Sakura + Koyo Trips 2010: นาโงย่า สวนนอริตาเกะ Noritake Garden


ที่จริงแม้ นาโงย่า จะเป็นเมืองที่มีอะไรน่าสนใจให้ชมหลายอย่างแต่เราก็ไม่ได้ตั้งใจจะมาเมืองนี้เพื่อเที่ยวชม แต่ต้องมาเพื่อเปลี่ยนรถไฟเป็นขบวนที่จะพากันขึ้นไปภูมิภาคชูบุ จะไปเมืองทาคายาม่า ที่สวยงามเลื่องลือ

ข้อมูลบอกว่า นาโงย่า นั้นตั้งอยู่กึ่งกลางพอดีระหว่าง โตเกียว และ เกียวโต ในอดีตจึงเป็นหัวเมืองสำคัญ สมัยท่านโชกุน โตกุกาว่า อิเอยะสุ (ที่เราได้ไปคารวะที่ฝังศพท่านที่ นิกโก้ เมื่อมาชมใบไม้แดงเมื่อสองปีก่อน) จึงได้พัฒนาเมืองนาโงย่าให้เป็นศูนย์กลางการปกครองอีกแห่ง

ได้มีการสร้าง ปราสาทนาโงย่า ให้เป็นฐานบัญชาการ ซึ่งเป็นจุดหมายหลักแห่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวมักไปชมเมื่อมา นาโงย่า

 

 

http://www.japan-guide.com/e/e2155.html

นาโงย่ามีอะไรน่าชมบ้าง เช็คได้ที่ลิงค์ข้างบนเช่นกันค่ะ

ในยุคปัจจุบัน นาโงย่า ก็ยังมีความสำคัญ ก็เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของญี่ปุ่น เป็นศูนย์กลางด้านคมนาคม ขนส่ง เป็นชุมทางรถไฟ มีสนามบินนานาชาติ จากเมืองไทยจะบินมาลงนาโงย่า เลยก็ได้ค่ะ และต่อเที่ยวบินในประเทศไปไหนๆได้ทั่วญี่ปุ่น เขามีสนามบินชื่อ Centrair ที่สร้างจากการถมทะเล เพื่อนผู้เขียนบอกว่าคล้ายๆสนามบินคันไซที่ โอซาก้า ทันสมัยแต่เล็กๆ

มองจากสถานีรถไฟก็เห็นห้างนี้เลยค่ะ

รถยนต์โตโยต้า ก็มีกำเนิดมาจากเมืองนี้ ใครมีเวลามากหน่อยสามารถไปทัวร์โรงงานและชมพิพิธภัณฑ์ของบริษัทได้ ปัจจุบันสำนักงานใหญ่ของ โตโยต้า ก็อยู่นอกเมืองนาโงย่า ไปนิดเดียว

ป้าๆมีเวลาจำกัดเพียงไม่ถึงสองชั่วโมงรอรถไฟไป ทาคายาม่า จึงสนใจจะไปชมสิ่งขึ้นชื่อของ นาโงย่า ที่คนไทยคุ้นเคยมาก คือ เครื่องถ้วยชามกระเบื้องดินเผา หรือ พอร์ซเลน ยี่ห้อ นอริตาเกะ ซึ่งอยู่ใกล้ๆ สถานีรถไฟนาโงย่า เขาทำ Noritake Gardenไว้ต้อนรับผู้สนใจ เข้าชมฟรี ไม่ได้มีแค่ถ้วยชามให้ชม แนะนำให้แวะกัน คุ้มค่าเวลาค่ะ

นั่งแท็กซี่แพล็บเดียวก็ถึง Noritake Garden (หากเดินราวสิบห้าถึงยี่สิบนาที) หรือมีเวลาก็นั่งรถเมล์ แต่ไปกันสี่คนนั่งแท็กซี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดค่ะ

 

 บริษัทนอริตาเกะ นั้นที่จริงเป็นบริษัทชั้นนำด้านอุตสาหกรรมเซรามิคมากว่าหนึ่งร้อยปี  ไม่ใช่แค่เรื่องถ้วยชาม แต่เป็นการใช้วัสดุเซรามิคชั้นสูงในผลิตภัณฑ์นานาชนิด เช่น เครื่องกรองน้ำ ส่วนประกอบเครื่องจักร เครื่องกล เครื่องใช้อิเลคทรอนิกส์ ไปจนถึง ยานอวกาศ

ผ่านประตูเข้าไปก็มองเห็น ต้นซากุระ สองต้น ต้นใหญ่มากอยู่คนละมุม เป็นฤดูซากุระบานพอดี บานสะพรั่งสว่างไสว อีกทั้งมีดอกไม้สีสันสวยงามในทุกทิศที่หันไป สมกับคำว่า สวน ที่เขาใช้

 

ภายในบริเวณมีอาคารหลายอาคาร เห็นอาคารที่ก่อด้วยอิฐและปล่องไฟอิฐตั้งเรียงในที่โล่ง ทำให้รู้สึกแปลกตาที่เห็นสิ่งก่อสร้างเป็นอิฐดูเก่าๆคลาสสิค อยู่ท่ามกลางความสมัยใหม่ของอาคารอื่นๆ อ่านประวัติจึงสรุปได้ว่า ที่เห็นเป็นอาคารโรงงานเมื่อครั้งตั้งใหม่ๆ เป็นมรดกจากยุคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นที่เพิ่งเปิดรับชาติตะวันตกหรือเปิดประตูสู่โลกภายนอกหลังจากปิดประเทศมายาวนาน

http://www.japan-guide.com/e/e3309.html

ปลายสมัยเอโดะ ญี่ปุ่นนำเข้าอิฐจากต่างประเทศ จากนั้นในสมัยเมจิจึงเริ่มผลิตอิฐใช้เองนำมาสร้างอาคารต่างๆ จัดว่าเป็นสัญลักษณ์ของการเป็นตะวันตก (Westernization)

 

 

การชม สวนนอริตาเกะ น่าจะเริ่มที่ Welcome Center และ

CELABO Showroom  CELABO นั้นเป็นห้องแสดงนิทรรศการให้ความรู้ ความเข้าใจในเทคโนโลยีเซรามิค ทำได้ดีทีเดียว

จากนั้นจะชม Noritake Gallery, Craft Center Museum แล้วค่อยไปที่อาคาร Palette ซึ่งเป็น Outlet Shop ของนอริตาเกะ เห็นถ้วยกาแฟ ชุดน้ำชา เครื่องครัวมากมาย แล้วอยากซื้อจังค่ะ ถูกกว่าที่เมืองไทยมาก แต่คิดแล้วว่าไม่มีปัญญาหอบ ต้องไปอีกหลายที่ ชมแล้วเก็บไว้ในความทรงจำก็พอ ออกจากอาคารไปชมสวน ชมดอกซากุระดีกว่า หากหิวเขามีร้านกาแฟ ภัตตาคาร น่านั่ง ไปใช้บริการได้ตามสะดวก

ชมทั้งภายในอาคาร นอกอาคาร ซื้อของที่ระลึกเล็กๆน้อยๆที่ไม่แตก แล้วเราก็กลับไปสถานีรถไฟเพื่อจับรถไฟ JR Hida Wideview เป็นรถที่มีหน้าต่างกว้างให้เห็นวิวงดงามที่รถไฟพาลัดเลาะไปตามที่ราบ เชิงเขา ลำธาร แม่น้ำ สวยงามมาก

ตอนหน้าจะพาไปนั่งรถไฟขบวน Hida Wideview ชมวิวแล้วไปยังเมือง ทาคายาม่า กันค่ะ

 

 

หมายเลขบันทึก: 412246เขียนเมื่อ 6 ธันวาคม 2010 15:51 น. ()แก้ไขเมื่อ 13 มิถุนายน 2012 21:03 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (24)

สวัสดี ครับ

เป็นความสุขที่คุณ คุณนายดอกเตอร์ได้สัมผัส และเผื่อแผ่ถึง คนในชุมชนแห่งนี้ด้วย

อ่านจบและอิ่มเอมในอารมณ์มากเลย ครับ

...

ขอบพระคุณมากนะครับ

ว้าว ๆๆๆ ... ได้ยินชื่อ "นาโงย่า" มานาน เพิ่งเห็นว่า หน้าตาเป็นนี้นี่เอง ;)...

ความชาตินิยมของญี่ปุ่น ทำให้สามารถอนุรักษ์อะไร ๆ ที่เป็นวัฒนธรรมดั้งเดิม ผสมผสาน กับ วัฒนธรรมใหม่ ได้อย่างลงตัว

ขอบคุณครับอาจารย์ ;)...

ตามพี่นุชมานั่งเจอาร์ท่อง นาโงย่า ชอบๆ จังค่ะ .. ความสงบ สวยงามท่ามกลางชุมชนอุตสาหกรรม

ขอบคุณค่ะคุณแสงแห่งความดี ได้ไปเที่ยวเห็นอะไรงามๆเป็นความสุขส่วนตัว ซึ่งจะสุขยิ่งขึ้นหากมีคนแบ่งปัน ตอนที่เที่ยวก็มักจะนึกอยู่เสมอค่ะว่าจะเก็บภาพนี้ ภาพนั้นจะเอาลงบล็อกฝากแฟนๆที่ชอบการเที่ยวญี่ปุ่นเหมือนๆกัน

มาชมซากุระแล้วได้ชมใบไม้แดงคู่กันไปเลยนะคะคุณแก้วแก้ว..อุบล จ๋วงพานิช ประหยัดเวลาเดินทาง ^_______^

  • พี่นุชเจ้า..

เห็นบันทึกนี้ในหน้าแรกของ G2K ก็รีบวิ่งถลาเข้ามาปั๊บ!  กลัวพลาดค่ะ อิอิ  ^^  เหมือนไม่ได้เจอพี่นุชมานาน   แสนคิดถึง..ล้านคิดถึง..

สุขใจกับซากุระที่บานสะพรั่ง และยังมีดอกไม้มากมาย  พร้อมกับเรื่องเล่าการเดินทางจากพี่นุช   ขอบพระคุณค่ะ ^^

สวัสดีค่ะ

ชมความงามของต่างบ้านต่างเมือง  ทุกแห่งให้ความสำคัญกับธรรมชาติทั้งนั้นนะคะ

มาชวนไปชมความงามที่บ้านนอกค่ะ

๖๖๙.แก่งงามธรรมชาติของห้วยกอก    
๖๖๘.ธรรมชาติงาม คนน้ำใจดี

      ชุมชนและจิตสาธารณะ

ว้าวๆๆ ได้เจอคนที่รู้สึกเหมือนกันเลยค่ะอาจารย์Wasawat Deemarn พี่ก็เคยได้ยินชื่อ นาโงย่า และ ฮาโกเน่ มานาน พอได้ไปเห็นรู้สึกตื่นเต้นดีค่ะ

คนญี่ปุ่นน่าทึ่งที่เขาพยายามรักษาวัฒนธรรมของตนไว้ด้วยความรักและเคารพในสิ่งที่ตนสืบทอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรักและเคารพในธรรมชาติ ที่เขาแสดงออกอย่างละเมียดละไม พอบทเขาจะสมัยใหม่ไฮเทคก็ทำได้อย่างดี โดดเด่น เป็นตัวของตัวเอง เพราะการที่เป็นคนเข้าใจผืนดิน ชีวิตและรากของตัวเองนั่นเองค่ะ การพัฒนาอย่างลืมรากตัวเองนั้นจะไปอย่างสะเปะสะปะ ไร้เสน่ห์

ขอบคุณที่ตามอ่านค่ะ ตอนต่อๆไปยิ่งเข้มข้นค่ะ อิ อิ หลอกให้ติดตาม

น้องปูจ๋าpoo ตามมาติดๆเลยค่ะ มีเมืองน่าประทับใจให้ชมอีกหลายเมืองค่ะ

ขอบคุณค่ะคุณต้อมเนปาลี แสนคิดถึง ล้านคิดถึงอย่างนี้จึงต้องไม่ให้ผิดหวังที่พี่หายไปนานๆ พบเห็นอะไรสวยๆงามๆ เรื่องสนุกๆ ก็คิดในใจเสมอว่าต้องเอามาแบ่งปันให้ชาวบล็อกแห่งนี้ได้ร่วมสุขด้วยค่ะ

การเดินทางเองอย่างนี้ได้ประสบการณ์มากมายทุกด้านค่ะ ความประทับใจในน้ำใจและความสุภาพของคนญี่ปุ่นทำให้การท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆมีความน่าจดจำยิ่งขึ้นค่ะ

ขอบคุณค่ะคุณครูคิมยายคิม ในที่ที่คนยังให้ความสำคัญมีความรัก ความเคารพในธรรมชาติ เราจะพบผู้คนที่สุภาพ อ่อนน้อม พร้อมแบ่งปัน ในหลายๆที่ในบ้านเมืองของเราก็ยังเป็นเช่นนี้อยู่ เพียงแต่การเดินทางอาจไม่สะดวกเท่านั้นเองนะคะ คุณครูคิมได้มีโอกาสไปสัมผัสธรรมชาติและผู้คนจิตใจงามในบ้านเรานับว่าเป็นโชคดี จะตามไปชื่นชมค่ะ

สวัสดี ครับ ต้นกล้าเข้ามาแลกเปลี่ยน เรียนรู้ครับ

ไม่รู้ว่าว่าเกิดอะไรขึ้นข้างบนครับ

ญี่ปุ่นเป็นประเทศอุตสาหกรรม และการเกษตรที่ก้าวหน้า ส่วนหนึ่งก็คือการพัฒนามาจาก ความมีระเบียบวินัย ของคนในชาติ เริ่มกันตั้งแต่เด็ก ในเเปลงนา

ลองสังเกต สองข้างทาง ก็จะเห็น เเปลงนาดำ สุดลูกหูลูกตา ครับ

http://gotoknow.org/blog/supersup300/404332

ขอบคุณครับ

สวัสดีค่ะคุณต้นกล้า ยินดีค่ะที่เข้ามาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ซึ่งจะทำให้บันทึกพี่มีสาระและมุมมองที่เป็นประโยชน์ต่อผู้มาแวะอ่าน

เดี๋ยวพี่จะขออนุญาตลบความเห็นที่ส่งมาอันแรกที่มีความเพี้ยนทางเทคนิคนะคะ

สิ่งที่พี่ชื่นชมคนญี่ปุ่นก็คือเรื่องของความมีระเบียบวินัยและความสำนึกที่จะส่งต่อวัฒนธรรมและปลูกฝังคนรุ่นต่อๆไปให้เป็นกำลังของชาติค่ะ พี่นั่งรถไฟชอบดูแปลงเกษตรของเขา มีให้เห็นแค่ออกไปนอกเมืองนิดเดียว คนของเขารักธรรมชาติและทำเกษตร(และงานใดๆก็ตามที่เขาต้องทำ)ด้วยหัวใจรักที่จะทำให้ดีที่สุด

พี่ได้ดูสารคดีเอ็นเอชเคไม่นานนี้เองพูดเรื่องการบ่มเพาะบุคลิกภาพแก่เด็กด้วยการให้ลงมือทำการเกษตร ไม่ใช่เป็นการทำตามกระแสแฟชั่น ตอนนี้ข่าวบอกว่าคนหนุ่มสาวญี่ปุ่น
กำลังฮิตการช่วยกันปลูกผักบนดาดฟ้าออฟฟิศ สื่อก็ช่วยกันโปรโมทเทรนด์นี้กันใหญ่ค่ะ นอกจากนั้นคนวัยทำงานและแม่บ้านต่างสนใจทำเกษตรโดยไปเช่าที่เป็นแปลงไม่ใหญ่เพื่อปลูกผักอินทรีย์ เขาเรียกพวกนี้ว่า เกษตรกรสมัครเล่น amateur farmer แต่ไม่ได้ทำเล่นๆ เขาไปสำรวจพบว่าจำนวนผู้เป็นเกษตรกรสมัครเล่นนี้มีจำนวนเกือบจะเท่ากับเกษตรกรอาชีพ รัฐบาลดีใจใหญ่ว่านี่จะทำให้พื้นที่เกษตรที่ถูกทอดทิ้งได้ถูกนำกลับมาใช้ใหม่ ญี่ปุ่นเขามีพื้นที่ทำเกษตรได้ไม่มากนัก สิ่งนี้จึงอาจเป็นเรื่องสำคัญนะคะ

ที่พี่ชอบมากคือเขาไปสำรวจความคิดเห็นของผู้เป็นเกษตรกรสมัครเล่น ทั้งที่ทำนิดหน่อยและทำแบบทั้งกินทั้งขายตามตลาดนัดว่ารู้สึกอย่างไร คนหนึ่งตอบว่า ทีแรกเธอคิดปลูกผักเพื่อเป็นการประหยัด ไม่ต้องซื้อ แต่ทำๆไปที่คิดนี้กลับไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เธอพบคุณค่าว่าการปลูกผักอินทรีย์นี้ทำให้มีความเห็นใจเกษตรกรที่ปลูกผักขาย และเธอมักเลือกที่จะซื้อผักจากเกษตกรในท้องถิ่น(เมื่อก่อนซื้อไม่คิดอะไร) และเวลาเลือกซื้อผักก็ไม่รังเกียจผักที่มีรูจากหนอนกัดกิน

รัฐบาลก็ตื่นตัวกับเทรนด์นี้โดยแก้กฏหมายการเช่าที่ดินให้เหมาะสมอย่างรวดเร็ว

นี่เป็นแรงบันดาลใจอีกประการบวกกับที่เห็นคุณพี่ใหญ่และอาจารย์ขจิตเป็นผู้นำขบวนเรื่องปลูกผักเอง พี่กำลังคิดจะทำเรื่องการปลูกผักด้วยตนเองค่ะจากที่เคยเป็นแค่ผู้สั่งการคนสวนค่ะ ^_____^ 

ภาพนี้คือนาข้าวและแปลงผักริมทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น คือ ทะเลสาบบิวา เห็นเขาใช้พื้นที่ที่มีอยู่อย่างคุ้มค่านึกถึงบาหลีเหมือนกันค่ะ

 

พี่นุชสุดสวาทบาดใจจ๋า เป็นไงบ้างคะพี่ ยังวุ่นวี้กับการจัดบ้านใหม่ เหนื่อยไหมคะ มาส่งกำลังใจด้วยความคิดถึงค่ะ

อ่านแล้วอยากไปเที่ยวญี่ปุ่นบ้าง แต่ ณ วันนี้ มุ่งทำงานๆๆๆด้านการศึกษา ดีนะที่มีบล็อกดีๆอย่างนี้ให้อ่าน ขอบคุณ " คุณนายดอกเตอร์ " ที่ร่วมแบ่งปันสิ่งที่เห็นและเป็นไปในโลกใบนี้ ญี่ปุ่นก็คือญี่ปุ่น ไทยก็คือไทยครับ ครับ

ขอขอบคุณมิตรภาพและบันทึกดีๆที่ได้รับมาตลอดปีนี้ และขอส่งความสุขสำหรับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงค่ะ..

(บัตรอวยพร ดอกม่วงเทพรัตน์ ของมูลนิธิรามาธิบดีฯ ) คลิ๊กที่:

http://gotoknow.org/blog/nongnarts3/348844

  • สวัสดีค่ะ
  • สวัสดีปีใหม่ ๒๕๕๔ ขอให้ คุณนายดอกเตอร์  มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรง  สุข สดชื่น สมหวัง ดั่งใจปอง ตลอดปี และตลอดไปนะคะ" 
  • ขอบคุณค่ะ

                                      

หายไปเป็นอาทิตย์ๆแล้วก็โผล่มาอีกที อีกแล้วค่ะ ปีนี้เป็นปีที่อยู่นิ่งๆได้ไม่นานค่ะ

ที่หายไปก็ไปพบ ไปเห็น ไปมีส่วนในเรื่องน่าสนใจอยากนำมาเล่า เลยต้องตั้งสติว่าจะต้องทำอะไรก่อนหลัง

วันนี้เพิ่งจะได้อยู่บ้านแบบปกติ คือ ได้ดื่มกาแฟเช้ากับธรรมชาติแบบบ้านตัวเอง มีความสุขจังค่ะ เลยต้องรีบมาตอบผู้มาเยี่ยม ขออภัยที่ให้รอนะคะ

 

น้องปูจ๋าpoo บ้านพี่ยังต้องทำอีกยาวเป็นเดือนๆ แต่ก็มีความสุขค่ะ เพราะจินตนาการได้ว่าจะทำให้เราอยู่สบาย ปลอดภัย ไร้กังวลกับเรื่องน้ำท่วม ขอบคุณที่มาให้กำลังใจเสมอค่ะ

 

 

ขอบคุณคุณศน.เฉลิมชัย ค่ะที่มาอ่าน มาร่วมแบ่งปันความสุข เห็นด้วยค่ะที่ญี่ปุ่นก็คือ ญี่ปุ่น ไทยก็คือไทย บริบทที่ต่างกันย่อมหล่อหลอมและหยั่งรากให้คน คิดและทำสิ่งต่างๆที่เหมาะกับตนเอง ที่ชื่นชมญี่ปุ่นคือ เขารู้จักรากและให้คุณค่ากับภูมิวัฒนธรรมของตนเองอย่างยิ่ง แต่ที่น่าคิดก็คือ วิถีปัจจุบันทำให้คนญี่ปุ่นฆ่าตัวตายกันมาก สถิติที่สูงมากอย่างน่าตกใจทำให้กลายเป็นวาระแห่งชาติที่เขาต้องเร่งดำเนินการแก้ไขด่วนค่ะ เราคงไม่อยากพัฒนาให้สังคมไทยก๊อปปี้ญี่ปุ่นแล้วมีปัญหาอย่างเขานะคะ

ขออวยพรให้มีกำลังใจและพลังในการทำงานยิ่งๆขึ้นไปค่ะ ถึงเวลาที่จะได้พัก ได้เที่ยวก็จะเป็นไปเองค่ะ ผู้เขียนกว่าจะลุกขึ้นมาเที่ยวอย่างนี้ก็วัยเลยห้าสิบค่ะ ^____^

ขอบพระคุณค่ะคุณพี่ใหญ่นาง นงนาท สนธิสุวรรณ ขอน้อมรับความสุขที่ส่งมาไว้เต็มที่เลยค่ะ เป็นความสุขใจที่ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้และอยู่ท่ามกลางผู้มีจิตงามค่ะ

ดอกม่วงเทพรัตน์ นี่เพิ่งเคยเห็น เป็นดอกไม้ที่สีสวยดอกน่ารักมากนะคะ เดี๋ยวนุชจะตามไปชมภาพเต็มๆที่บล็อกคุณพี่ค่ะ

ขอบคุณสำหรับคำอวยพรที่มามอบให้นะคะคุณบุษรา ขอให้คุณได้รับพรนั้นเช่นกันค่ะ

ช่างหาและทำภาพประกอบนะคะ

กราบขอบพระคุณอาจารย์เจเจค่ะ

ภาพวิวงดงามอยากตามอาจารย์ไปเที่ยวชมบ้างจังค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท