ข้อดีของการตื่นแต่เช้า


 

ประโยชน์ของการตื่นเช้ามี 10 ข้อ ดังนี้ครับ

1.การต้อนรัีบวันใหม่ ให้อธิฐานว่าวันนี้ ข้าพเจ้าโชคดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ตื่นขึ้นมา ข้าพเจ้ายังมีชีวิตอยู่และจะใช้ชีวิตที่มีให้คุ้มค่าที่สุด ข้าพเจ้าจะพัฒนาตนเองอย่างสม่ำเสมอ และจะเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อผู้อื่น ข้าพเจ้าจะไม่เสียเวลาอันจำกัดของข้าพเจ้าไปกับการคิดร้ายหรือโกรธเคืองผู้อื่น ข้าพเจ้าจะสร้างประโยชน์ให้กับผู้อื่นให้มากที่สุดเท่าที่ข้าพเจ้าจะทำได้

2.การทำกิจวัตรอย่างสบายๆ ตื่นขึ้นมาแต่เช้าสามารถทำให้เราทำภารกิจได้หลายหย่างก่อนเพื่อนบ้านที่ตื่นสาย(ซึ่งส่งผลทำให้ทำงานเสร็จก่อนชาวบ้าน) ผลลัพธ์จากการตื่นเช้ามันต่างกันลิบลับเลยทีเดียว

3.ความเงียบสงบ ไม่มีเสียงเด็กร้องโวยวาย ไม่มีเสียงเรื่องเล่าเช้านี้ ไม่มีรถยนต์ ช่วงเวลาในช่วงเช้าเป็นอะไรที่สงบสุขเอามากๆ มันเป็นเวลาที่ผมได้อยู่กับตัวเองอย่างแท้จริงและใช้เวลานี้อ่านหนังสือหรือไม่ก็คิดถึงสิ่งต่างๆในชีวิตที่ผ่านมา

4.แสงแดดยามเช้า นี่เป็นของขวัญที่ธรรมชาิติมอบให้กับทุกคนในตอนเช้า แต่กลับไม่มีใครคิดอยากจะได้ของฟรีแบบนี้ การมองดูแสงแดดที่ค่อยๆส่องแสงเรืองรองบนท้องฟ้าระหว่างที่วิ่งออกกำลังกายไปด้วยเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขอย่างที่ไม่สามารถหาได้จากที่ไหนอีกแล้ว

5.อาหารเช้า ทุกคนทราบดีว่าอาหารเช้าเป็นอาหารมื้อที่สำคัญที่สุดของวัน ถ้าพลาดมื้อเช้าไป ก็จะหิวและหงุดหงิดตั้งแต่ตอนตอกบัตรเข้าทำงานไปจนถึงตอนเที่ยง (ทำให้ทำงานไม่ได้เรื่อง) พอถึงเที่ยง ผมก็จะสวาปามทุกอย่างโดยที่ไม่ได้ดูเลยว่ากินอะไรเข้าไป สุดท้ายก็อ้วนลงพุง การมีเวลาค่อยๆละเลียดอาหารเช้าคู่กับกาแฟร้อนๆสักถ้วย หรือไม่ก็อ่านหนังสือดีๆสักเล่มไม่ใช่ความฝันหรอกครับ มันเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการยัดขนมฟังเข้าปากระหว่างขับรถติดไฟแดงหรือระหว่างกำลังพิมพ์งานเยอะมากทีเดียว

6.ออกกำลังกาย รู้ดีครับว่าการออกกำลังกายสามารถทำได้ในช่วงเวลาเย็น แต่ผมเลือกที่จะออกกำลังกายตอนเช้ามากกว่าเพราะ หากมีธุระด่วนเข้ามาแทรก มันจะทำให้ผมอดออกกำลังกาย (ในกรณีที่เลือกตอนเย็นนะครับ) แต่ถ้าเลือกช่วงเวลาเช้าออกกำลังกาย มันจะทำให้ผมสามารถออกกำลังกายได้ทุกวัน

7.ความมีประสิทธิภาพ ช่วงเวลาเช้าเป็นช่วงเวลาที่ผมสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด มักจะใช้เวลานี้เขียนหนังสือโดยไม่มีอะไรรบกวนสมาธิ และงานที่คิดจะทำในวันนั้นก็มักจะเสร็จสมบูรณ์ตั้งแต่เช้า ซึ่งทำให้สามารถใช้เวลาในตอนเย็นกับครอบครัวได้อีกด้วย

8.มีเวลาให้กับเป้าหมายในชีวิต เชื่อว่าทุกคนมีเป้าหมายในชีวิตกันทุกคน และก็ไม่มีเวลาไหนหรอกครับที่เหมาะกับการใช้เวลาทบทวนเป้าหมายและวางแผนไปกว่าเวลาในตอนเช้า โดยส่วนตัว มักจะมีเป้าหมายหนึ่งอย่างที่ต้องการทำให้เสร็จภายในหนึ่งอาทิตย์ จะใช้เวลาในช่วงเช้าวางแผนว่าในแต่ละวัน ต้องทำอะไรบ้างเพื่อให้บรรลุเป้้าหมาย และถ้าทำได้ ก็จะทำให้เสร็จเลยก่อนที่จะไปทำงาน

9.ปัญหาการเดินทาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงน้ำมันแพงแบบนี้ การตื่นเช้าจะทำให้เราไม่ต้องเจอกับปัญหานี้ ทำให้เราไปถึงที่ทำงาน หรือ โรงเรียน หรือมหาวิทยาลัยได้เร็วขึ้น หรือถ้าจะเปรี้ยวกว่านี้ ลองขี่จักรยานไปเลย หรือถ้าบ้านอยู่ใกล้มากๆ การเดินไปทำงานก็เป็นทางเลือกที่ไม่เลว

10.ปัญหาการนัด มันเป็นเรื่องง่ายมากๆที่จะไปก่อนเวลานัด ทุกคนรู้ดีว่าการไปสายจากเวลาที่นัดไว้ทำให้ภาพพจน์ของเราดูแย่ลงหลายเท่า การไปตรงเวลาจะทำให้คนยอมรับ และการไปก่อนเวลาจะทำให้คนชื่นชมเลยทีเดียว และยังทำให้มีเวลาเตรียมตัวก่อนการประชุม การเรียน ฯลฯ อีกด้วย

วิธีการฝึกให้คนตื่นเช้า

1.ช้าๆได้พร้าเล่มงาม อย่าเปลี่ยนเวลานอนอย่างฮวบฮาบ ลองตื่นให้เร็วขึ้นกว่าเดิมสัก 15 นาที เป็นเวลา 2-3 วันก่อน หลังจากนั้นก็ค่อยตื่นให้เร็วขึ้นอีก 15 นาที ทำเช่นนี้ไปเรื่อยๆจนกว่าจะสามารถตื่นได้ตามเวลาที่ตั้งเป้าหมายไว้

2.นอนให้เร็วกว่าเดิมสักนิด หลายๆคนคงจะชินกับการนอนดึกๆ เนื่องจากติดทีวี หรือไม่ก็ติดอินเตอร์เน็ต แต่การกระทำเช่นนี้ควบคู่ไปกับการตื่นเช้ากว่าเดิม จะทำให้ไม่ไหว สุดท้าย อาจจะถึงขั้นต้องกลับไปเริ่มต้นฝึกตื่นเช้ากันใหม่ ถึงแม้ว่าจะยังไม่ง่วง ผมขอแนะนำให้ลองเข้านอนไปก่อน และถ้ายังไม่หลับ ก็ให้อ่านหนังสือไปด้วยเลย แล้วคุณจะพบว่ามันช่วยให้หลับง่ายขึ้นเยอะ

3.ตั้งนาฬิกาปลุกไว้ไกลๆ ถ้าวางนาฬิกาปลุกไว้ใกล้ๆ เวลามันดัง เราก็จะปิดมันได้อย่างง่ายดาย แต่ถ้าเราลองวางไว้ให้ไกลจากเตียงสักหน่อย เราก็ต้องลุกขึ้นจากเตียงเพื่อไปกดปุ่มปิด ในเมื่อลุกขึ้นมาแล้ว คนส่วนใหญ่ก็คงไม่คิดจะกลับไปนอนอีก (อาจจะมีข้อยกเว้นนะครับ)

4.ออกจากห้องนอนให้เร็วที่สุดหลังจากปิดนาฬิกาปลุกแล้ว อย่าปล่อยให้ตัวคุณเริ่มคิดได้ว่า \"เออ! ไปนอนดีกว่า\" โดยส่วนตัวแล้ว ต่อให้ต้องคลาน ผมก็จะทำและควรจะทำให้มันเป็นอัตโนมัติซะ ผมจะรีบออกจากห้องนอนแล้วไปเข้าห้องน้ำให้เร็วที่สุด หลังจากที่ได้ล้างหน้าล้างตา แปรงฟัน เรียบร้อย ผมก็จะพบว่าตัวเองได้ตื่นเต็มที่เรียบร้อย
5.หาเหตุผลดีๆสักข้อ กำหนดอะไรบางอย่างสำคัญๆที่จะต้องทำในเวลาพิเศษที่ได้รับ มันจะเป็นแรงบันดาลใจให้เราลุกขึ้นจากเตียงได้ โดยส่วนตัวแล้ว เหตุผลของการตื่นนอนเช้าๆของผม คือ การได้ใช้เวลาเขียนหนังสือ และเท่าที่ผ่านมา มันทำให้ผมตื่นเช้าได้ทุกวันเลยทีเดียว

6.ใช้เวลาที่ได้รับเพิ่มนี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด อย่าใช้เวลาที่เยอะแยะนี้ทำอะไรแค่อย่างเดียว หลังจากนั้นก็นั่งอยู่เฉยๆ (ไม่รู้จะทำอะไรต่อดี) เพราะมันจะทำให้กลับไปนอนอีกครั้ง ตัวผมเอง นอกจากจะเขียนหนังสือแล้ว ผมยังใช้เวลาในตอนเช้าวางแผนสิ่งที่ผมคิดจะทำในวันนี้ เตรียมอาหารให้ลูกๆ ออกกำลังกาย นั่งสมาธิ ฯลฯ หลังจากที่ตื่นมาจนถึง 6 โมงครึ่ง ผมได้ใช้เวลาทำอะไรเยอะแยะมากมายมากกว่าตัวผมในอดีต (ตอนที่ยังตื่นสาย) ใช้เวลาทำงานทั้งวันซะอีก

7.ให้รางวัลตัวเองกับการตื่นนอนตอนเช้า ตอนแรกๆ มันอาจจะดุเหมือนกับว่าการตื่นเช้าเป็นการบังคับตัวเองให้ทำอะไรที่ยากแสนยาก แต่มันจะไม่เป็นอย่างนั้นอีกต่อไป ถ้าเรากำหนดรางวัลให้กับความพยายามนี้ ซึ่งมันขึ้นอยู่กับแต่ละคน บางคนอาจจะได้ใช้เวลานี้อ่านนิยายที่ตัวเองชอบ บางคนอาจจะได้ใช้เวลานี้ทำอาหารเช้าระดับพระราชาให้ตัวเอง บางคนอาจจะใช้เวลานี้นั่งสมาธิ ไม่นานหรอกครับ การตื่นเช้าก็จะกลายเป็นกิจวัตรประจำววันได้อย่างสบายๆ

หมายเลขบันทึก: 414006เขียนเมื่อ 16 ธันวาคม 2010 05:26 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 17:36 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

หากจะตื่นเช้าได้ประโยชน์ทั้งหลาย ไม่ควรนอนดึกด้วย

ร่างกายคนเรานี่อัศจรรย์นะคะ ถ้านอนหัวค่ำพอนอนอิ่มครบเวลาก็จะตื่นเช้าได้เองค่ะ :)

...ผมมักตื่นตอนเช้าอยู่เสมอ...อาจเป็นเพราะแก่แล้ว นอนน้อย...และมักรีบตื่นเร็วขึ้นครับ แต่ก็มีประโยชน์หลายอย่างแบบที่พูดครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท