๗๘ ปี ประชาธิปไตยไทย คนไทยยังไร้สิทธิเสรีภาพอย่างแท้จริง


คุณภาพประชาชน คือภาพสะท้อน คุณภาพประชาธิปไตย

หากจะกล่าวว่า ช่วงเวลา ๗๘ ปี ของอายุคน นั้นนับว่านานมากทีเดียว แต่ถ้ามองเรื่อง พัฒนาการทางการเมือง เมื่อเทียบกับประเทศต่างๆ ในโลกนี้ ถือได้ว่า ระบอบประชาธิปไตยของไทย นั้นยังเพียงเริ่มมีพัฒนาการเท่านั้น ยังไม่ถือว่า เป็นประชาธิปไตยโดยแท้ สาเหตุหลักที่แท้จริงของปัญหาการพัฒนาการทางการเมือง คือ คุณภาพของพลเมืองไทย ทั้งเรื่องการศึกษา แนวคิด และค่านิยม อันเป็นจุดที่คอยฉุดรั้ง ไม่ให้ ประชาธิปไตยไปไกลกว่านี้ โดยเฉพาะการที่ นักการเมือง ข้าราชการ ที่มีความสำนึกในหน้าที่ ต่อบ้านเมืองมีน้อยมาก (หากเปรียบเทียบกับ นักการเมือง และข้าราชการที่ปฏิบัติไม่ซื่อตรงต่อหน้าที่ ไม่ทำประโยชน์ต่อบ้านเมืองโดยหวังแต่ผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องนับว่ามีมากมายนัก)

 เราต้องยอมรับความจริงว่า สังคมไทย มีนักการเมือง และข้าราชการที่ นอกจากไม่สำนึกต่อหน้าที่แล้ว ยังใช้อำนาจหน้าที่ ไปในทางแสวงหาผลประโยชน์ให้ตนเอง และพวกพ้อง  นั้นมีเป็นจำนวนมาก โดยมักอ้างการทำเพื่อประโยชน์ของประชาชนอยู่เสมอ เรามักจะโทษแต่ประชาชนว่า ไร้สติปัญญา ไร้ความคิด ชักจูงง่าย และเอาประโยชน์เพียงเล็กน้อยมาเป็นเหยื่อล่อ (ดูจากผลการเลือกตั้ง การซื้อสิทธิ์ ขายเสียง) ก็ได้คะแนนสนับสนุนแล้ว

ซึ่งหากเราจะกล่าวโทษกันจริงๆ ก็ต้องไปกล่าวโทษ ระบบการศึกษาของไทย ทั้งๆ ที่ระบบการศึกษาไทย มีพัฒนาการมามากกว่า ร้อยปี แต่ทำไม ความฉลาด มีสติปัญญา คิดเองได้ และเป็นตัวของตัวเอง มีไม่ถึงครึ่งหนึ่งของประชากรของประเทศ ระบบการศึกษาไทย ที่ครอบงำ มายาคติ แม้แต่นักการศึกษา ซึ่งมีหน้าที่สร้างภูมิปัญญาให้สังคม ยังคิดไม่ได้เลย ทุกวันนี้ นักการศึกษา มองแต่เรื่องผลประโยชน์ของตนเองทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น เรื่องงบประมาณ การแย่งชิง เงินค่าวิทยฐานะ  สร้างผลงานทางการศึกษา กันอย่างมากมาย แต่กลับมีคุณภาพของเด็ก และเยาวชนที่ตกต่ำลงเรื่อยๆ  อย่าเอาเยาวชน ที่สร้างผลงานทางวิชาการ ไปแข่งขันในเวทีต่างๆ แล้วชนะ หรือ เด็กที่เป็นเลิศทางวิชาการ มาอ้างเลย เพราะมันเทียบจำนวนไม่ได้ กับเด็ก ที่มีคุณภาพต่ำ เกเร ไม่สนใจการเรียน ติดเกมส์ มั่วสุม สร้างปัญหาให้พ่อแม่ รวมทั้ง ท้องตั้งแต่ยังไม่สามารถเลี้ยงตัวเองได้ (ดูจากข่าว การแอบทำแท้งก็ได้)  ว่ามันมากมายสักเพียงใด

สังคมไทยมักจะหาคำตอบ โดยการถามว่า ใครต้องรับผิดชอบ ใครมีหน้าที่ในการแก้ปัญหา ทั้งๆที่ ปัญหานี้ เป็นหน้าของประชาชนไทยทุกคน ไม่ใช่หน้าที่ของคนใดคนหนึ่ง ทุกคนต้องมีจุดเริ่มต้น ที่ต้องคิดว่า ต้องทำดีเพื่อตนเอง และเพื่อบ้านเมือง และไม่สร้างปัญหาให้สังคมต้องเดือดร้อน ถ้าคนไทยคิดดีได้ ทุกอย่างก็จะตามมาเอง เมื่อคนคิดดีไม่ได้ ปัญหาจึงมีอยู่ตลอดไป

ดังนั้น การที่ประเทศไทย จะมีประชาธิปไตย อย่างแท้จริง ไม่ได้หมายความว่า คนไทยต้อง ฉลาดล้ำ เท่าชาติตะวันตก เราคิดเองได้ การมีประชาธิปไตยที่แท้จริง คือ การส่งเสริมให้คนไทย รู้จักคิดที่จะทำความดี ละเว้นที่จะกระทำความชั่วร้าย ทั้งหลายทั้งปวง การอ้าง ว่า คนนั้นเขาทำผิดยังไม่เป็นอะไรเลย นั้นแหละ คือการคัดลอก พฤติกรรมของความเลวร้ายไว้แล้ว การทำชั่ว แล้วจับได้ไล่ไม่ทัน คนไทยจึงชอบเรียนแบบ ชอบที่จะกระทำตาม หากเปรียบได้กับ ไวรัสตัวร้าย ที่จะคัดลอกตัวเอง แล้วขยายไปอย่างรวดเร็ว และยากที่จะกำจัด ใครก็ตามที่กระทำผิด แล้วไม่สามารถได้รับการลงโทษ มักจะได้รับการกล่าวว่า เป็นคนเก่ง เป็นคนมีความสามารถ ที่ยุคหนึ่ง มีผู้นำระดับประเทศ กล่าวว่า  ถ้าคิดว่าทำผิด ก็ไปหาใบเสร็จมา ฟังแล้วดูน่าเศร้าใจ ขนาดผู้ที่ต้องดูแลบ้านเมืองยังคิดได้ขนาดนี้ แล้วคนในสังคมไทยจะคิดไม่ได้อย่างไรกัน

สิ่งที่อย่างเรียกร้อง มากกว่า ประชาธิปไตยเต็มใบ (ที่เรามักเรียกร้องกัน) คือ จิตสำนึกแห่งการทำความดี จิตสำนึกต่อการทำเพื่อบ้านเมือง หากสองสิ่งนี้เกิดได้ ในสมองของคนไทย ประชาธิปไตยเต็มใน นั้นเป็นเรื่อง ง่ายมากๆๆ อย่างแท้จริง  

ด้วยความปรารถนาดีจาก

นายรักษ์ ปริกทอง

ชมรมคลังปัญญา

ตู้ ปณ.๑๒ ปณ.บางอ้อ กรุงเทพฯ ๑๐๗๐๐

หมายเลขบันทึก: 413009เขียนเมื่อ 10 ธันวาคม 2010 11:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 ธันวาคม 2012 13:47 น. ()สัญญาอนุญาต: ครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกันจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

สวัสดีค่ะคุณรักษ์

จิตสำนึกแห่งการทำความดี จิตสำนึกต่อการทำเพื่อบ้านเมือง หากสองสิ่งนี้เกิดได้ ในสมองของคนไทย ประชาธิปไตยเต็มใบ นั้นเป็นเรื่อง ง่ายมากๆๆ อย่างแท้จริง  

ประชาธิปไตยแบบไทยเราต้องหาให้เจอ ไม่ต้องไปยึดถือตามชาติอื่นๆ หากพัฒนาคุณภาพ มุมความคิด ประชากร ก็จะสะท้อนภาพ การเมืองประชาธิปไตย ได้ ขอบคุณค่ะ

 

ประชาธิปไตยเต็มใบ คืออะไร สามารถนำความเจริญมาได้มากกว่าระบบอื่นหรือไม่ ... ?

สวัสดีครับ คุณรักษ์

ติดตามมาขอบคุณที่เข้าไปอ่านบทความของผม สำหรับบทความของคุณรักษ์ในบันทึกนี้ ผมเห็นด้วยครับ การพัฒนาประชาธิปไตยเป็นเรื่องของประชาชนทุกคน คนไม่กี่คนหรือไม่กี่กลุ่มไม่สามารถพัฒนาให้ดีและมีความเข้มแข็งได้ครับ

นับถือ

ม.ล.ชาญโชติ ชมพูนุท

ผมมองว่า คนเรามักมองเห็นแค่เพียงสิทธิ อันเป็นประโยชน์อันตนจะพึงมีพึงได้ แต่กลับลืม หรือไม่ตระหนักว่า ตนยังมีหน้าที่ที่จะเคารพสิทธิของคนอื่น มีหน้าที่ต่อชาติบ้านเมือง และมีหน้าที่เคารพตนเอง

หากสิทธิมาควบคู่กับหน้าที่แล้ว ประชาธิปไตยก็จะน่าพัฒนาก้าวหน้าต่อไป

ยินดีที่ได้รู้จักค่ะท่าน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท