ชีวิตที่เมืองลาว : ฝากไว้ให้ลูกหลานดู...


 

"ทำเต็มที่นะ ฝากไว้ให้ลูกหลานดู"

ข้าพเจ้ากล่าวกับผู้หญิงคนหนึ่งที่มาช่วยงานเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2554...

งานจะสวยหรือไม่สวยนั้นไม่สำคัญเท่ากับงานนั้นมี "คุณค่า" ต่อคนทำ

การทำงานได้เงิน ไม่มีคุณค่าเท่ากับการทำงานแล้วได้ใจ

งานที่เราเคยไปรับจ้างทำ เราไม่ภูมิใจเท่ากับงานที่เราไปทำให้ฟรี ๆ

อิฐแผงนี้ เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงสำหรับคน ๆ หนึ่งที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์และพบพระพุทธศาสนา

หมายเลขบันทึก: 424174เขียนเมื่อ 4 กุมภาพันธ์ 2011 23:08 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 23:40 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ใช่ทุกคำเลยค่ะอาจารย์

"งานที่เราเคยไปรับจ้างทำ เราไม่ภูมิใจเท่ากับงานที่เราไปทำให้ฟรี ๆ"

  • สวัสดีครับ
  • เป็นความคิดดีๆ ที่ซ่อนอยู่ เรียนรู้เพื่อรู้ซึ้งในใจตน ครับผม

งานใดที่เราทำให้ด้วยจิตใจที่ "เสียสละ" งานนั้นจึงเป็นงานที่สร้าง "กุศล"

กุศลนั่นเองจะทำให้เรามีความสุขก่อนทำ ระหว่างทำ และหลังทำ

ความสุข ความอิ่มเอม ความปิติ จะเกิดขึ้นนับจากนี้อีกนานเท่านาน

เมื่อใดที่เราเห็นงานที่เราได้เสียสละแรงกาย แรงใจ ทำให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนนั้น งานชิ้นนั้นจะจดจำอยู่ในความทรงจำของเราตราบนานเท่านาน...

งานที่เราทำแล้วได้รับ “เงิน” เป็นผลตอบแทน เมื่อเงินหมดไป ความสุขนั้นก็หมดไปด้วย

แต่ทว่างานที่เราทำแล้วได้รับ “กุศล” เป็นผลตอบแทน ไม่ว่านานแค่ไหนความสุขนั้นจะติดอยู่กับใจของเราตลอดไป...

เงินใช้ซื้อข้าวกินอิ่มได้หนึ่งมื้อ แต่กุศลนั้นทำให้ใจเราอิ่มได้หลายวัน หลายเดือน หลายปี หลายภพ หลายชาติ

การใช้แรงทำงานแลกเงิน ได้มาแล้วก็เสียไป หมดแล้วก็ต้องหาเอาใหม่

การใช้แรงทำงานแลกับกุศล ได้มาแล้วไม่หายไปไหน เป็นสมบัติที่ใครจะมาขโมยไม่ได้

เงินเป็น “สมบัติกำพร้า” หามาแล้วก็ต้องเสียไป ไม่เสียตอนอยู่ก็ต้องเสียตอนตาย

แต่บุญกุศลนั้นแลจะติดตามเราไปนับภพ นับชาติ

ร่างกายที่เราได้เราเกิดมานี้ มีไว้เพียงหาเงินเท่านั้นหรือ

ถ้าหากได้อัตภาพอันประเสริฐ ได้เกิดมาเป็นมนุษย์แล้วพบพระพุทธศาสนาแล้วนั้น จึงตั้งใจ ตั้งกาย เสียสละ ทำความดี เพื่อให้มีบุญ มีกุศล ติดตามมายาม “ตาย...”

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท