พูดพร่ำ ฮัมเพลง กับ ศุ บุญเลี้ยง
การมองโลกในแง่ดี ต้องมองโลกในความจริงให้พบก่อน
๑๒ มกราคม ๒๕๕๔ เช้านี้ไม่เร่งรีบนัก เป็นวันสุดท้ายของการจัดประชุมวิชาการของโรงพยาบาลสระบุรี เพราะความไม่เร่งรีบ เมื่อถึง รพศ.สระบุรีฉันวนหาที่จอดรถถึงสองรอบจนแทบถอดใจ ทั้งที่จอดรถของโรงพยาบาลเป็นอาคารจอดรถต่างหาก ๗ ชั้น และที่จอดรถแบบเสียเงิน ก็ยังไม่มีให้จอด ถ้าใครมา รพ.สระบุรีช่วงที่มีการจัดงานของโรงพยาบาลแนะนำให้มารถของที่ทำงานนะคะ และหากนำรถมาเองคงต้องมาแต่เช้าๆ เผื่อเวลาหาที่จอดรถ
การประชุมวิชาการเช้านี้ เป็นการนำเสนอผลงานของหน่วยงานต่างๆของโรงพยาบาลสระบุรีเอง คนฟังส่วนใหญ่ยังคงหนาแน่นด้วยชาว รพ.สระบุรีเอง โรงพยาบาลเครือข่ายมีน้อย ฉันแทบจะเป็นกลุ่มคนจำนวนน้อยที่เข้าฟัง ซึ่งแบ่งห้องประชุมเป็นสองห้อง ห้องแรกที่ห้องประชุมศิริพานิช อาคารผู้ป่วยนอกชั้น ๖ อีกห้องที่ห้องประชุม พล.อ.อ.เกษตร โรจนนิล ตึกสงฆ์ชั้น ๕ ฉันเข้าฟังห้องนี้
เมื่อไปงานวิชาการก็ขอพูดถึงผลงานวิชาการที่ไปฟังมานะคะ ทุกผลงานที่นำเสนอ มีกรรมการจับเวลาเรื่องละไม่เกิน ๑๕ นาที โดยมี นพ.ณรงค์ศํกดิ์ วัชโรทน เป็นประธาน และคุณวันเพ็ญ บัวทอง เป็นเลขานุการ ส่วนใหญ่ก็เกิน ๑๕ นาทีมากบ้างน้อยบ้าง ถ้าเกินมากผู้ฟังก็จะไม่ได้ซักถาม และทุกเรื่องผ่านการทำวิจัยหน้างาน (R2R) มาแล้วทั้งสิ้น
เรื่องแรกที่เข้าฟัง : การบริบาลเภสัชกรรมผู้ป่วยโดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ประยุกต์เพื่อติดตามและดูแลผู้ป่วยของงานเภสัชกรรมคลินิกผู้ป่วยใน ของกลุ่มงานเภสัชกรรม เน้นผู้ป่วยที่ใส่เครื่องช่วยหายใจ ทำให้ดักจับความเสี่ยงที่เกิดกับผู้ป่วยได้ถึง ๒๖๖ เรื่อง (ไม่น้อยเลย) ข้อดีของการใช้โปรแกรม ทำให้ดูแลผู้ป่วยได้อย่างมีประสิ ทธิภาพ บันทึกการทำงานของเภสัชแต่ละคนทำให้ประเมินผลงานผลงานของเภสัชแต่ละคนได้ แต่ยังพบปัญหา คือการใช้ยาที่บันทึกในโปรแกรม Acute Care ผู้ป่วยจะไม่ได้รับการรักษา Underlining เดิม
เรื่องที่ ๒ : การพัฒนาวิธีลดอุบัติการณ์ความผิดพลาดในขั้นตอนก่อนการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ ของกลุ่มงานพยาธิวิทยา นำเสนอโดย คุณศรสิทธิ์ จิรันดา ปัญหาเนื่องจากการเขียนชื่อผู้ป่วยช้าและเกิดความผิดพลาด จึงใช้โปรแกรม LIS มาแทนโดยใช้บาร์โคดมาแทนแต่ยังพบว่ามีการติดบาร์โคดสลับลาย จึงพัฒนาการพิมพ์บาร์โคดแล้วส่งสัญญาณเสียงไปที่ไมค์โครโฟน ผ่านระบบ LIS แบบอัตโนมัติ เมื่อเปรียบเทียบการใช้โปรแกรม LIS มือกับการติดบาร์โคดด้วยมือ พบว่าทำได้มากกว่า ๔๕๐ : ๒๔๐ และลดขั้นตอนการทำงานได้หลายขั้นตอน ลดระยะเวลารอคอย เจ้าหน้าที่มีความสุข (ขณะนี้ รพ.แก่งคอยเองก็กำลังนำโปรแกรม LIS มาใช้ในโรงพยาบาล)
เรื่องที่ ๓ : การให้สุขศึกษา การปฏิบัติตัวเมื่อได้รับการเจาะไตส่งตรวจ (Kidney biopsy) ของหน่วยไตเทียม นำเสนอโดย คุณประไพ มูลวงษ์ ปัญหาเนื่องจากผู้ป่วยไม่กล้าซักถามวิธีการตรวจทำให้เกิดความกลัววิตกกังวล แพทย์ไม่ได้อธิบาย พยาบาลก็ให้คำปรึกษาไม่ได้ เนื่องจากภาระงานมากต้องดูแลทั้งผู้ป่วยฟอกเลือดทางหน้าท้อง จึงปรับการทำแผ่นพับให้สุขศึกษา ทำแผนบันทึกการให้สุขศึกษา และออกเยี่ยมผู้ป่วยตาม การออกเยี่ยมผู้ป่วยตามตึกได้พัฒนาการให้สุขศึกษาเป็นแบบ Power Point ถึงขั้นตอนการตรวจ การปฏิบัติตัวก่อน ขณะ และหลังตรวจ ลงในโน้ตบุ๊ค แล้วนำไปสอนผู้ป่วยที่เตียง ติดตามประเมินผลทุกราย พบว่า ลดความวิตกกังวลของผู้ป่วยผู้ป่วยเกิดความพึงพอใจร้อยละ ๙๐ ลดภาวะแทรกซ้อนหลังเจาะเนื้อได ทางกลุ่มงานเองยังมีแผนพัฒนาว่าอนาคตจะทำเป็นสื่อ VDO ให้ผู้ป่วยดู (เรื่องนี้ทำให้เกิดปิ๊งแว๊บในการทำสื่อ VDO ผู้ป่วยผ่าตัดในโรงพยาบาลแก่งคอย)
เรื่องที่ ๔ : การจัดการทรัพยากรทางการแพทย์ในการดูแลผู้ป่วยที่บ้านของโรงพยาบาลสระบุรี โดยกลุ่มสวัสดิการสังคม นำเสนอโดย คุณศิริณทิพย์ แสงศาสตรา (พี่จิ๋ว) วัตถุประสงค์ เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลทางจิต สังคม เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี และสนับสนุนการทำงานของแพทย์ ทำงานร่วมกับสหสาขาวิชาชีพในโรงพยาบาลและสถานีอนามัยในเครือข่าย โดยรับบริจาควัสดุและอุปกรณ์ทางการแพทย์ทั้งจากโรงพยาบาลที่ไม่ได้ใช้ หรือมีมาก รวมถึงรับบริจาคจากผู้ป่วยและญาติ อย่างเช่น ที่นอนลม เครื่องทำออกซิเจนอัตโนมัติ รวมถึงกายอุปกรณ์ที่จำเป็นต่างๆ กระบวนการทำงาน ใช้วิธีการสนับสนุน การติดตามดูแลผู้ป่วยที่บ้าน เยี่ยมบ้าน ให้ผู้ป่วยยืม ถ้ามากกว่า ๓ เดือนให้ผู้ป่วยช่วยบริจาค การทำเช่นนี้จะทำให้ผู้ป่วยรักษาสิ่งของที่นำไปใช้ พบว่า ระยะวันนอนในโรงพยาบาลลดลง ลดอัตรา Readmit ครอบครัวดูแลกันได้เองและอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา
Highlight วันนี้เห็นจะอยู่ที่ พี่จุ้ย “ศุ บุญเลี้ยง” เห็นแฟนคลับรุ่นเก่ามากหน้าหลายตา แถมห้องประชุมหนาแน่นไปด้วยผู้คน ด้วยบุคลิกลักษณะชายอารมณ์ดี งานนี้เลยเป็นที่ประทับใจของพี่น้องชาว รพ.สระบุรี พี่จุ้ยมาเสวนาในหัวข้อ “พูดพร่ำ ฮัมเพลง” ก็พูดไปร้องเพลงไป พูดเยอะจนคุณยายต้องขอให้ร้องเพลงให้ฟัง พี่จุ้ยบอกว่าชอบพูดมากกว่าร้อง เพราะร้องเพลงมาเยอะแล้วเริ่มเบื่อแต่ยังร้องได้...มีหลายคนถามว่าทำอย่างไร จะทำให้เป็นคนที่มองบวก คิดบวก พี่จุ้ยบอกว่า การที่พี่จุ้ยเป็นคนอย่างนี้อาจเป็นเพราะครอบครัวที่หล่อหลอมมา แม่เป็นคนไม่เครียด พ่อเป็นครู ไม่เคยดุลูกมีแต่สอน และให้แง่คิด ครั้งหนึ่งพี่จุ้ยเล่าว่า เมื่อครั้งเด็กๆ เพื่อนข้างบ้านร้องไห้ไม่อยากไปโรงเรียน ไม่อยากทำการบ้าน พ่อเขาก็อนุญาต พี่จุ้ยเลยเลียนแบบบ้าง ไปบอกพ่อว่าไม่อยากไปโรงเรียน ไม่อยากทำการบ้าน พ่อของพี่จุ้ยเดินมาเขย่าตัวและจับบ่าบอกว่า “โรงเรียนไม่ต้องอยากลูก ไปได้เลย การบ้านก็เหมือนกันไม่ต้องอยาก ทำเลย ไม่ต้องรออะไรถึงเวลาให้ทำเลย” พ่อพี่จุ้ยกำลังบอกว่าอะไรคือหน้าที่ ให้ทำเลยไม่ต้องรอให้ใครมาบอก มาสั่ง เหมือนการทำงานของเรา หน้าที่เราคืออะไร ก็ไม่ต้องรอให้ใครมาสั่งให้เราไปทำ เราสั่งตัวเราเองนี่แหละ
ถามว่าการมองโลกในแง่ดี ต้องทำอย่างไร พี่จุ้ยบอกว่า เราต้องมองโลกในความเป็นจริงให้พบก่อน ว่าความจริงมันคืออะไร และรู้จักความผิดหวัง สมหวัง ความเจ็บปวด ถูกตำหนิ ถูกวิจารณ์ บ้าง
หลังจากนั้นก็ ฮัมเพลงให้ฟัง ที่ขาดไม่ได้ก็คือ เพลงอิ่มอุ่น ที่มาของเพลงนี้เพราะพี่สาวของพี่จุ้ยที่เป็นพยาบาล อยากได้เนื้อเพลงไปให้ที่ตึกหลังคลอดในวันแม่ เนื้อเพลงยังไม่ได้ตามที่ต้องการ แต่พี่จุ้ยแต่งได้แค่นี้ และอีกหลายเพลงที่พวกเราฟังอย่างอิ่มใจ
สุดท้ายก็ได้กำลังใจจากพี่จุ้ยถึงการทำงานในอาชีพของพวกเรา ที่ต้องเห็นสภาพความเจ็บป่วย และความทุกข์ของผู้อื่น แต่พวกเราก็ยังพอหาความสุขกันได้ ประคองชีวิตให้อยู่ได้อย่างมีความสุข
คำสำคัญ (Tags): #ประชุมวิชาการ รพ.สระบุรี#ศุ บุญเลี้ยง
หมายเลขบันทึก: 421201เขียนเมื่อ 19 มกราคม 2011 02:31 น. ()ความเห็น (15)
สวัสดีค่ะ
- โอ ว้าว วันนี้ได้รับฟังเรื่องดี ๆ
- พี่จุ้ยคือนักร้องขวัญใจครูอิงเลยหละ
- ชอบตอนที่เขาไปเล่นคอนเสิตที่ไหนก็จะแต่งเพลงชมจังหวัดนั้น ๆ อย่างเช่น
- เสน่ห์สงขลา
- น่าน...หน่ะซิ
- พี่จุ้ยเป็นคนอารมณ์ดี หน้ายิ้มตลอดเวลา ใครอยู่ใกล้พี่จุ้ยแล้วจะมีความสุข
- เป็นผู้ชายที่อยู่ใกล้แล้วอบอุ่นมากค่ะ
- ขอบคุณบันทึกงาม ๆ ยามเช้า ที่นำมาฝากค่ะ
อารมณ์ดี แล้วมีความสุข
จริงๆด้วย..
ดีจัง มีความสุขจากการอ่าน
ครอบครัวที่หล่อหลอมมา แม่เป็นคนไม่เครียด พ่อเป็นครู ไม่เคยดุลูกมีแต่สอน และให้แง่คิด “โรงเรียนไม่ต้องอยากลูก ไปได้เลย การบ้านก็เหมือนกันไม่ต้องอยาก ทำเลย ไม่ต้องรออะไรถึงเวลาให้ทำเลย”
ขอบคุณ คุณศุ บุญเลี้ยง จากบันทึกของคุณ
namsha นะครับ
สวัสดีค่ะน้องnamsha
- เสียงดี อารมณ์ดีด้วย เพลงของเค๊าฟังเมื่อไหร่ก็เพราะ ไม่มีเบื่อค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณครูอิงจันทร์
พี่จุ้ยเป็นคนน่ารักจริงๆค่ะ กับชีวิตที่เรียบง่าย
พี่จุ้ยเป็นศิลปินอีกคนหนึ่งที่ namsha แอบปลื้มสมัยเป็นนักศึกษา มาจนถึงปัจจุบัน
ขอบคุณค่ะ คุณครู ป.1
มนุษย์เราทุกคนล้วนปรารถนาพบความสุข พี่จุ้ยจึงมาบอกว่า ความสุขคือความจริง และอยู่รอบๆตัวเรา
ขอบคุณค่ะ พี่แก้ว..อุบล จ๋วงพานิช
สมปรารถนาน้องแล้ว ที่เห็นพี่แก้วมีความสุข
ขอบคุณค่ะ คุณแสงแห่งความดี
คำพ่อสอนของพ่อพี่จุ้ย ฟังดีๆได้แง่คิดมากค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณยาย
ใช่ค่ะเพลงพี่จุ้ยฟังไม่น่าเบื่อ บางเพลงก็ร่วมสมัย บางครั้งกลับมาฟังยังเพราะกว่าเดิมอีกค่ะ
ขอบคุณคุณยายค่ะ มีความสุขมากๆนะคะ
สวัสดีค่ะ
- ติดตามมาอ่านบันทึกดีๆที่มีคุณค่าสูงยิ่ง
- ขอบคุณมากนะคะที่นำความปลื้มปิติไปให้ในวันครู..ขอขอบคุณในมิตรภาพและน้ำใจ
ขอบคุณค่ะ อ.Preeda
ขอให้อาจารย์ความสุขมากๆนะคะ
สวัสดีค่ะน้องnamsha
ผลงานวิชาการน่าสนใจทุกเรื่องค่ะ ในเรื่องที่3การให้สุขศึกษาน่าสนใจมากค่ะ
ขอบคุณข้อคิดดีๆจากคุณศุ บุญเลี้ยง เพลงเขาเพราะนะค่ะ
อ่านบันทึกแล้วมีความสุข ขอบคุณที่แบ่งปันค่ะ
สวัสดีค่ะคุณ namsha
"เราต้องมองโลกในความเป็นจริงให้พบก่อน ว่าความจริงมันคืออะไร และรู้จักความผิดหวัง สมหวัง ความเจ็บปวด ถูกตำหนิ ถูกวิจารณ์ บ้าง"
ขอบคุณค่ะ ชอบจังประโยคนี้
