พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวท่านทรงเป็นนักเรียนอังกฤษ เมื่อเสด็จกลับไทยแล้ว ท่านก็ยังติดใจ 'พันช์' อันเป็นหนังสือชวนหัวประจำชาติของอังกฤษ พระองค์จึ่งได้ทรงออกหนังสือ "ดุสิตสมิต" ซึ่งมีกลอนอยู่ที่ปกหลังว่า
"หนังสือดุสิตสมิต | บ่มิคิดคดีความ |
ตั้งจิตจะนำความ | สุขะให้ฤดีสบาย |
ถึงล้อก็ล้อเพียง | กละเยี่ยงวิธีสหาย |
บ่มีจะมุ่งร้าย | บ่มิหมายประจานใคร |
ใครออกจะพลาดท่า | ก็จะล้อจะเลียนให้ |
ใครดีวิเสษไซร้ | ก็จะชมประสมดี |
ชมเรา็ก็แทงคิว | ผิวะฉิวก็ซอรี่ |
แม้แม้ดมิคืนดี | ก็จะเชิญ ณ คลองสานฯ" |
ใน "ดุสิตสมิต" แต่ละเล่มนั้น บางทีก็ทรงพระราชนิพนธ์ด้วยพระองค์เองตั้งหลายเรื่อง ม.ล.ปิ่น มาลากุล กล่าวาว่า การที่พระองค์ทรงพระราชนิพนธ์เรื่องต่างๆลงใน "ดุสิตสมิต" ก็เพื่อจะให้ฤดีสบาย
ในหนังสือ ฉบับแรกที่ออกสู่ตลาด บทพระราชนิพนธ์ขำขันเรื่อง "ในประถมกาลแห่งโลก" มีเนื้อความว่า
วานร ๒ ตัว นั่งอยู่บนยอดไม้ตัวละต้น สนทนาโต้ตอบดังต่อไปนี้
ลิงขาว : จิ๊กๆ จิ๊กๆ ครอกอิ๊ด ครอกเจี๊ยก
ลิงดำ : เจี๊ยก ครอกๆ จิ๊กๆ อี๊ดครอก
ลิงขาว : ครอกๆ จิ๊กๆ จิ๊กๆ เจี๊ยก อิ๊ด ครอก
ลิงดำ : อิ๊ดครอก เจี๊ยก ครอกๆ จิ๊ก จิ๊ก
ฝ่ายวานรฝูงอื่นหนวกหูเหลือที่จะทนทาน จึงตรูเข้ามาพร้อมกับไล่กัดทั้งลิงขาวและลิงดำ และไล่ตะเพิดไป
อีกเรื่องหนึ่ง
ในสมัยเมื่อมนุษย์แยกจากลิงใหม่ๆ
อ้ายขาวกับอ้ายดำ ไปไล่เนื่อในป่าเดียวกัน ต่างคนต่างมุ่งจะเอากวางตัวเดียวกัน จึงเกิดทุ่มเถียงกันดังต่อไปนี้
ขาว : แอ๊ แอ้อ้าอืออ๊ะโอ๊ะ ฮือๆ ฮี่
ดำ : แอ๊ แอ้อ้าอ๊ะอือ แอ้ ฮี่ๆ ฮื่อๆ
ขาว : (ตะโกน) อะแอ๊ อะแอ๊ ง่ำๆ ง่ำ
ต่างคนต่างเอาขวานจามกัน กวางก็วิ่งหนีไปฉิบ ฉะนั้นพอกลับบ้านเลยถูกเมียขนาบแย่ทั้งคู่
เรื่องนี้ชื่อเรื่อง "ในประถมวัยของมนุษย์"
หนูจ้อยกับหนูจิ๊ดเล่นอยู่ด้วยกัน ถือขนมคนละก้อน
หนูจ้อย : หนมของหนูเกือบหมดแล้ว จิ๊ด...ขอหนมให้หนูบ้าง
หนูจิ๊ด : หนมของหนูเกือบหมดแล้ว จ้อย...ขอหนมให้หนูบ้าง
หนูจ้อย : ดูชิ คุมเหงนี้ แง
หนูจิ๊ด : ก็อยากคุมแหงก่อนไม่ล่า แง
ในระหว่างเด็กวัดลูกศิษย์
เด็กเล็ก : คราวนี้กูสิวะ
เด็กน้อย : ทีกูต่างหากวะ
เด็กเล็ก : อ้ายนี้เล่นโกงนี้ว่ะ
เด็กน้อย : มึงละสิโกง
เด็กเล็ก : มึงแหละสิโกงราวกับห่า
เด็กน้อย : มึงนะสิห่า
เลยวางมวยกัน อาจารย์จับเฆี่ยนทั้งคู่
เรื่องสุดท้ายนี้ชื่อเรื่อง "แรกนา"
ม.ส. : อือ! วันนี้อย่างไรตื่นเช้าจริง ?
จ.ส. : ฉันไปดูแรกนา
ม.ส. : อ้อ! สนุกฤๅ
จ.ส. : ในว่าน่ะแกไม่เคยไปดูแรกนาฤๅ
ม.ส. : ก็เคย
จ.ส. : ถ้าเช่นนั้นจะต้องถามทำไมว่าสนุกฤๅ ไม่สนุก ?
ม.ส. : ก็หมายว่า จะมีอะไรแปลกกว่าปีอื่นๆ บ้าง
จ.ส. : จะมีอะไรแปลกได้ในพิธีเช่นนี้
ม.ส. : พระโคกินอะไร
จ.ส. : ก็ตามเคย กินหญ้า ที่จริงจะว่าไป พระโคออกจะดีกว่าคนเราอีกนะ แกเคยใคร่ครวญดูบ้างไหม ?
ม.ส. : จะดีกว่าคนอย่าง ?
จ.ส. : คือกินอาหารที่ควรบริโภค เป็นของถูกแก่ธาตุ และกินไม่เกินกว่าที่ธาตุไฟจะย่อยอาหารให้ละเอียดได้ ฉะนั้นโคจึงไม่ต้องเจ็บไข้เหมือนคนเรา แกเคยได้ยินที่บ้างว่าโคเป็นอหิวาต์
ม.ส. : พูดเหลวตามเคยแต่เช้าเทียวนะพ่อคุณ
ที่มา : พระราชอารมณ์ขันจากวังสวนจิตรฯ