นอาชีพที่สุจริต มีคนช่วยกันอุดหนุน เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้เลยย้อนคิดตั้งแต่แรกเลยว่านั่นเป็นอุบายการขายที่คิดไม่ซื่อตั้งแต่ต้น แต่เพื่อนก็พูดกันว่าช่างมันเถอะ 20 บาทเอง

ส่วนmeepole แอบคิดต่อว่า จริงๆแล้วนี่เป็นการส่งเสริมให้เขาทุจริตด้วยหรือเปล่า เขาคงทำเช่นนี้กับรถคันอื่นเช่นกัน แล้วใครสอนเขาให้ทำแบบนี้ แล้วโตขึ้นเขาจะเป็นคนแบบใหนนะ ใครจะเป็นคนสอนให้เขาได้คิดนะว่าไม่ควรหากินเช่นนี้กับความเมตตาของคนอื่น ต่อไปหากหลายๆคนเจอเหตุการณ์นี้ก็จะเข็ด อาจรู้สึกว่าไม่ควรจะช่วยอีกในรายอื่นๆ

แต่ meepole ก็คิดอีกว่าคราวหน้าถ้าเจอการขายของในลักษณะนี้อีกก็คงยังซื้อแต่จะระวังมากขึ้น แต่ถ้าจับได้ว่าหลอกขายเช่นนี้อาจต้องสอนเขา (ถ้าทัน) เสียใจบ้าง แต่ยังเชื่อว่ายังมีคนดีๆ และขายของโดยสุจริตอีกมาก

เรื่องนี้เอามาเล่าเพื่อเป็นประสบการณ์ค่ะ ไม่ได้หวังที่จะให้หยุดชะงักความคิดที่จะช่วยเหลือผู้ที่มีโอกาสน้อยกว่าเรา เพียงแค่รับรู้ว่า แบบนี้ก็มีด้วย 

 

หมายเลขบันทึก: 425169เขียนเมื่อ 9 กุมภาพันธ์ 2011 23:48 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:36 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (16)
  • มีหลายคนที่หากินกับความสงสาร ใจอ่อนครับ บางคนก็จูงเด็กเล็กๆ มาเดินขอเงิน  หรือเด็กๆ เดินมาขอเอง พอจะซื้อข้าวให้กินเขาก็ไม่เอา จะเอาเงินอย่างเดียวแต่ผมไม่ให้
  • บางทีถ้าเราไม่ซื้อเลย เขาอาจไม่เด็กๆ มาทำอย่างนี้ก็ได้ครับ ที่สำคัญผู้ใหญ่ไปปลูกฝังความไม่ซื่อสัตย์ให้เด็ก ทำบ่อยๆ จนกลายเป็นความเคยชิน ไม่รู้ว่าไม่ถูกต้อง แย่เหมือนกันครับ

สวัสดีค่ะ

กรณีแบบนี้มีผู้เล่าให้ฟังบ่อยค่ะ  ผลไม้เน่าอยู่ก้นถุง  แม่ค้าไม่ยอมให้เลือกเองแต่ถูกแม่ค้าหยิบลูกเน่าเสียใส่มาให้  สิ่งของได้น้ำหนักไม่มาตรฐาน และการแกล้งทอนเงินผิดบ้าง

หากเป็นการมองอีกอย่างก็เป็นความรู้สึกทางใจของเราว่าจะไม่ขุ่นมัวกับเรื่องเหล่านี้  หากแต่มองเป็นเรื่องใหญ่ก็คือพวกเขาทำร้ายสังคม  เราเป็นพลเมืองดีต้องให้ความร่วมมือในการรับผิดชอบว่า...จะทำอย่างไรให้เขามีคุณธรรมต่อการขาย

เคยเจอและนึกโกรธอยู่เหมือนกัน แต่ถ้ามานึกอีกที นี่อาจเป็นวิธีการเอาตัวรอดของคนที่ด้อยโอกาสเหล่านั้นก็ได้ มองบางแง่ก็น่าสงสารเค้าเหมือนกันนะ ทั้งที่รู้ว่าเป็นเรื่องไม่ดี

สวัสดีค่ะคุณชำนาญ เขื่อนแก้ว

จริงค่ะ ที่ตอนนี้หลายคน "หากินกับความสงสาร ใจอ่อน" นานๆออกไปโลกข้างนอกในกรุงเสียที เจอแบบนี้เลยอ่อนใจค่ะ

สวัสดีค่ะคุณหนุ่ย

แฮ่ !! meepole นึกว่าตัวเอง jackpot ซะแล้ว

สวัสดีค่ะครูคิม

กรณีผลไม้เน่าอยู่ก้นถุง เคยเจอที่หาดใหญ่ค่ะสมัยวัยรุ่นหลายสิบปีมาแล้ว แสดงว่ายังคงสืบทอดต่อๆมา  น่าเศร้าจัง :(

ที่แย่ก็คือส่วนมากเราจะรู้ตัวเมื่อเสียรู้ไปแล้ว ไม่ทันการเสียที เลยไม่ได้สอนเขาตามประสาครูชอบสอนค่ะ

 

   

สวัสดีค่ะคุณรัชนีวรรณ

.".มองบางแง่ก็น่าสงสารเค้าเหมือนกันนะ ทั้งที่รู้ว่าเป็นเรื่องไม่ดี"

นี่ล่ะค่ะที่เขาว่า เอ็นดูเขา เอ็นเราขาด แล้ว meepole ก็ไม่เข็ดเสียที เฮ้อ!!

เจอมาหลายครั้งแล้วค่ะคุณ meepole

หลอกแบบเดียวกับเด็กคนนี้ หรือให้ของมาไม่ครบบ้างก็มี

ดิฉันว่านับวันความไม่ซื่อสัตย์แบบนี้จะมีมากขึ้นทุกวัน

ยิ่งในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ เป็นกันมาก

แม้แต่คำพูด อยากได้เงินทรัพย์สินของคนนั้นคนนี้

กล้าพูดอย่างไม่ละอายปากเลยค่ะ

ใจร้อนไปหน่อย ยังเมนท์ไม่จบ..

ถ้าดิฉันตักเตือนได้ เช่น เป็นเด็กกว่า

เขาก็จะบอกว่า.."ใครๆ ก็หลอก ใครๆ ก็โกงค่ะ"

สวัสดีค่ะ คุณกุลมาตา

"...นับวันความไม่ซื่อสัตย์แบบนี้จะมีมากขึ้นทุกวัน"

นี่ก็คงเป็นเหตุผลที่ทำให้คนวัยเรา ยิ่งต้องช่วยกันรักษา เป็นแบบอย่างของความซื่อตรง

ซื่อสัตย์ ไว้ให้รุ่นหลัง เอาเป็นตัวอย่างของการปฎิบัติดี แล้วชีวิตเป็นสุขค่ะ

ทำทานแล้วก็ไม่ต้องเสียใจนะคะ..ควรจัดระเบียบการขายของน่าจะเป็นทางออกที่ดี

                 

 

  • นำดอกมะขามป้อม ที่บ้าน มาฝากค่ะ

 

สวัสดีค่ะ คุณนงนาท สนธิสุวรรณ

ไม่เสียดายเงินเพราะตั้งใจให้ไปแล้ว แต่มักจะเสียใจที่ไม่น่าหลอกกันเลย ประมาณนั้นค่ะ

ชอบการ์ตูนตัวนี้เพราะใส่แว่นเหมือน meepole เดี๊ยะเลย (แอบsaveไว้แล้ว)

สวัสดีค่ะ คุณอุ้มบุญ

 

เคยทานค่ะ แต่ไม่เคยเห็นดอก โชคดีจังที่ได้เห็น

แต่จะโชคดีมากขึ้นถ้าได้ทานด้วย  หุ  หุ  ขอบคุณค่ะ  :)

สะดุดใจกับคำว่า "เสียใจแต่ไม่หยุด" กับ "ไม่หยุดเสียใจ" 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท