สุขศึกษาชุมชนและการดูแลสุขภาพคนรอบข้างเมื่อน้ำลด
ความคาดไม่ถึงทำให้ความเจ็บไข้ที่รักษาได้ไม่ยาก ทำอันตรายเกือบถึงแก่ชีวิต
น้ำท่วมอย่างนี้ ในอดีตนั้นเป็นเรื่องปรกติธรรมดามาก ทว่า ปัจจุบันนี้ ก็อาจจะต้องเป็นสถานการณ์และเงื่อนไขชีวิตที่จำเป็นต้องเรียนรู้บางแง่มุมใหม่ๆอยู่บ้างเหมือนกัน เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมมีอันต้องได้ไปยี่ยมเพื่อนรุ่นน้องคนหนึ่งซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ค่อนข้างอาวุโสแล้วของมหาวิทยาลัยมหิดล เขาต้องเข้าห้อง ICU และเพิ่งผ่านพ้นขั้นวิกฤติ เปลี่ยนมาอยู่ภายใต้การเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดจากแพทย์ ขณะที่ผมไปเยี่ยมนั้น เขาอยู่ในสภาพที่หมอห้ามลงจากเตียง ห้ามแปรงฟัน ห้ามเคลื่อนไหวที่อาจเป็นอันตราย ลื่นล้มและกระทบกับวัตถุ
สาเหตุเกิดจากเป็นไข้เลือดออก...!!!!! เกล็ดเลือดลดฮวบฮาบเหลืออยู่นิดเดียว หากไม่ถึงมือหมอหรือไปเกิดอุบัติเหตุเปิดแผลให้เลือดออกได้เพียงนิดเท่านั้น ก็จะต้องเจอกับอาการเลือดไหลไม่หยุดเพราะเกร็ดเลือดไม่พอทำให้เลือดแข็งตัวและหยุดไหลได้ หากไม่เสียชีวิตก็ต้องเจอกับอาการโคม่าและเจ็บป่วยสาหัสแน่นอน แต่เขาเกิดความสังหรณ์ใจและขอให้หมอเจาะเลือดมาตรวจจนค้นพบสาเหตุเสียก่อน เลยรอดไปหวุดหวิดเพราะทั้งเขาเองและหมอก็คาดไม่ถึงว่าจะเป็นไข้เลือดออก
ความคาดไม่ถึงทำให้ความก้าวหน้าและความพร้อมทุกด้านหมดความหมาย
ก่อนหน้านี้ไม่กี่ปี นายกเทศมนตรีของเทศบาลตำบลศาลายา ซึ่งผมพอจะรู้จักคุ้นเคยพอสมควรและเป็นที่รักของคนท้องถิ่นทุกกลุ่ม วันหนึ่งท่านไปทำบุญและรับส่งพระผู้ใหญ่ที่จังหวัดกาญจนบุรี กลับถึงบ้านก็เป็นไข้ปวดหัว ก็เลยไปหาหมอที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ อาการไข้กำเริบมากขึ้น หมอก็พยายามรักษาตามอาการและตรวจด้วยเทคโลยีอย่างทันสมัยครอบจักรวาลไปทุกอย่างแต่มองข้ามโรคจากสิ่งแวดล้อมพื้นๆอย่างมาลาเรีย เพราะก่อนหน้านี้ประเทศไทยและคนรุ่นใหม่ ซึ่งรวมทั้งแพทย์และบุคลากรสุขภาพของบ้านเราต่างก็เชื่อว่าประเทศไทยสามารถควบคุมและจำกัดการระบาดของมาลาเรียและไข้เลือดออกไปได้แล้ว จึงชะล่าใจและลืมหยิบยกขึ้นมาตั้งข้อสันนิษฐานเพื่อหาสมุฏฐานของโรค
ผลก็คือ หลังจากนั้นไม่กี่วัน นายกเทศมนตรีท่านดังกล่าวของอำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับเมืองหลวงของประเทศ มีความเจริญก้าวหน้าทางด้านการแพทย์และสาธารณสุขอย่างที่สุดของประเทศ ก็กลับต้องมาเสียชีวิตอย่างคาดไม่ถึงด้วยไข้มาลาเรีย ซึ่งเป็นโรคบ่งชี้ความล้าหลังของสิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศวิทยาสุขภาพชุมชน และการจัดการทางด้านสุขภาพ หลายอย่าง
สังคมและสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนไปมากจนเรื่องเล็กน้อยอาจกลายเป็นวิกฤติใหญ่โต
นอกจากนี้ เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ในหน้าฝนและมีน้ำเจิ่งนองอย่างนี้ แม่ผมได้เดินไปดูแลผลหมากรากไม้อยู่ในบริเวณบ้าน ซึ่งก็เป็นปรกติของชาวบ้านเช่นกันที่มักอยู่เฉยไม่ได้ ยิ่งเจอฝนก็มักจะต้องออกไปดูแลต้นไม้ต้นไร่เหมือนออกไปดูแลอาหารการกินและความเป็นอยู่ของลูกหลานเลยทีเดียว ระหว่างที่เดินไปบนดินโคลนด้วยเท้าเปล่านั้น ช่วงหนึ่งแม่ก็เดินไปเหยียบหนาม คมหนามสะกิดและเกิดแผลนิดเดียว นิดเดียวจนแม่ไม่ต้องมองเพราะก็เป็นเรื่องเล็กน้อยมากของชาวบ้านซึ่งอยู่กับดินกับน้ำมาตลอดชีวิต แต่หลังจากนั้นสองสามวัน ขาแม่ผมก็กลับบวมแดงและปวดแสบปวดร้อนอย่างรุนแรง อีกทั้งไข้ขึ้นจนเหมือนกับเจ็บปวดอย่างสาหัส ทำให้ต้องไปหาหมอ ซึ่งก็ต้องตามมาด้วยฉีดยาป้องกันบาดทะยัก ให้ยาแก้ปวดควบคุมอาการ และต้องนอนให้หมอรักษาตัวอยู่ครู่หนึ่ง
ต่อมา ก็เจอยิ่งกว่านี้อีก ผมเล่าสิ่งที่เจอกับแม่ตนเองอย่างนี้ให้เพื่อนร่วมงานซึ่งเป็นคนอีสานฟัง เขาก็บอกว่ามีญาติกำลังเจ็บป่วยสาหัสด้วยสาเหตุคล้ายกันแล้วก็ต้องนำมารักษาต่อที่กรุงเทพฯ เพราะก่อนหน้านั้น ได้มีญาติที่ชนบทภาคอีสานที่เป็นอย่างเดียวกันคือเริ่มจากโดนหนามและของแหลมทิ่มตำเพียงเล็กน้อยแล้วก็กลายเป็นล้มเจ็บจนถึงแก่ชีวิตไปแล้วถึง ๒ คน เมื่อแรกโดนหนามและของแหลมทิ่มตำแล้วก็รักษาแผลอย่างทั่วๆไป แต่หลังจากนั้นแผลก็บวม ปวดแสบปวดร้อน กระทั่งบวมทั้งตัว ต่อมาก็กลายเป็นบวมและหนังลอกทังตัวเหมือนดักแด้ ต้องรักษาวันละเป็นแสนๆ แต่ที่สุดก็เสียชีวิต คราวนี้เลยต้องรีบพาไปกรุงเทพฯและรักษาเต็มที่อย่างไม่ประมาทอีกแล้ว
ตั้งตนบนความไม่ประมาทด้วยการป้องกันและดูแลสุขภาพที่ดีให้ตนเอง
สิ่งที่กำลังจะบอกผ่านการยกตัวอย่างรอบตัวมาเป็นอุทาหรณ์นี้ก็คือในขณะที่น้ำท่วมหนองบัวและอีกหลายแห่งของประเทศนี้ อยากบอกกล่าวกันให้มองไปข้างหน้าถึงเมื่อตอนน้ำลดและเริ่มงวดลง เพื่อให้ดูแลสุขภาพตนเองในสภาพแวดล้อมและเงื่อนไขจำเพาะนี้ คือ
- โรคที่มามักจะมากับยุง แมลง และพาหะนำโรคที่มากับน้ำท่วม โดยเฉพาะไข้เลือดออก มาลาเรีย โรคฉี่หนู
- โรคภัยจากมลพิษและสิ่งปนเปื้อนในน้ำ ซึ่งเมื่อน้ำงวดลงก็จะเข้มข้นมากกว่าปรกติ สามารถเข้าสู่ร่างกายและทำอันตรายได้ทั้งต่อสุขภาพและชีวิต
สิ่งเล็กน้อยเหล่านี้ แต่กับสำหรับสภาพการณ์ ณ เวลานี้ ก็อาจจะกลายเป็นเคราะห์ซ้ำกรรมซัดขึ้นมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ ป้องกันและดูแลตนเองไว้ก่อนก็จะดีนะครับ
หลานๆน้องๆและชาวบ้านแถวบ้านผมที่หนองบัวเล่าให้ฟังว่าน้ำท่วมปีนี้ปลาที่มากับน้ำเยอะมาก แต่เป็นปลาตัวเล็กๆจำพวกปลาแขยงและลูกปลากด การเจอปลาพวกนี้เยอะๆและขาดความหลากหลายจากปลาอื่นๆโดยเฉพาะปลาซิว ปลาที่กินผักหญ้า ไส้เดือนและสิ่งที่ลอยมากับน้ำระดับผิวหน้าจำพวกปลาขาว ปลาหมอ เหล่านี้ เป็นสัญญาณบ่งชี้หลายอย่างครับ
ประการแรก บ่งบอกว่า ในน้ำที่หลากมานี้ไม่มีสัตว์เล็กๆและผักหญ้าอุดมสมบูรณ์พอที่จะเป็นอาหารให้ปลาชนิดอื่นๆเจริญเติบโตอย่างหลากหลายมากับน้ำ ขณะเดียวกัน พวกปลาแขยงและลูกปลากดนั้น ก็เป็นปลาจำพวกหากินหน้าดินในน้ำค่อนข้างลึก ทั้งสององค์ประกอบนี้พอจะบอกได้อย่างหนึ่งว่า น้ำที่หลากมาส่วนใหญ่นี้มีบางสิ่งที่พืชและสัตว์เล็กๆที่พอจะเป็นอาหารปลา ไม่สามารถก่อเกิดและอยู่รอดได้ดีนัก หากเป็นสิ่งปนเปื้อนและมลพิษ เมื่อน้ำลดและงวดลง ก็ยิ่งมีความเข้มข้นและไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ
เป็นนักสร้างสรรค์สุขภาวะชุมชนและเอื้อต่อความมีสุขภาพดี ด้วยตัวเราเอง
ดังนั้น จึงควรระมัดระวัง ป้องกันตนเอง และดูแลรักษาตนเองตลอดจนคนรอบข้างไว้บ้างก็จะดีนะครับ หากบ้านไม่มีมุ้งลวดก็ควรนอนกางมุ้ง คว่ำภาชนะและขจัดแหล่งน้ำขังอันเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง เมื่อมีไข้ก็หมั่นสังเกตอาการตนเอง หากโดนหนามและเกิดบาดแผลจากของมีคม รวมทั้งได้ย่ำน้ำด้วย ก็ควรล้างด้วยสบู่และทำให้ส่วนนั้นของร่างกายได้รับการชะล้างด้ายน้ำกับสบู่ให้มากที่สุด
ไม่ควรทายาหม่องเพื่อปิดปากแผลก่อน เพราะยาหม่องจะกลายเป็นตัวทำให้บาดแผลเป็นที่เก็บสิ่งที่เป็นพิษให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายได้มากเข้าไปอีก.
ความเห็น (16)
*ขอบคุณค่ะ..เป็นคำเตือนที่ควรได้รับความใส่ใจอย่างยิ่ง..พี่ขออนุญาตนำไปเผยแพร่ต่อนะคะ..
* สิ่งของที่นำไปช่วยเหลือกัน สมควรมีเวชภัณท์ที่ช่วยเยียวยาโรคภัยจากน้ำท่วมเบื้องต้นไว้ด้วย
- ต้องดูแลตนเอง
- รักษาสุขภาพให้ดี บางเรื่องชาวบ้านคิดว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย เช่นหนามตำ แต่กลายเป็นเรื่องใหญ่
- ขอให้น้ำลดไวๆๆนะครับ
- น้ำหลากปีนี้ผมไปดักปลามาโดยใช้ตะคัด(บ้านอาจารย์เรียกว่าอะไรครับ)
- เอามาฝากอาจารย์ด้วย
- ปีนี้ปลาdoctor เอ้ยปลาหมอ และปลาแขยงชุมมาก
- ปลากดได้น้อยครับ
- แต่ที่แย่เจอปลา sucker ไม่รู้มาได้ไง
สวัสดีครับอาขารย์วิรัตน์
เป็นข้อเเนะนำที่ดีมากครับ การให้สุขศึกษากัชาวบ้านเป็นการแก้ปัญหาเเต่ต้นเหตุครับ จะได้รู้วิธีการดูเเลสุขภาพตัวเอง เเต่อาจารย์ขจิตก็เป็นการพลิกวิกริตให้เป็นโอกาสเลย ด้วยการหาปลาขายเเบบชิวๆ อิอิ เห็นปลากดเเล้วน่าเอามาต้มเเบบพื้นบ้าน ต้มส้มมดแดง อร่อยมากกก พูดมาเเล้วน้ำลายส่อ คุรหลวงเคยไปบรรยายที่อำเภออากาศอำนวย ใก้ลเเม่น้ำสงคราม อาจารย์ สุรศักดิ์ นาอุดม เป็นกู๊ก ทำเมนูนี้มาให้ทานกัน อร่อยเเบบสุดยอดไปเลยครับ
สวัสดีครับพี่นงนาทครับ
- ด้วยความยินดียิ่งครับ
- จริงด้วยครับ การเตรียมยาสามัญประจำล่วมยาของตนเอง เป็นหมอในบ้านให้ตนเองและญาติพี่น้อง ก็นับว่าเป็นกำลังต่อสู้อุปสรรคที่ให้ความชุ่มชื่นใจที่ดีที่สุดในยามนี้นะครับ
สวัสดีครับอาจารย์ขจิตครับ
- อาจารย์นี่สุดยอดจริงๆ ไปหามาได้อย่างไรเนี่ย ดูท่าจะชุกชุมจริงๆอย่างที่เขาว่าเลยนะครับ
- ตะคัดนี่ไม่รู้จักเลยละครับ ไม่แน่ใจว่าเคยได้ยินไหม มันเป็นพวกเครื่องสานไม้ไผ่หรือพวกตาข่ายหรือครับ
- ปลาขาวและปลาตัวเล็กๆขนาดนี้ สับทั้งกระดูกให้ละเอียดแล้วทำปลาเห็ดหรือแกงกับใบยี่หร่า หากเป็นคนหนองบัวก็แกงกับน้ำแกงพริกเกลือใส่ใบแมงลัก ข้าวร้อนๆนะอาจารย์..อย่าบอกใครเชียว
สวัสดีครับอาจารย์คุณหลวงเวชการครับ
เดี๋ยวนี้สภาพแวดล้อมทางสุขภาพเปลี่ยนไปแยะนะครับ
ความรู้จากประสบการณ์ชุมชนและความรู้ที่สืบทอดกันไว้ปากต่อปากในวิถีชีวิตของสังคมสมัยใหม่อย่างนี้ บางทีก็อาจจะช่วยขยายความตระหนักออกไปให้เทียมทันกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเร็วมากได้นะครับ หาวิธีทำสื่อและให้ข้อมูลเสริมกำลังปฏิบัติเพื่อสุขภาพกันแบบนี้ก็ทันกับเหตุกาารณ์ได้ดีเหมือนกันนะครับ
.เมื่อสิ่งแวดล้อมเปลี่ยนไปวิถีชุมชนก็เปลี่ยนไปนะคะอาจารย์ ขอบคุณที่แบ่งปันเรื่องราวดีๆนะคะ.
สวัสดีครับคุณมาตายีครับ
- กลับมาจากเกาหลีเหนือแล้วหรือยังละครับเนี่ย
- วิถีชุมชนกับสิ่งแวดล้อม เป็นส่วนหนึ่งในความเปลี่ยนแปลงของกันและกันอย่างแน่นอน
- การเรียนรู้เพื่อสร้างความสมดุลและทันกับความเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เลยก็จัดว่าเป็นความยั่งยืนของการพัฒนาตนเองได้อย่างหนึ่ง
ไม่ควรทายาหม่องเพื่อปิดปากแผลก่อน เพราะยาหม่องจะกลายเป็นตัวทำให้บาดแผลเป็นที่เก็บสิ่งที่เป็นพิษให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายได้มากเข้าไปอีก.
- ชอบใจปิดท้ายบันทึกของอาจารย์คะ เพราะเท่าที่พอจะทราบว่าแทบจะเป็นการรับรู้ของชาวบ้านที่ในระดับหนึ่งจะรู้จักยาอยู่ไม่กี่อย่าง เช่น ยาพารา ถ้าเป็นเมื่อก่อน ก็ยาทัมใจ ยาอีกชนิดนึงที่ทุกบ้านจะต้องมีก็คงหนีไม่พ้น ยาหม่อง แล้วถ้าเป็นตราลิงถือลูกท้อด้วยหล่ะก็จะ แก้มด แมลงที่มีพิษกัด ต่อยเอา หรือช่วยทำให้หายจากอาการวิงเวียนได้ชะงัดนัก ..
- มาเจออาจารย์เตือนช่วงท้าย เลยทำให้นึกถึงโฆษณาเครื่องดื่มชูกำลังที่โฆษณาสรรพคุณไปหมดแล้วว่าดีขนาดไหน แต่ก็ไม่ลืมลงท้ายโฆษณาแบบเร็วปรื่อแบบกลัวว่าใครจะฟังทัน ห้ามดื่มเกินวันละ ๒ ขวด นั่นแหละคะ ..
- คงจะขัดใจชาวบ้านที่อาจจะรู้จักแต่ ยาทัมใจ กะยาหม่องตราลิงจ๋อ ว่าแล้วฉันจะเอาอะไรทาดีหล่ะ .. แต่ภูมิปัญญาชาวบ้านก็มีโข คงจะเดินไปหาใบไม้ขยี้ๆ นิดหน่อยโปะแผลไปสักพักคร้านจะหายไม่ต้องไปหาหยูกหายาที่ไหนให้เปลืองกาตัง ..
- แต่ตอนนี้ได้แต่ภาวนาขอให้น้ำลดลงโดยเร็วและได้รับการฟื้นฟูอย่างทันทีด้วยเถอะคะ ..
- ขอเป็นกำลังใจให้ชาวหนองบัว และชาวนครสวรรค์ทุกท่านคะ ..
สวัสดีครับอาจารย์ณัฐพัชร์ครับ
- ยาหม่องนี่ คงจะเป็นยาที่ชาวบ้านทุกบ้านมีไว้ในบ้านเลยละครับ มีอะไรก็ทายาหม่องไปก่อน
- รุ่นอาจารย์นี่เป็นยาหม่องตาลิงถือลูกท้อ รุ่นก่อนนั้น...อย่างรุ่นผมนี่ก็ต้องยาหม่องตาถ้วยทองละครับ ชั้นดีหน่อย ก็ต้องเป็นยาหม่องตราเสือ ซึ่งหมายถึงกลิ่นหอมแรง ชื่นใจ ทาแล้วร้อน ดมก็แก้เป็นลม ปวดหัวเป็นไข้ก็ถูทาขมับ ปวดท้องก็ทาท้องและละลายน้ำกิน
คุณขจิต
ตอนน้ำท่วมมาก ๆ ปลาเยอะมาก เห็นแม่ตักปลาเล็กปลาน้อยได้เยอะมาก เยอะจริง ๆ เหมือนถือขันไปตักน้ำเลยได้ปลามาแทนนึกสนุกก็เลยตักปลาช่วยแม่ ได้ปลาเหมือนในรูปเลยจะมีปลาตะเพียน (เกล็ดใหญ่ตัวบน) ปลากด ปลาหมอ และอีก 2 ตัวกลาง ตัวยาว ๆ เกล็ดเล็ก ๆ ที่บ้านเรียกว่าปลาสร้อย ตอนแรกก็ไม่รู้เหมือนกันว่าปลาตัวไหนจะอร่อยตั้งใจจะทำปลาแดดเดียวอย่างเดียวแม่บอกและเลือกให้ว่า ปลาตะเพียนใส่เกลือตากแดดหรือสับให้ละเอียดแล้วแกงจะอร่อย ปลาหมอต้องย่างไฟหรือทำลาบ ปลากดต้องแกงป่า แถมฉู่ฉี่ปลาแขยงอีกตั้งหลายจาน อีกตัวคือปลาสร้อยทำอะไรก็ไม่อร่อย ก้างเยอะและเนื้อแข็งต้องทำน้ำปลาอย่างเดียว สรุปแล้วในวันนั้นได้อาหารตั้งหลายอย่าง และได้น้ำปลาปลาสร้อย 100% ไว้กินเอง (จะอร่อยหรือเปล่าไม่รู้ต้องรออีกหลายเดือนจึงจะกินได้)
โรคภัยหลังน้ำท่วมเนี่ยอันตรายมากเลยนะค่ะ ที่หาดใหญ่เองหลังน้ำลดทาโรงพยาบาลออกมาตั้งศุนย์ยาอยู่ใจกลางเมือง และให้นศ.แพทย์ ออกเดินตามบ้านประชาชนเพื่อช่วยเหลือค่ะ พร้อมทั้งแจกยาป้องกันโรคฉี่หนู
สภาพจิตใจของประชาชนก็ค่อนข้างแย่เช่นกันค่ะ เพราะว่าน้ำท่วมแต่ละครั้งก็ทำให้ทรัพย์สินเสียหายซะทุกครั้ง บางครัวเรือนต้องอาศัยอยู่บนหลังคาหลายวันเลยค่ะทั้งคนแก่ เด็กเล็ก ทั้งสภาพเศรษฐกิจและสภาพจิตใจจำเป็ฯต้องฟื้นฟูค่ะ
ถึงแม้จะมีใครบอกว่าคนเราลืมเร็ว เดี่ยวสักพักก็ลืมแล้ว แต่ความเจ็บปวดที่หลายๆครอบครัวได้รับหนูเชื่อว่าคงไม่มีวันลืมได้ค่ะ โดยเฉพาะครอบครัวบางครอบครัวที่ต้องสูญเสียคนในบ้านค่ะ
สวัสดีเจ้าคุณครูน้อง : คุยกันเรื่องทำกับข้าวจนหอมกลิ่นลาบปลาหมอกับแกงฉู่ฉี่เลยนะเนี่ย
สวัสดีครับเจ้าอาร์ม : เห็นสภาพตอนน้ำท่วมแล้วก็นึกภาพออกเลยนะครับว่าจะต้องเกิดความเสียหายอย่างหนัก ยิ่งคนทำมาหากินแล้วละก็ กว่าจะทำงานและเก็บหอมรอมริบ ค่อยๆสร้างเนื้อสร้างตัวซื้อของเข้าบ้านได้ทีละเล็กละน้อยพอได้เห็นความงอกงามเป็นกำลังใจในชีวิตของตนเอง พอเจอน้ำท่วมอย่างนี้ก็ต้องเสียหลักไปอีกนาน ขอร่วมชื่นชมกับทุกท่านที่ได้มีโอกาสแสดงความห่วงใยกับผู้ประสบภัยครับ
อาร์มเองก็เจอด้วยตนเองเลยค่ะ ตอนช่วงที่กำลังจัดบ้านอยู่พ่อก็เป็นลมช็อกไป 2 รอบ กัดฟันตัวเองจนน่ากลัวมาก อาร์มเลยต้องง้างปากท่านและเอานิ้วยัดเข้าไปแทน (เป็นการแก้ปัญหาที่น่ากลัวมากนะคะ) หลังจากนั้นจึงให้น้องชายเอาช้อนมาให้พ่อกัดแทนค่ะ โชคดีที่คนแถวบ้านเรียกรถให้จึงนำพ่อไปส่งโรงพยาบาลค่ะ สาเหตุเกิดการพักผ่อนน้อยและเครียดด้วยค่ะอาจารย์
ระหว่างทางนั้นหนูพยายามตั้งสติอย่างที่สุดและขี่มอไซด์ไปหาแม่และพ่อที่โรงพยาบาล ในใจนั้นได้แต่ภาวนาตลอดทาง และเชื่อว่าในความดีและการนั่งวิปัสนาที่พ่อทำนั้นจะช่วยปกปักรักษาพ่อได้ ถึงมือหมอแล้วหนูสบายใจได้แล้วค่ะ หมอและพยาบาลดูแลอย่างเต็มที่หายห่วงค่ะ
การฟื้นฟูจิตใจนับเป็นอีกเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามเลยค่ะ อยากให้ทางผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปช่วยกันฟื้นฟูด้วยจังค่ะ ^^
ขอร่วมแสดงความทุกข์ใจด้วยนะครับ : คนมีครอบครัวและมีลูกหลานอยู่ในความรับผิดชอบด้วยนี่ยิ่งมีความเสียใจและทุกข์มากกว่าการเกิดจากความเดือดร้อนของตนเองหลายเท่านะครับ จำเพาะหน้านี้หากคนรอบข้างแสดงให้เห็นว่าเข้มแข็ง ช่วยเหลือตนเองให้ได้มากที่สุด และไม่แสดงอาการว่ากำลังทุกข์หรือเดือดร้อนอยู่อย่างไรบ้าง ก็จะเป็นการช่วยให้คุณพ่อมีกำลังใจได้พอเยียวยาตนเองขึ้นมาได้นะครับ พอจิตใจได้นิ่งและมีความสงบขึ้นสักหน่อย สติและการคิดหาทางแก้ไขต่างๆก็จะดีขึ้นนะครับ
การฟื้นฟูจิตใจให้กันนี่น่าจะเป็นการให้ที่มีความหมายมากในยามนี้มากนะครับ ขอร่วมบอกกล่าวและชวนเชิญต่อๆกันไปนะครับ