เมื่อคืนวานนี้(พฤหัสบดี 9 ธ.ค.) ที่ศาลา 10 หน้าอุโบสถวัดมกุฏกษัตริยาราม ผมได้ไปร่วมฟังสวดพระอภิธรรม หลวงพ่อพร ภิรมย์ ปุณญวังโส ปรมาจารย์อันเป็นตำนานของลิเก เพลง แหล่ แบบอย่างผู้ใช้ภาษาไทย ฯลฯ เป็นคืนที่ 4 ท่านมรณภาพเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม ในวัย 82 ปี แต่เจ้าภาพเห็นว่าตรงกับวันเฉลิมพระชนมพรรษาฯจึงเริ่มจัดให้มีพิธีสวดพระอภิธรรมในวันที่ 6 ธ.ค.
ผมได้ไปกราบท่านที่วัดจีน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่กุฏิเล็กๆริมน้ำ ด้วยความเคารพ รัก นับถือท่านเป็นการส่วนตัวหลายครั้ง ไปแต่ละครั้งท่านจะมีเรื่องเล่าชีวิตส่วนตัว และเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ให้ฟัง รวมทั้งมีคติเตือนใจให้ทุกครั้ง(เคยบันทึกบล็อกมา 2 ครั้งแล้ว) ระยะหลังผมไม่มีโอกาสได้ไปกราบท่าน และทราบว่าท่านอาพาธรักษาตัวที่โรงพยาบาลสงฆ์ ผมก็ไม่ได้ไปเยี่ยมท่านอีก ทั้งๆที่รำลึกถึงท่านตลอดเวลา ก็รู้สึกผิดและเสียใจที่ไม่ได้พบท่านในวาระสุดท้าย วันนี้ได้กราบท่านแม้จะไม่มีโอกาสได้ฟังท่านพูดท่านสอนอีกก็ยังรู้สึกดีขึ้นบ้าง
ที่ศาลา 10 มีพวงหรีดของท่านนายกรัฐมนตรี และของคุณจาตุรนต์ ฉายแสง วางเด่นที่หน้าศาลา รวมทั้งมีพวงหรีดอีกเป็นจำนวนมากแขวนในเต๊นท์ต่างๆ มีผู้ที่เคารพนับถือท่านมาร่วมฟังสวดพระอภิธรรมเป็นจำนวนมาก ต้องขยายที่นั่งออกไปด้านหลัง
คืนนี้มีเจ้าภาพหลายคน หลายคณะที่ล้วนแต่เป็นมิตรสหายเคยร่วมวงการเพลง และผู้ที่เคารพรักท่าน มีทั้งคุณสุเทพ วงศ์คำแหง ครูชาลี อินทรวิจิตร คุณประจวบ จำปาทอง คุณถนอม นวลอนันต์ และอีกหลายๆคน ส่วนใหญ่จะเป็นผู้อาวุโสรุ่นราวคราวเดียวหรือไม่ก็รุ่นน้องท่านแทบทั้งสิ้น
ทุกคนมาด้วยใจที่รักท่าน ต่างพูดกันว่าท่านเป็นคนดี ไม่หวังลาภยศ ไม่มีอะไรด่างพร้อย มีบุตรชายเพียงคนเดียวที่เป็นแม่งานหลักคือ คุณรังสรรค์ มีสมวงศ์ และทุกคนที่มาต่างก็ช่วยเหลืองานกันอย่างเต็มที่
จะมีการสวดพระอภิธรรมจนถึงวันนี้(ศุกร์ที่ 10) แล้วจะเก็บศพไว้ 100 วัน เพื่อบำเพ็ญกุศลอีกครั้ง
สวัสดีค่ะ
เคยได้รับทราบประวัติและผลงานเพลงของ พระพร ภิรมย์ มานานพอสมควร และเคยได้พบกับท่าน สมัยเมื่อทำงานอยู่วงการเพลง
ผลงานเพลงของท่านสร้างชื่อเสียงให้แก่ศิลปินมามากมายหลายท่าน ไม่ว่าจะเป็นศิลปินลูกทุ่งอย่าง สายัณห์ สัญญา ยอดรัก สลักใจ ก็หยิบจับเพลงท่านมาร้องจนโด่งดังไปทั่ว
ขอร่วมไว้อาลัย มา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
ประวัติชองท่านน่าศึกษามากครับ บทเพลงของท่านนับว่าเป็นต้นแบบเพลงทำนองไทยเดิม