นิตยสาร 'Health (=สุขภาพ)' ตีพิมพ์เรื่อง '9 ways to stay sniffle-free' = "9 วิธีป้องกัน (อยู่ให้ไกล) หวัด-คัดจมูก (ไม่คัดจมูก), หรือ '9 ways to avoid the flu' = "9 วิธีป้องกันไข้หวัดใหญ่", ผู้เขียนขอนำมาเล่าสู่กันฟังครับ [ Health ]
.
วิธีป้องกันหวัด-ไข้หวัด-ไข้หวัดใหญ่ที่สำคัญได้แก่
.
(1). ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ (ถ้าทำได้) > วัคซีนนี้ช่วยป้องกันไข้หวัดใหญ่ แต่ไม่ป้องกันหวัด-ไข้หวัด, ส่วนใหญ่จะฉีดก่อนเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม หรือหน้าหนาว ซึ่งเป็นช่วงที่มักจะมีการระบาดสูงกว่าช่วงอื่นๆ
ความสำคัญของการป้องกันไข้หวัดใหญ่ คือ ไข้หวัดใหญ่มักจะมีไข้สูง มีโรคแทรก เช่น ปอดบวม ฯลฯ มากกว่า และมีโอกาสเสียชีวิตมากกว่าหวัด-ไข้หวัด
ก่อนและหลังฉีดวัคซีน... ควรนอนให้พอ หลีกเลี่ยงการนอนดึกและนอนไม่พอ ซึ่งอาจทำให้ประสิทธิภาพของวัคซีนต่ำลง
.
(2). กินอาหารสุขภาพ
การกินอาหารสุขภาพพอประมาณ (มากไปทำให้อ้วนได้) โดยเฉพาะโปรตีนชนิดดีจากปลา โดยเฉพาะปลาทะเลที่ไม่ผ่านการทอด (ถ้าทอด... น้ำมันปลาจะซึมออก และน้ำมันที่ใช้ทอดจะซึมเข้าไปในเนื้อปลา), ผักผลไม้ และอาหารที่มีโอเมกา-3 ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานโรค
ถ้าไม่กินปลา... อาจกินน้ำมันปลา อาหารที่มีน้ำมันถั่วเหลือง เมล็ดพืช เช่น เมล็ดแฟลกซีด (flaxseed = ปอป่าน), ฟักทอง ฯลฯ ปริมาณเล็กน้อยแทนได้
ไม่ควรลดความอ้วนหรือลดน้ำหนักเร็วเกิน 0.5 กก./สัปดาห์ ในช่วงที่มีไข้หวัดใหญ่ระบาด เนื่องจากอาจทำให้ภูมิต้านทานโรคต่ำลงได้ชั่วคราว
ร่างกายของเราจำเป็นต้องใช้สารอาหารเหล่านี้ในการสร้างเม็ดเลือดขาว และสารภูมิต้านทาน (antibody)
.
(3). ออกแรง-ออกกำลังเป็นประจำ
อ.ดร.ฟรายโฮเฟอร์ จากมหาวิทยาลัยเซาธ์ แคลิฟอร์เนีย กล่าวว่า คนที่ออกแรง-ออกกำลังแรงปานกลาง 30 นาที/วัน เกือบทุกวันเป็นหวัด (cold) น้อยลง เฉลี่ย 1 ครั้ง/ปี, ต่ำกว่าคนที่ไม่ออกกำลัง คือ 4 ครั้ง/ปี
การออกกำลังหนักไป เช่น วิ่งแข่งมาราธอน ฯลฯ อาจทำให้ภูมิต้านทานโรคลดลงชั่วคราวได้... การเลือกทางสายกลางใช้ได้ดีในเรื่องภูมิต้านทานโรค คือ (ออกกำลัง)น้อยไปมากไปมักจะไม่ดี
(4). ระวังจมูกแห้งหรือเย็น
อ.ดร.ฟรายโฮเฟอร์แนะนำว่า โพรงจมูกคนเรามีเซลล์เยื่อบุชนิดมีขน (cilia) ทำหน้าที่คล้ายคนกวาดขยะ คอยพัดโบกฝุ่นละอองและสิ่งแปลกปลอมออกไปทางด้านนอกจมูก
เซลล์นี้จะทำงานได้น้อยลงในภาวะที่อากาศแห้ง เช่น อยู่ในห้องแอร์ อากาศหนาวจัด ฯลฯ, วิธีช่วยให้จมูกชุ่มชื้นวิธีหนึ่ง คือ ดื่มน้ำให้พอ และระวังอย่าให้ลมพัดกระทบจมูกโดยตรง เช่น ไม่เปิดแอร์ให้ลมพัดโดนตัวเราโดยตรง ฯลฯ
ภาวะอากาศเย็นอาจทำให้ปลายจมูกเย็นลง และเซลล์เยื่อบุชนิดมีขนทำงานได้น้อยลง... วิธีป้องกัน คือ การสวมเสื้อผ้าให้อบอุ่นในที่ที่มีอากาศหนาวเย็น เช่น สวมหมวก ใช้ผ้าพันคอ ฯลฯ
.
(5). กินโยเกิร์ต หรือนมเปรี้ยว
การศึกษาจากเยอรมนีพบว่า คนที่กินอาหารชนิดที่มีจุลินทรีย์ชนิดดีทุกวันติดต่อกัน 3 เดือน เป็นหวัดน้อยลงเกือบ 2 วัน และอาการเบาลงด้วย
ควรเลือกโยเกิร์ต หรือนมเปรี้ยวชนิดไขมันต่ำ-น้ำตาลต่ำ และควรลดอาหารกลุ่มคาร์บ หรือ "ข้าว-แป้ง-น้ำตาล" ลง เพื่อป้องกันน้ำหนักขึ้น
.
(6). นอนให้พอ และขอนอนไม่ดึกด้วย (ถ้าเป็นไปได้)
การศึกษาในปี 2552 พบว่า คนที่นอนคืนละ 8 ชั่วโมง/คืนขึ้นไป เป็นหวัดน้อยกว่าคนที่นอนน้อยกว่า 7 ชั่วโมง/คืน 3 เท่า
.
(7). ทำความสะอาด
ควรใช้น้ำสบู่อ่อนทำความสะอาดลูกบิดประตู บานพับหรือที่จับตู้เย็น (ต้องระวังไฟดูด เช่น ต่อสายดิน สวมรองเท้ายาง ฯลฯ ก่อนเสมอ), รีโมต คอนโทรล TV, ฝักบัว, กระเป๋าสตางค์, แป้นพิมพ์-เมาส์คอมพิวเตอร์ ฯลฯ เป็นประจำ
หวัด-ไข้หวัด-ไข้หวัดใหญ่ ติดต่อได้ทางการไอ-จามประมาณ 6 ฟุต = 1.8 เมตร, ฝุ่นละอองฝอยจะกระจายไปนานประมาณ 10 วินาที หรือไกลกว่านั้น-นานกว่านั้น ถ้าอากาศระบายไม่ดี เช่น ห้องแอร์ ฯลฯ และผ่านการปนเปื้อนสารคัดหลั่ง (เสมหะ-น้ำมูก-น้ำลาย) ผ่านมือ
ช่วงที่มีโรคระบาดจึงควรหลีกเลี่ยงห้องแอร์ เช่น ไนท์คลับ ผับ บาร์ ฯลฯ
เมื่อคนที่เป็นหวัดไอ-จาม หรือสัมผัสสารคัดหลั่ง เช่น เขี่ยจมูก-สัมผัสจมูก ฯลฯ และไปจับต้องสิ่งของต่างๆ จะทำให้สิ่งของนั้นๆ เปื้อนเชื้อโรค และติดต่อไปยังคนอื่นได้
.
ที่ มา
ไม่มีความเห็น