หลังจากได้เรื่อง จากกลวิธีต่างๆ ดังที่เล่าให้ฟังในบันทึกก่อนแล้ว ต่อไป เมื่อผู้เขียนส่งต้นฉบับมาให้ บก. ก็มีหน้าที่ปรุงแต่ง ให้บทความ มีความน่าสนใจ ดึงดูดใจผู้อ่านมากยิ่งขึ้น
ตั้งชื่อเรื่องให้ดึงดูดใจ หากชื่อเรื่องดูเรียบไป ก็จะตั้งชื่อใหม่ เช่น เรื่องเล่าขณะเรียนต่อ ก็ตั้งชื่อว่า “ย้อนรอยเส้นทาง PhD ของโอ๋-อโณทัย” หรือ เมื่อล่าสุด น้องแอนจากนิติเวช เขียนเล่าเรื่องที่เธอทำใน Otop2 เธอตั้งชื่อเรื่องมาว่า “โครงการ forensic card” ตนเองก็ขอเปลี่ยนชื่อ “Forensic card พาสปอร์ตไปนิติเวช” เป็นต้น
มีรูปประกอบ ต้องมีรูป รูปต้องเข้ากับเนื้อหา และหากช่วยเสริมเรื่องจะยิ่งดี เช่น เรื่องเล่าของคุณอรอนงค์ เกี่ยวกับโครงการประหยัดพลังงานที่เธอส่งเข้าร่วมใน OTOP2 ตอนแรกให้คนไปช่วยถ่ายรูปมาประกอบ ตากล้องก็ไปกวาดสมาชิกโครงการมานั่งเรียงแถวถ่ายรูป เหมือนที่เราถ่ายกันในร้านถ่ายรูป รูปที่มีสมาชิกทีมแบบนี้เราก็ต้องการค่ะ แต่ในกรณีนี้ยังไม่เสริมเนื้อเรื่องพอ จึงให้ไปเก็บรูปมาเพิ่ม โดยให้ไปถ่ายตอนที่คุณอรกำลังปิดสวิส์ทไฟ
อีกอย่าง ในเรื่องที่เป็นบทความทั่วไป ที่ไม่ใช่เรื่องของคนใดคนหนึ่งโดยตรง ก็ยังคงพยายามหาใช้รูปประกอบ ที่คนในภาคเป็นนายแบบนางแบบ ซึ่งก็อาจต้องไปถ่ายมาใหม่ เช่น บทความเรื่อง “การเคลื่อนไหวเพื่อสุขภาพ” ที่จะลงในฉบับหน้า ก็ได้ไปถ่ายภาพคุณมาริษาขณะเดินขึ้นลงบันได และ ให้ใครคนหนึ่งในภาค ถ่ายรูปขณะทำงานบ้านมาเป็นรูปประกอบบทความ
มีการเน้นประโยค ข้อความที่น่าสนใจ เช่น ทำตัวหนา ตัวเอียง รูปแบบของฟอนต์
นอกจากนี้ ดูแลเรื่องตัวอักษร ย่อหน้า และอื่นๆ ให้อ่านง่าย ตัวอักษรไม่เล็ก แน่น จนเกินไป เป็นต้น
งานละเอียดอ่อนจังเลยค่ะ นอกจากเป็นคุณเอื้อที่แสนขยันของเราแล้ว อาจารย์ยังต้องเป็นคุณละเอียด บอ กอด้วย ว่าแล้วก็คิดว่า ต้องฟังตอนต่อไปอีกสักหน่อย แล้วค่อยขอถอนตัวจากการรับหน้าที่บอ กอคนต่อไป ขอเป็นผู้ช่วยในกองไปเรื่อยๆจะเหมาะกว่านะคะ อาจารย์