หลังจากที่ฉันได้รับโทรศัพท์ติดต่อจากกกระทรวงให้เข้ารับการอบรมสัมมนาเจ้าหน้าที่หน่วยพยาบาลไทย ฉันก็ได้เข้ารับการอบรมตามวันเวลาคือ วันที่ 6-8 กันยายน 2553 เป็นการการเตรียมความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ เพราะเราต้องไปปฏิบัติหน้าที่ หน่วยงานของรัฐจ้างเรา ได้ค่าจ้าง(เบี้ยเลี้ยง ) ในขณะเดียวกันก็เป็นวายิบ(จำเป็น)ที่จะต้องประกอบพิธีฮัจย์ไปด้วย เพราะเรายังไม่เคยประกอบพิธีฮัจย์ วิทยากรที่สอนเราก็เป็นแพทย์และพยาบาลเป็นส่วนใหญ่ที่มีประสบการณ์ในการเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยพยาบาลไทยมาก่อน เป็นการปฐมนิเทศการทำงานที่หน่วยฯ โดยรวมแล้วก็คือให้เตรียมร่างกายเพราะเราจะไปดูแลสุขภาพอาคันทุกะของพระเจ้า ร่างกายเราต้องพร้อม เตรียมความพร้อมเรื่องความรู้และทักษะในการให้การพยาบาล เราคือความหวังที่ฮุจญาจ(ผู้ที่ไปประกอบพิธีฮัจย์)ให้เราดูแลสุขภาพเขายามเจ็บป่วยที่นั่น เตรียมสิ่งของเครื่องใช้ที่จะนำติดตัวไป เตรียมใจเพราะอาจจะเจอเหตุการณ์ที่ต้องใช้ความซอบัรที่สูง (อดทน) และรับการทดสอบจากพระเจ้า ซึ่งตอนนั้นฉันก็ยังไม่ทราบว่ามันคืออะไร วิทยาการทุกคนจะพูดเหมือนกันหมดว่าต้องใช้ความอดทนที่สูงมาก หน่วยพยาบาลจะแบ่งเป็น 2 ชุด คือชุดแรก เดินทาง 8 ตุลาคม 53 - 24 พฤศจิกายน 53 ชุด2 เดินทาง 2 พฤศจิกายน 53 - 19 ธันวาคม 53 การทำงานที่นั่น ชุดแรกเป็นการไปเตรียมสถานที่ จัดสถานที่หลังจากที่ทีมพยาบาล ปี 52 เก็บไว้ ฉันเป็นเจ้าหน้าที่ของหน่วยพยาบาลไทย ชุดแรก มีด้วยกัน 18 คน ชุด 2 จำนวน 13 คน ส่วนใหญ่เป็นเจ้าหน้าที่จากภาคใต้ เพื่อนๆของฉันจะมาค้างกันที่โรงแรมในกรุงเทพฯ ส่วนฉันค้างบ้านพี่สาวที่มีนบุรี ไปกลับทั้ง 3 วัน เราจะไปดูแลฮุจญาจที่เป็นคนไทย ประมาณ 13,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นคนจากภาคใต้ประมาณ 9,000 คน เจ้าหน้าที่จึงเน้นภาคใต้เป็นส่วนใหญ่เพราะต้องพูดภาษายาวีได้ ตัวฉันเป็นมุสลิมภาคกลางพูดยาวีไม่ได้ เขาก็มีเอกสารมาให้หัดพูด วิทยากรเล่ารายละเอียดถึงการทำงาน ที่ต้องใช้ความอดทนเพราะผู้รับบริการจะมีจำนวนมาก อาจถึงวันละ 800 คน เราต้องทำงานเหนื่อย และเราต้องแบ่งเวลาการประกอบศาสนกิจของเราด้วย การปฎิบัติตัวให้ทำแต่สิ่งที่ดี ๆ ให้นึกคิดแต่สิ่ง ดี ๆ (เหนียต) แล้วเราจะได้สิ่งดี ๆกลับมา สิ่งที่ต้องเจอแน่ ๆคือ ง่วงนอน หิว เหนื่อย สิ่งที่วิทยากรบอกแบบเน้น ๆคือ อยู่ร่วมกันต้องอดทน ต้องสำรวม อย่าพูดสิ่งไม่ดี การนินทาอย่าทำ ต้องต่อสู้กับนัพซู (ความโมโห) ต้องปรับตัวทุกอย่าง กินเร็ว อาบน้ำเร็ว การนัดกันเรื่องเวลาต้องตรงต่อเวลา เริ่มตั้งแต่ก่อนขึ้นเครื่องบินเลย การทำงานที่ซาอุฯจะแบ่งทีมไปให้บริการที่มดีนะห์ด้วยส่วนหนึ่ง ที่นครเมกกะส่วนหนึ่ง ซึ่งนครมดีนะห์อยู่ห่างจากนครเมกกะประมาณ 400 กิโลเมตร ในเรื่องการเตรียมตัวประกอบพิธีฮัจย์ เจ้าหน้าที่ทุกคนต้องไปศึกษากับผู้รู้เอาเอง เหลือเวลาอีกประมาณ 1 เดือนสำหรับชุดแรก ในการเตรียมความพร้อมทั้งการเป็นเจ้าหน้าที่และการเป็นอาคันทุกะของพระเจ้า นี่คือข้อมูลคร่าวๆจาก 3 วันที่มีการสัมมนาที่กระทรวง......(โปรดติดตามตอนต่อไปเมื่อมีเวลาว่างเว้นจากการทำงานค่ะ)
เมกกะ เป็นเมืองที่ผมก็ใฝฝันจะได้ไป แต่เสียดายที่กำหนดให้เฉพาะผู้นับถือศาสนาอิสลลามเข้าได้เท่านั้น ใช่ไหมครับ
ถูกต้องแล้วค่ะ MUSLIM ONLY
ถูกต้องแล้วค่ะ MUSLIM ONLY
สลามครับ คุณ ทอแสง
ขอบคุณที่นำมาแบ่งปัน
ขอบคุณความฝันที่บันทึก
ขอบคุณที่สร้าง อสม.ให้เป็นนักพัฒนา นำพาไปสู่ อาสาสมัครของหมู่บ้านในทุกประเด็นของงานชุมชน