สวัสดีค่ะ......ทุกคน
วันนี้มีหลักปฏิบัติสำหรับความสุขและความทุกข์มาฝาก เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เป็นแนวทางในการปฏิบัติตนเพื่อเพิ่มความสุขยิ่งขึ้น
การดำรงชีวิตอย่างมีความสุข เป็นความปรารถนาของชีวิต การที่จะเข้าถึงความสุขของชีวิตได้ คือ การรู้และเข้าใจกฏของธรรมชาติและท่าทีต่อธรรมชาติ นำมาสู่การปฏิบัติที่ถูกทาง ทุกข์ก็จะไม่มี แต่ถ้าปฏิบัติไม่ถูกก็ยิ่งเหินห่างจากความสุข ทุกข์ก็ทับถม สำหรับหลักวิธีปฏิบัติในเรื่องความสุขและความทุกข์ มีดังนี้
๑. ไม่เอาทุกข์มาทับถมตนหรือการเที่ยวหาทุกข์มาใส่ตน
๒. ไม่ละทิ้งความสุขที่ชอบธรรม คือ สุขที่เราควรได้ ควรมี ตามเหตุปัจจัย มีหลายขั้นหลายระดับ คือ สุขแบบแย่งกัน สุขแบบไปด้วยกัน หรือสุขแบบประสานกัน และสุขแบบอิสระ
๓. แม้แต่สุขที่ชอบธรรมก็ไม่ให้ลุ่มหลง มัวเมา เพราะถ้าเราปฏิบัติผิดพลาดสุขก็จะกลายเป็นเสื่อม
๔. ความสุขที่สมบูรณ์ คือความสุขที่เป็นอิสระ การไม่ประมาทหลงเพลินในความสุข จะนำไปสู่ความสุขอย่างอื่นที่ประณีตยิ่งขึ้นไปที่เราควรจะได้ เพราะฉะนั้นเราจึงควรก้าวต่อไปในการเพียรพยายามที่จะเข้าถึงความสุขที่ประณีตยิ่งขึ้นไปด้วยการพัฒนากุศล คือ หนทางแห่งความสุข ถ้าทำอย่างนี้ชีวิตก็จะมีแต่ความเจริญงอกงาม มีความสุขตลอดเวลา ถึงแม้สิ่งทั้งหลายจะทุกข์ต่อไปตามเรื่องของธรรมชาติ แต่ใจเราเป็นอิสระไม่ยึดติดกับทุกข์ ก็จะมีความสุขที่สมบูรณ์
อาจหลงไปบ้างในบางครั้ง แต่ก็สามารถสร้างกรอบในจิตใจตนเองได้ เป็นบันทึกที่ดีมากครับ
ขอบคุณมากค่ะ.......
สุขหรือทุกข์อยู่ที่จิตใจเราเอง จะสุขมากหรือน้อยก็อยู่ที่ตัวเราเอง ขอให้มีความสุขมาก ๆ นะคะ
สวัสดีค่ะพี่จีระพา
เป็นหลักปฏิบัติที่ดีนะค่ะ จะได้นำไปปฏิบัติเพราะบ้างครั้งความทุกข์กับความสุขมันก็อยู่ใกล้กันมาก ถ้าไม่สติก็จะ
หลงไปกับมัน
หลักปฏิบัติที่ดีเช่นนี้ยั่งยืนและทันสมัยเสมอ
สวัสดีค่ะ ชอบข้อ 4 ความสุขที่สมบูรณ์คือความสุขที่เป็นอิสระ มันมีความสุขจริง ๆ ค่ะ
สุดยอดจริงๆค่ะ พี่ อ่านแล้วอยากมีความสุขขึ้นอีก
ดีใจ ทีอย่างน้อย เราก็ไม่ได้เป็นคนหนึ่งที่รู้สึกดีที่ได้ศึกษาในธรรมะ ยังมีคุณครูจีรพา และขอบคุณในทุกๆอย่างที่ได้ติชมบล็อก บันทึกที่ผ่านๆมา
ทุกท่านเป็นกำลังใจที่ดีเสมอ ขอบคุณมากค่ะ