เพราะคำสัญญาของคนบางคน และคลิป VDO บนมือถือ ทำให้ป้าไปเหนือทั้งน้ำตา
ไม่ใช่ความรันทดหรอกนะคะ แต่เพราะเรื่องราวต่างๆ ที่ประเดประดังเข้ามา จนอยากใช้ช่วงวันหยุดเวลาทบทวนตัวเอง แบบไม่แคร์สื่อ เมื่อเพื่อนพยายามจะดูแลน้ำตาเจ้ากรรมก็ไหลออกมา จนต้องตัดสินใจไปเหนือกับพรรคพวก เพื่อมิตรภาพของเพื่อนแล้ว เอาก็เอาว่ะ บิลท์กันสุดขีด เพื่อ ทริปโต้ลมหนาว 5 วัน 4 คืน ละไมๆ ไปอุมบะกัน (เชียงใหม่ ปาย แม่ฮ่องสอน ปางอุ๋ง ลำปาง)
สมาชิกอุมบะทัวร์
อากาศที่เริ่มจะเย็นลงเรื่อย กลับแปรปรวนร้อนขึ้นมาอีก ช่างเหมาะสมกับอายุของป้าที่ล่วงเลยเข้าสู่วัยเมนโนพอสซะจริงเชียว ดังนั้นจึงพบว่าหลังกลับจากทริป พวกเราถูกทักว่า ไปเกี่ยวข้าวมารึไง ไง๋หน้าดำกันอย่างงั้น
ขำๆจาก iberry +ภูโคลน
งานนี้ป้าไปแบบ สะ-บาย สะ-บาย นักจัดจ้อนหน้าใหม่ (The Younger Manager) ได้แก่ น้องเอ กะ น้องอ้อม ได้อำนวยความสะดวกให้ทุกอย่าง พร้อมทำหน้าที่เป็นตากล้องด้วย อ้อ น้องหน่อยอีกคน ที่ทำหน้าที่ตากล้องชั้นเยี่ยม ขนาดก้าวขาลงจากรถตู้ ยังได้หนึ่ง Act
กิจกรรมระหว่างทางคือการทายว่าหมดทริปนี้รูปจากทุกล้องจะมีจำนวนเท่าใด...นั่นเป็นสาเหตุหนึ่งหรือเปล่า ที่เราถ่ายรูปกันจน Win
@iberry
วันแรกเราพักกันที่เชียงใหม่ นักจัดจ้อนของเราเลือกที่พักแถวๆ ถนนนิมมานเหมินทร์ เพื่อที่จะไปเยี่ยมเยียนร้าน iberry ร้านกาแฟแนวๆ ของโน้ต อุดม(แต้) ซึ่งก็ไม่ผิดหวัง เราได้แวะหลังจากรับประทานอาหารเย็นมื้อแรกร่วมกัน ที่ร้านผาลาดตะวันรอนที่อยู่สุดถนนสุเทพ หลัง มช.ขึ้นชื่อว่า อาหารค่อนข้างแพง ใช้ผักปลอดสารพิษ วิวดี และดนตรีเพราะ...ร้านนี้ถ้ากระหม่อมไม่บางควรนั่งด้านนอก (outdoor) เพราะน้ำค้างลงแรว แต่พวกหัวแข็งจะทำให้เห็นบรรยากาศเมืองเชียงใหม่ในตอนค่ำคืน ควรจองโต๊ะก่อน เพราะลูกค้าแน่นเสียเหลือเกิน โทร. 053-216-039
สำหรับ iberry นอกจากกาแฟ เบอเกอรี่แล้ว ยังมีงาน Art สไตล์โน้ตๆ ให้ชมด้วย
Coffee in Love@Pai
ปาย คือเป้าหมายของการเดินทางวันที่สอง ถ่ายรูปมาตลอดทาง Location โดนๆ ก็ได้แก่ สะพานประวัติศาสตร์ (ทางที่ดีควรไปถึงตอนเช้าหรือค่ำๆ จะได้ไม่ร้อน) ร้านกาแฟ Coffee in Love (ที่หน้าเทศกาลคนมากมายจนขาดบรรยากาศร้านกาแฟ นึกว่าสตูดิโอถ่ายภาพ) และไปโล้ชิงช้าที่หมู่บ้านสันติชล ที่อยู่ห่างจากตัวเมืองปายไปประมาณ 7 กม. ไปแล้วอย่าพลาดการโล้ชิงช้า มันโอ (OK.) มากเลย เย็นย่ำก็เข้าที่พักในตัวเมืองปาย วันนี้เราได้ indiana Cotage เป็นที่พัก ปกติเข้าทางถนนในเมืองแต่เรามาหลัง 17.OO น. ที่ปิดถนนเป็นถนนคนเดิน เล่นเอาต้องเข้าที่พักทางป่ากล้วยด้านหลังนู้น เป็นที่ฮามากเมื่อเห็นหน้าพี่จั๊กจั่นเหวอๆ ชอบกล
Indiana Cotage@Pai
ในปายที่พักค่อนข้างหลากหลาย เลือกได้ตามแนวที่ชอบ ใกล้ที่ชอบปิ้งแบบต่างคนต่างเดิน ใกล้ชิดภูเขา ใกล้ชิดแม่น้ำปาย ซึ่งสองอันหลังต้องมีรถส่วนตัวถึงจะสะดวก ราคาก็หลากหลาย
หากเที่ยวสไตล์แบบคนเดินช้า ถ้ามีเวลาที่ปายน่าจะใช้ชีวิตอยู่สัก 2-3 วัน เพราะที่พักสวยๆ ร้านขายของที่ระลึกน่ารักๆ และร้านกาแฟอินๆ มีหลายแห่งให้แวะเยี่ยม ขนาดมาปายเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ยังอยากที่จะมาอีกแต่คราวนี้มาแบบเบาๆ
เย็นนี้ที่ปาย เราแยกกันกิน แยกกัน Shop แบบตามอัธยาศัย ระหว่างนั่งรอกันกลับที่พักก็มีการ Drink for health รอพรรคพวกที่ไปวาดภาพไม่เหมือน...ถ้าเหมือนรับรองไม่เอาเงิน พอได้รูปเป็นที่เฮฮาปาร์ตี้กันใหญ่
ระหว่างทาง ปาย-แม่ฮ่องสอน
เช้าวันที่ 3 ของทริปเราเดินทางไปแม่ฮ่องสอน แวะถ้ำลอด...และไปพอกโคลนที่ภูโคลน ป็นที่ชอบใจใหญ่ ถึงแม่ฮ่องสอนก็ค่ำ แวะตลาดไนท์แป๊บหนึ่งกลับมาพร้อมใบประกาศว่าคุณเป็นคนชนะ 1,864 โค้ง ในราคาฉบับละ 20 บาท ที่แม่ฮ่องสอนน้องเอจัดการหาบ้านพักแบบนอนรวมกันได้ 8 คน วันนี้เรามีนัดปาร์ตี้วงดนตรีแกล้มเนื้อเกาหลี กับ "วงแอว 39-(L 39) ที่อุตส่าห์หอบกีตาร์มาจากขอนแก่น และซ้อมซัดลูกซัดมาตลอดทาง มีคลิปบันทึกการแสดงไว้ตั้งใจจะส่งให้คุณบอย โกสิยพงษ์ เผื่อจะดังเหมือนวง Room39 บ้าง
ภาพหลุด เก็บตก
เช้าวันที่ 4 ของทริป ต้องตื่นตี 4 ครึ่ง คนขับรถบอกว่าพร้อมสำหรับการเดินทางไปปางอุ๋ง ซึ่งย้อนไปทางภูโคลนประมาณ 60 กม. หากไปสายจะไม่เห็นสายหมอกและพระอาทิตย์ขึ้น งานนี้ต้องยอมโทรมกันหน่อย...แต่เราก็ได้เก็บเกี่ยวบรรยากาศที่สวยงามแห่งปางอุ๋งมาได้ ซึ่งนางแบบบางคนไม่งามเลย เพราะไม่ได้ล้างหน้า การขึ้นปางอุ๋งมีค่าใช้จ่ายเรื่องรถรับ-ส่ง เพราะต้องจำกัดเรื่องจำนวนรถที่ขึ้นไป ดังนั้นต้องจอดรถส่วนตัวไว้ที่ด้านล่าง และชุมชนจะจัดบริการรถปิ๊กอัพนำไปส่ง เหมาเที่ยว 400 บาท หรือจ่ายรายหัวก็ 50 บาท (ไป-กลับ)
ปางอุ๋ง
ตลอด 400 เมตรระหว่างทางหมู่บ้านไปถึงอ่างเก็บน้ำ จะเป็นโฮมสเตย์ ราคาก็ประมาณ 500 บาท ห้องน้ำในตัวแต่ไม่มีน้ำอุ่น พร้อมขายอาหารประเภทข้าวต้ม ไข่ปิ้ง กาแฟ ขนมปัง และสินค้าที่ระลึก โปสการ์ดตลอดทาง
คนขับรถแนะนำว่ามาทั้งที ลองกินอาหารพื้นเมืองจีนยูนนาน ที่หมู่บ้าน รักไทย บ้างมั๊ย เออ...เอาสิ จากปางอุ๋ง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที วิวดี เป็นอาหารแบบเหมาโต๊ะ มีชุด 1,000 และ 800 บาม หิวๆ กลัวไม่อิ่ม สั่งชุด 1000 บาท อาหารอาทิ ขาหมู+หมั่นโถว ยำใบชา หน่อไม้น้ำผัดน้ำมัน ไก่ดำตุ่นยาจีน อะไรอีกเรียกชื่อไม่ถูก แถมมีชาดีๆ ให้ซื้อกลับเป็นของฝากอีกด้วย
หมู่บ้านรักไทย
กลับมาอาบน้ำแบบจับเวลา เพื่อเตรียมตัวไปชมดอกบัวตองบานที่ดอยแม่อูคอ วันนี้จัดหนักแน่นอน เพราะออกจากม่ฮ่องสอนก็ 11.00 น.แล้ว อาหารกลางวันจึงเป็นข้าวกล่อง กว่า 2 ชม.ที่เดินทางกะไปชมภูเขาสีเหลืองแต่เป็นที่น่าเสียดายที่ดอกบัวตองโรยแล้ว เราจึงมุ่งหน้าล่องมาออบหลวง และสวนสนบ่อแก้ว ซึ่งปกติทัศนียภาพสวยมากมาย เหมาะกับนักเล่นกล้องของเรา แต่ภาวะการสังสรรค์ดึก ตื่นเช้า ระยะทางที่ยาวไกล และอากาศร้อน ทำให้เราหมดแรงกัน เริ่มสลบไสลจนคนขับรถแอบมองกระจกหลังอยู่บ่อยๆ ว่าทีมเป็นยังงัย ยังไหวอยู่หรือเปล่า
ดอยแม่อูคอ
คืนวันที่ 4 นี้ เราหมายว่าจะไปนอนที่ลำปาง เพราะต้องการจะไปเดินตลาดไนท์ ที่ป้าตุ่นโฆษณาว่าใสดี ใสกว่าเชียงใหม่และเชียงราย แต่ด้วยว่าเกือบ 2 ทุ่มเรายังไม่เหยียบเขตเชียงใหม่ ทำให้เปลี่ยนใจพักที่เชียงใหม่แทน และระหว่างการทานข้าวต้มมื้อเย็นนั้น สาวก IT ก็งัดเครื่องมือสื่อสารมา Search หาที่พัก ทำให้เราได้ที่นอนกันอย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องเสียเวลาขับรถวนหา
พระธาตุลำปางหลวง
ชักอยากกลับบ้านแล้วสิ วันสุดท้ายของทริปเราตื่นสายหน่อย เรามีแผนที่จะซื้อของฝากจากตลาดทุ่งเกวียนเจ้าเก่า และไปไหว้พระธาตุลำปางหลวง
หลังจากนั้นก็จรลีกลับสู่พะนครด้วยความมีสวัสดิภาพ
น้องเอได้สรุปค่าใช้จ่ายไว้ ตกลงจ่ายคนละ 5,000 บาท จ่ายค่าเช่ารถ 7,500.-และ- ค่าน้ำมันตลอดทริป 8,300.-เหลือจากนั้นเป็นค่ากินค่าอยู่
ขอบคุณรูปสวยๆ จากหลายๆ กล้องนะคะ
สวยและน่าประทับใจมากค่ะคุณพี่ แต่น้อยใจนักนะรักนี้ไม่มีใครชวน ขอสมัครร่วมแก๊งด้วยคนได้มั้ยคะ
ฝากบอกน้องอ้อมและเพื่อนแอ๊วด้วยนะคะว่าไปเที่ยวไม่ยอมชวน พูดแล้วน้อยใจจัง แต่ภาพสวยและเป็นทริปที่น่าสนุกมากค่ะ
คราวหน้าขอไปด้วยคนนะคะ จากคนสุรินทร์ผู้ยากไร้
คนสุรินทร์ผู้ยากไร้...คือ เอ แน่นอน
คงมีคนเดียวที่อยากวิ่งตาม...หลายๆ คนออกแนวกลัว
เพราะแก๊งค์นี้...สุดยอด
เสียดายเ่ช่นกันที่ไม่ได้ชวน
ไว้โอกาสต่อไปนะ ต๊ะคนชวนไว้ดีๆ พี่ไม่มีเบอร์เอจ้า
รูปปลากรอบสวยมากป้า เล่าซะจนคนมาอ่านอยากตามรอยทีเดียวเชียวแหละ (หนูล่ะงึดคารมป้าฮ้าย)