ทุกวินาทีของชีวิตคนเราต้องเดินทางเคลื่อนไปข้างหน้าตามจังหวะเวลาของธรรมชาติ เราไม่เคยเห็นตัวตนของเวลา รู้แต่เพียงว่า 1 วันมี 24 ชั่วโมง 1 ปีมี 12 เดือน ถ้าระบุแยกย่อยเป็นวันมี 365,366 วัน โดยใช้นาฬิกาและปฏิทินเป็นเครื่องมือแสดงถึงความเที่ยงตรง และเมื่อมันสิ้นสุดมันก็วกกลับเป็นอยู่อย่างนี้ตลอดมา
บางคนชอบใช้เวลาไปกับการเฝ้ามองดูเวลาและผลักดันให้ชีวิตตกเป็นทาสของมัน ไม่รู้จุดหมายของชีวิตที่แท้จริงของชีวิตว่าทำเพื่ออะไร แต่ละวันคงทำได้แค่อาศัยแอบอิงความฝันของคนอื่น และอีกหลายคนคิดว่า ใครไม่แข่งขันกับเวลาจะกลายเป็นคนเสียโอกาส
ในยุคสังคมปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่มักประเมินค่าความเป็นคนที่การมีข้าวของเงินทอง ในตารางชีวิตประจำวันเวลาจึงถูกใช้อย่างคุ้มค่า ซึ่งล้วนแต่เป็นกิจกรรมที่มุ่งสนองต้องการของตนเอง ไม่ว่าเป็นความต้องการด้านพื้นฐานเพื่อความมีชีวิตรอด ความสำเร็จในหน้าที่การงาน และการเป็นที่ยอมรับ,ยกย่องของผู้คนในสังคม ทำให้บางจังหวะชีวิตของบางคนกลายเป็นคนเหงา หวาดกลัวเปล่าเปลี่ยว อ่อนแอ ท้อแท้ ฯลฯ ไม่กล้าแม้กระทั่งการก้าวย่างแรกออกไปเผชิญกับโลกภายนอก
เหนื่อยนะ…กับการมุ่งเดินทางไปสู่เป้าหมายที่ไหนสักแห่งและมุ่งไปที่จุดหมายเดียวโดยไม่สนใจธรรมชาติและสรรพสิ่งรอบข้างที่ล้วนเตรียมพร้อมให้เราได้ดื่มด่ำและสร้างความอิ่มเอมใจในยามที่ชีวิตเหนื่อยล้า
คนเรามีเวลาจำกัดที่ได้สัมผัสธรรมชาติอันแสนงดงาม ความเร็วหรือช้าคงไม่มีผลต่อเรามากนักถ้าเรารู้จักการชะลอ,ผ่อนแรงในการวิ่งแข่งกับเวลาลงบ้าง พอใจกับปัจจุบัน และมุ่งทอฝันในสิ่งที่พอจะเอื้อมถึงชีวิตคงไม่ต้องยุ่งเหยิง ระหกระเหินไปตามการหมุนของโลกและเกิดเป็นภาพลวงตา ลวงใจในเวลาต่อมา เหมือนข้อความบางส่วนของโดม วุฒิชัยเขียนไว้ในคอลัมภ์ริมรั้วหัวใจในนิตยสารขวัญเรือนว่า
โลกนี้มองไปคล้ายโรงแรม ไม่ว่าใครก็มีสิทธิ์อยู่ได้เพียงชั่วคราว
ไม่ว่าเตียงเดี่ยวหรือเตียงคู่ ไม่ว่าสั้นหรือยาว
ไม่ว่าหรูหราหรือซอมซ่อที่สุดแล้วก็ต้องจากไป
เราพากันมาอยู่เพียงชั่วคราวในโลกนี้
แต่เรากลับทำราวกับว่าจะมีชีวิตไปชั่วนิรันดร์
เวลาไม่สามารถกลับมาเริ่มต้นใหม่ได้ การใช้ชีวิตของเราจึงควรเป็นไปอย่างมีสติและสัมปชัญญะอยู่เสมอ รักตัวเอง รักครอบครัว รักการทำงาน และตั้งใจทำกับทุกเรื่องในชีวิต เพราะภาระหน้าที่เหล่านี้เป็นตัวกำหนดมาตรฐานชีวิตและคุณค่าของคน เต็มใจที่จะอ้าแขนรับสิ่งท้าทายขณะที่โอกาสหรือจังหวะเข้ามาทักทาย มุ่งทำในสิ่งดี มีประโยชน์ต่อตัวเองและสังคม เพราะ
คุณค่าของคนก็เช่นคุณค่าของดอกไม้
มิได้อยู่ที่ระยะเวลาของความสด
แต่อยู่ที่ความทรงจำระหว่างที่มันยังสด
(วินทร์ เลียววาริณ ความฝันโง่ๆ)
เมื่อถึงวันจบของชีวิตมาถึงเราจะได้ไม่ต้องมานั่งครำครวญเสียใจกับวันเวลาและชีวิตที่ผ่านมา สมควรจะเป็นผู้ที่ถูกกล่าวถึงและถูกจดจำ ถ้าไม่คิดเพื่อตัวเอง อย่างน้อยอาจจะทำเพื่อรอยยิ้มคนรอบข้างที่เรารักและรักเรา...ก็คงไมุ่่เป็นการเปลืองพื้นที่ความสุขของสมองและหัวใจมากมายนัก
ขอบคุณ :
ภาพจากอินเตอร์เน็ต
ข้อความโดม วุฒิชัยและวินทร์ เลียววาริณ
อ่านแล้ว รู้สึกดีครับ
สวัสดีต๋อนเจ๊าเจ้า...
ชอบใจจังกับคำที่ว่า...โลกเหมือนโรงแรม...
เพราะมันแสดงถึงอะไรๆได้หลายอย่าง อย่างน้อยก็มีคนเข้ามาแล้วก็ออกไปจะทิ้งร่องรอยเอาไว้มากน้อยก็แล้วแต่ คงเปรียบได้กับความดีหรือความเลวที่ผู้คนต่างทิ้งเอาไว้บนโลกใบนี้....ลึกซึ้งค่ะลึกซึ้ง
ยินดีจ้าดนักกั๋บบันทึกตี้จวนหื้อปล๋งและปล่อยวางเหียพ่อง
สุขสันต์วันผัดเจ้า
สวัสดีค่ะคุณkrupong
สวัสดค่ะ
สุข สดชื่น สมหวังตลอดปีใหม่และตลอดไปนะคะ
สวัสดีค่ะ
ตามมาอ่านบันทึก ให้ข้อคิดดีๆ มากมาย
เวลาเป็นสิ่งมีค่า ควรใช้เวลาให้เกิดประโยชน์
รักตัวเอง รักคนอื่นเป็น จะทำให้ชีวิตมีความสุข
ขอบคุณค่ะที่แบ่งปัน
สวัสดีค่ะ
นะคะ
เรียนอาจารย์ที่เคารพยิ่ง
แวะมาสวัสดีปีใหม่อีกรอบค่ะ
แวะมาทักทายยามค่ำคืน
ดึกแล้ว krupong หลับหรือยังนะ
ขอให้นอนหลับฝันดีค่ะ
สุขสันต์วันปีใหม่ที่ใกล้จะมาถึง รวยๆ เฮงๆ
แวะมาแหมกำ เอาขน๋มมาส่งหื้อต๋อนขวายๆ
กั๋วว่าจะหิววววววว
อ้อๆๆๆๆๆเข้าใจแล้วววววววววว
นึกว่าอะหยัง อิๆๆๆๆ
"。° 。 ° ˛ Happy New Year 2011 ^^
> ˚˛ * _Π_____*。*˚ ˚ ˛ ˚ ˛ •˛
> •˚ */______/ ~\。˚ ˚ ˛ ˚ ˛ •˛
> • ˚ | 田田 |門| ˚ ˛ ˚ ˛
> ...……~٩(●̮̮̃•̃)۶٩( -̮̮̃-̃)۶٩(-̮̮̃•̃)۶٩(●̮̮̃●̃)"
ปริศนาธรรมเกือกสองขอนบ่ามีแหมกาเจ๊า....อิๆๆๆ
มีเรื่องฮาเล่าหื้อฟังแหมเมาะ