อ่านพระอภัยมณีฉบับร้อยแก้ว(ต่อ)


สิ่งที่น่าวิตกก็คือ นับวันจะหาคนอ่านเรื่อง”พระอภัยมณี”ยากเข้าทุกที เพราะคนสมัยนี้สนใจสิ่งบันเทิงอื่นๆมากกว่า ถ้าเป็นเช่นนี้นานไป คนไทยรุ่นหลังอาจจะลืมวรรณกรรมอันล้ำค่าเรื่องนี้ไปก็ได้

                กองทัพเมืองลังกาถอยหลอกล่อ จนทหารเมืองผลึกหลงกลไล่ตามเข้าไป กองทัพเมืองลังกาจึงได้ตีโอบหลัง ทำให้กองทัพของพระอภัยมณีตกอยู่ในฐานะคับขัน จึงเอาปีมาเป่าห้ามทัพไว้ ทำให้กองทัพของนางละเวงง่วงเหงาหาวนอนเคลิบเคลิ้มหลับไปหมด เว้นแต่นางละเวงคนเดียวเท่านั้นที่ไม่หลับ เพราะคุณวิเศษของตราราหูป้องกันไว้ เมื่อเห็นว่าทหารทั้งกองทัพหลับหมดเช่นนั้น ก็ว่าคงเป็นเพราะปี่พระอภัยมณี จึงได้ขึ้นม้าขับอ้อมไปดู ก็เห็นพระอภัยมณีนั่งเป่าปี่อยู่บนรถตามลำพัง จึงได้ใช้เกาทัณฑ์ยิงไปถูกปี่ตก พระอภัยมณีตกใจจึงได้เอาดาบฟาด และยิงปืนถูกปากม้าของนางละเวง นางละเวงจึงได้ควบม้าหลบหนีไป พระอภัยมณีไล่ตามไปทัน จึงได้มีการเจรจาเกี้ยวพาราสีกันขึ้น นางละเวงเห็นไม่ได้ทีจึงควบม้าหลบหนีไปเสีย พระอภัยมณีจึงได้กลับมาเป่าปี่ให้กองทัพของตนตื่นขึ้น แล้วเล่าความให้ศรีสุวรรณกับสินสมุทรฟัง ถึงเรื่องที่ได้พบกับนางละเวง

 

                 นางละเวงขับม้าหนีไปตามลำพัง ให้เหน็ดเหนื่อยทั้งคนทั้งม้า เมื่อถึงริมลำธารเชิงเขาอังกาศ ก็ปล่อยม้าออกไปหากินหญ้า ส่วนนางนอนพักอยู่จนถึงรุ่งเช้า เกิดอัศจรรย์ มีดินวิเศษที่เรียกว่า "นมธรณี" กลิ้งลงมาจากภูเขา นางจึงได้มีดผ่าออกชิมดู ทำให้มีกำลังสดชื่นขึ้น เมื่อให้ม้ากินม้าก็มีกำลังสดชื่นขึ้นด้วย จึงเอาส่วนที่เหลือขึ้นหลังม้าเดินทางต่อไป ขณะนั้นสัตว์ต่างๆได้กลิ่นดินก็พากันมาล้อมรอบ และได้พบคนซีกเดียวยืนอยู่ขอกิน นมธรณี นั้น เพื่อให้ร่างกายเต็มทั้งสองซีกพ้นคำสาปพระอิศวร ซึ่งนางก็แบ่งให้กินและได้ถามทางด้วย

                   พอตกค่ำก็พบกับหมู่โจร และพวกโจรได้เข้าแย่งชิงเครื่องทรงของนาง เพราะทราบว่านางเป็นกษัตริย์ จึงเกิดต่อสู้กัน จนชาวบ้านสิกคามที่อาศัยอยู่กับบาดหลวงอีกคนหนึ่งยกกำลังมาช่วย และนำนางไปยังที่พัก รุ่งขึ้นนางละเวงได้พบกับบาดหลวง และบาดหลวงได้แนะนำให้แก้คุณวิเศษของปี่พระอภัยมณีว่า "เพราะมีหู้อยู่ปี่ก็มีศัดดา แม้หาหูไม่ปี่ปี่ไม่มีฤทธิ์" บาดหลวงได้ให้ขบวนคุ้มกันนางละเวงมาส่งถึงเมือง โดยมีหญิงสาวพี่น้องสองคนชื่อ ยุพาผกา อายุ 14 ปี่ กับ สุลาลีวัน อายุ 12 ปี อาสามาอยู่รับราชการกับนางด้วย เดินทางมาหลายวันหลายคืน จนถึงถ้ำกลำพันในเวลาจนพลบ นางละเวงจึงได้สั่งให้พักพลที่นั่นคืนหนึ่ง พอตกดึกได้ถูกชายคนหนึ่ง ชื่อย่องตอด เป็นคนมีวิชาอาคมขลัง ใช้มนต์สะกดให้คนหลับแล้วเข้าไปลักม้ากิน และเข้าไปถึงห้องบรรทมของนางละเวง นางตื่นขึ้นเพราะไม่ถูกสะกดโดยมีตราพระราหูคุ้มกันอยู่ และได้ใช้ตรานั่นฟาดเจ้าย่องตอดจนสลบไป และจับมัดไว้ ครั้นนางยุพาผกา กับนางสุลาลีวัน กับทหารตื่นขึ้นมาก็ช่วยกันไต่ถาม เจ้าย่องตอดยอมแพ้แก่อำนาจพระราหู และขอทำงานลากรถแทนม้าที่เข้าไปขโมยกิน และช่วยกันปราบผีถ้ำกลำพันจนหนีไปหมด เปลี่ยนชื่อถ้ำเสียเป็น "เขาเจ้ารำ" จากนั้นให้ย่องตอดลากรถม้าเข้าเมืองเตรียมทำสงครามต่อไป พอดีกับที่พระอภัยมณี ส่งสานส์มาเกี้ยวพาราสีนางละเวง จนบาดหลวงจับได้ว่านางละเวงรักใคร่อยู่กับพระอภัยมณี

                    ฝ่ายทัพของสามพราหมณ์ที่ยกมาทางด่านดงตาล ได้พบกับทัพของอิเรนและเกิดสู้รบกัน จนทัพของอิเรนแตกพ่าย แต่ลูกสาวของอิเรนชื่อ รำภาสะหรี รวบรวมพลต่อสู้ป้องกันเมืองไว้เป็นสามารถ แต่ที่สุดก็เสียเมือง ตัวนางรำภาสะหรีหนีไปเฝ้านางละเวงในเมืองหลวง และมีการเตรียมกำลังตั้งรับข้าศึกใหม่ โดยให้นางรำภาสะหรี ยุพาผกา สุลาลีวัน ออกมาตั้งรักษา ด่านเขาเจ้าประจัญ โดยมีย่องตอดมากับทัพด้วย ได้มีการต่อสู้กันเป็นสามารถ ย่องตอดใช้มนต์สะกดทัพและจับสามพราหมณ์ไว้ได้ แต่ภายหลังสินสมุทร และพราหมร์แก้ไขเอาตัวรอดมาได้ และสั่งให้กองทัพล้อมเขาเจ้าประจัญเอาไว้ นางยุพาผกา นางสุลาลีวัน และรำภาสะหรี จึงได้มาทูลนางละเวงว่า ข้าศึกกำลังมาก ไม่สามารถตีแตกได้

                 นางละเวงได้ปรึกษากับบาดหลวง และตกลงกันว่าจะใช้มารยาหญิง เข้าล่อพระอภัยมณี แต่เป็นเพราะนางก็รักพระอภัยมณี นางรำภาสะหรีก็พอใจศรีสุวรรณอยู่ จึงได้ปรึกษาหาทางหย่าทัพกัน บาดหลวงทราบเรื่องก็โกรธแค้นมาก ว่ากล่าวต่างๆนานา นางละเวงจึงต้องแกล้งทำสงครามต่อไป แต่ส่วนตัวนั้นให้นางยุพาผกาไปติดต่อกับพระอภัยมณี หลอกเอาพระอภัยมณีปลอมตัวเป็นหญิง นำติดท้ายรถเข้าเมือง แล้วเอาเครื่องทรงพระอภัยมณีไปสวมให้ชายคนหนึ่ง   และประหารเสีย เอาหัวไปให้บาดหลวง บาดหลวงคิดว่าพระอภัยมณีตายแล้ว ก็สั่งให้ทหารเอาไฟเผาทัพเมืองผลึก จนมีการต่อสู้กันขึ้นอีกครั้ง ในระหว่างนั้นศรีสุวรรณ สินสมุทรและพราหมณ์ทั้งสาม ทราบว่าพระอภัยหายไป คิดว่าถูกจับไปฆ่าเสียแล้ว จึงระดมพลเข้าโจมตีทัพฝรั่งจนแตกพ่ายไปอีกครั้ง และบาดหลวงก็หายสาปสูญไปในการรบครั้งนี้ด้วย ต่อเมื่อศพชายคนที่ปลอมตัวเป็นพระอภัยมณีเข้า ทราบว่าพระอภัยมณียังไม่ตาย คงอยู่ในวังเมืองลังกาเป็นแน่

                 ขณะที่การรบที่เขาเจ้าประจัญ ยังคงดำเนินอยู่นั้น นางรำภาสะหรีและนางยุพาผกาได้ไปกราบทูลนางละเวงให้ทราบ และบอกว่าบาดหลวงหายไปแล้ว ให้พระอภัยมณีออกเจรจาระงับการสงครามเสีย    โดยแต่งสาส์นออกไปยังศรีสุวรรณและสินสมุทร แต่ศรีสุวรรณกับสินสมุทร ไม่เต็มใจปฎิบัติตาม จึงปรึกษาปลอมสาส์นท้าวสุทัศน์พระบิดาพระอภัยมณี สั่งให้พระอภัยมณีกลับเมือง แต่พระอภัยมณีไม่กลับบอกว่ายังป่วยอยู่ และสั่งให้หยุดรบ ในที่สุดพระอภัยมณีก็ได้นางละเวงเป็นชายาในวังลังกา

 

                   ส่วนศรีสุวรรณกับสินสมุทร ก็ถูกเสน่ห์ของนาง รำภาสะหรี และนางยุพาผกา ด้วยเหมือนกัน จึงถึงกับได้เสียเป็นชายาอยู่ในเมืองลังกา พราหมณ์ทั้งสามจึงได้มีหนังสือไปยังนางสุวรรณมาลีที่เมืองผลึกว่า พระอภัยมณี ศรีสุวรรณ สินสมุทร ไปหลงใหลผู้หญิงอยู่ที่เมืองลังกาเสียแล้วให้รีบมาแก้ไข นางสุวรรณมาลีทราบดังนั้นก็รีบยกทัพไป สุดสาครเมื่อทราบเรื่องก็ชวนหัสไชยยกทัพมาเฝ้านางสุวรรณมาลี และยกทัพล่องไปจนถึงเมืองลังกา และทำหนังสือไปตัดพ้อพระอภัยมณี ศรีสุวรรณ และสินสมุทร แต่ก็ไม่เป็นผล สุดสาครกับหัสไชยจึงลอบเข้าเมืองลังกาเพื่อไปเข้าเฝ้าพระอภัยมณี แต่ถูกนางละเวงใช้นางสุลาลีวันทำสเน่ห์ให้หลงใหลไปอีกคน หัสไชยจึงกลับมาบอกนางสุวรรณมาลี ว่าสุดสาครไปหลงสเน่ห์นางเมืองลังกาเสียแล้วอีกคน ทำให้นางสุวรรณมาลีเป็นเดือดเป็นแค้นและหึงหวงเป็นอย่างยิ่ง ถึงกับยกทัพไปด่าทอกันถึงหน้าค่ายอึงคะนึง เมื่อเห็นว่าไม่มีทางแก้ไข พระอภัยมณีกับพวกได้ นางสุวรรณมาลี จึงได้มีสาส์นไปภึงนางเกษรา และนางเสาวคนธ์ ให้ทราบเรื่อง ท้าวทศวงศ์จึงพานางเกษรา และนางอรุณรัศมีข้ามมา แล้วเจ้าเมืองการะเวกก็ให้ทิศาปาโฒกข์ โลกเชษฐ์ นำนางเสาวคนธ์ข้ามมาพบท้าวทศวงศ์ด้วย ทั้งหมดจึงได้ยกทัพไปเมืองลังกา

                เมื่อปรึกษากันรอบคอบแล้วก็ตกลงให้ทำพิธีแก้เสน่ห์ โดยให้ทิศาปาโมกข์โลกเชษฐ์ เศกดอกไม้และใช้ให้หัสไชย นำไปแก้สินสมุทรกับสุดสาคร ออกมาก่อนแล้ว จึงปรึกษาที่จะแก้ไขนำพระอภัยมณีกับศรีสุวรรณออกมาอีกต่อไป

                นางอรุณรัศมี กับนางเสาวคนธ์ เมื่อได้พบกับสินสมุทรและสุดสาคร และกลับมาสารภาพผิดกับนางสุวรรณมาลี นางสุวรรณมาลีแกล้วทำเป็นโกรธ เพราะมีความรักใคร่เอ็นดูในทั้งสองอยู่ สินสมุทรกับสุดสาคร ต้องง้องอนปลอบประโลมเป็นการใหญ่ และในที่สุด สินสมุทรก็ได้ นางอรุณรัศมีเป็นชายา ส่วนสินสมุทรได้นางเสาวคนธ์เป็นชายา เช่นกัน

                 นางละเวงเมื่อทราบเรื่องว่า หัสไชยมาแก้ไขเอาสินสมุทรกับสุดสาครไปได้ ก็ไปปรึกษากับพระสังฆราชแห่งบ้านสิกคาม ขอเอายาเสน่ห์ให้นางยุพาผกา กับนางสุลาลีวัน ลอบเอาเข้าไปในเมืองผลึก เอายาป้ายลิ้นคนทั้งสองจนต้องหลงสเน่ห์ หนีกลับเข้าไปอยู่กับนางฝรั่งทั้งสองที่เมืองลังกาอีกครั้ง ทำให้นางอรุณรัศมี และนางเสาวคนธ์ เป็นโกรธเป็นแค้นอย่างมาก นางสุวรรณมาลี จึงได้จัดกำลังทัพเตรียมเข้าโจมตีเมืองลังกาถึงขั้นแตกหัก เพื่อชิงเอาคนทั้งหมดกลับ ทางฝ่ายนางละเวงก็เตรียมตั้งรับ โดยให้พระอภัยมณี ศรีสุวรรณ และสินสมุทรกับสุดสาคร เป็นแม่ทัพ

                     แต่ก่อนที่กองทัพทั้งสองเมืองจะเข้าประหัตประหารกันนั้น ทิศาปาโมกข์โลกเชษฐ์ ได้ทำพิธีเศกนกการะเวก และตั้งพิธีเชิญฤๅษีจากเกาะแก้วพิศดารให้มาช่วย พอทัพทั้งสองประจัญหน้ากัน ก็เกิดอัศจรรย์ฝนตกใหญ่ อากาศหนาวเย็นเยือก จนทหารและนายทัพทั้งหลายหนาวเหน็บ เห็นกองไฟบูชาอยู่ตรงเชิงผา ต่างก็พากันห้อมล้อมเพื่อรับไออุ่น ฤๅษีแห่งเกาะแก้วพิศดารจึงปรากฎกายขึ้น แล้วเทศนาสั่งสอนให้ทั้งสองฝ่ายเลิกรบ และเป็นไมตรีต่อกัน ทำให้สงครามยุติลง นางละเวงได้เชิญนางสุวรรณมาลี และกษัตริย์ทั้งหมดเข้าเมืองลังกา มีการปองดองและทำความเข้าใจกันทั่วทุกคน

                      แต่เรื่องความรักระหว่าง สินสมุทร และสุดสาคร กับนางอรุณรัศมี และนางเสาวคนธ์ นั้นกว่าจะลงเอยกันได้มีอุปสรรค์มากมาย ทั้งนี้เกิดจากนางทั้งสองไม่พอใจที่สินสมุทรและสุดสาคร ไปมีมเหสีเป็นพวกฝรั่งลังกามาก่อน ส่วนหัสไชยนั้นภายหลังได้แต่งงานกับนางสร้อยสุวรรณ และนางจันทรสุดา ธิดาของพระอภัยมณี กับนางสุวรรณมาลี ความวุ่นวายจบลงโดยสุดสาครได้ครองเมืองลังกา สินสมุทรได้ครองเมืองผลึก หัสไชยได้ครองเมืองการะเวก ส่วนพระอภัยมณี นางสุวรรณมาลี และนางละเวง ไปบวชบำเพ็ญพรตอยู่ที่เขาสิงคุตร์ หาความสุขทางธรรมสืบไป.

หมายเลขบันทึก: 416506เขียนเมื่อ 26 ธันวาคม 2010 09:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 11:03 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

ได้สาระ มาก มากๆ เลยคะ สวัสดีปีใหม่นะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท