คาถาช่วยให้เด็กเรียนเก่ง


ให้เก็บดอกมะพร้าว(ที่ตกลงมาจากจั่นของมะพร้าว อยู่ที่พื้นดิน)จำนวน 3 ดอก(พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์)ตอนเช้าก่อนกาบินข้าม 7 เช้าติดต่อกัน(ใช้ 3 เช้า หรือ 5 เช้าก็ได้ แต่ 7 เช้าจะเก่งที่สุด นี่!ยายบอกไว้)แล้วเสกด้วยคาถา(อะไรก็ได้)ลงบนดอกมะพร้าวที่ว่านี้ให้กิน ถ้าขาดสักวันไม่ติดต่อกันก็ต้องเริ่มนับวันที่ 1 ใหม่

คาถาช่วยให้เด็กเรียนเก่ง (ได้รับคำยืนยันจากทางบ้านแล้วครับว่าเป็นเรื่องจริง)

     เรื่องเล่าจากพ่อวันนี้ ขอเล่าเอง แต่ก็มีส่วนที่ได้เล่าจากพ่อเป็นผู้จุดประกายให้นั่นแหละครับ
     มีข้อห้ามมากมายที่ผมได้รับรู้และจดจำมาจากบ้าน แม้ทุกวันก็ยังปฏิบัติอยู่ ด้วยเพราะเสียงคำสอนของพ่อ-แม่ยังเหมือนได้ยินอยู่ในหู เมื่อเจอเหตุการณ์นั้น ๆ ขึ้น เช่นมีหนังสือหรือแม้กระดาษที่มีข้อความ ไม่ว่าจะเป็นข้อความอะไร วางเกะกะอยู่ ก็เลือกที่จะหยิบออกก่อน จะไม่ยอมเดินข้ามโดยเด็ดขาด “อย่าเดินข้ามหนังสือ จะเรียนไม่จำ” ซึ่งมองไม่เห็นความเชื่อมโยงมากนัก ว่าจะทำให้เรียนไม่จำอย่างไร
     แต่หากนึกทบทวนให้ดีน่าจะเพราะหนังสือ (ในอดีตส่วนใหญ่จะอยู่ในวัด) เป็นสิ่งที่ต้องเคารพบูชา หรืออาจจะเป็นเพราะจะเหยียบทำให้ฉีกขาด และเสียหายได้ง่าย
     เรื่องอยากเป็นคนเรียนเก่งนี้ผมมีนิทาน (เรื่องจริงที่อดขำตัวเองไม่ได้) สมัยที่ยายยังมีชีวิตอยู่ (ท่านเสียตอนผมอยู่ ม.2) ยายจะมาอยู่ที่บ้าน บ่อย ๆ ทีละ 2-3 เดือน โดยเฉพาะเวลาต้องมาอยู่เพื่อไปตรวจหรือเอายาที่สุขศาลา (สุขศาลา คือสถานีอนามัยที่มีแพทย์ด้วย ในอดีตเมื่อครั้งยังไม่มีโรงพยาบาลชุมชน สุขศาลาแห่งที่ว่านี้มีอดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข เคยมาอยู่ประจำการแล้วถึง 3 ท่าน) เพราะบ้านผมอยู่ใกล้สุขศาลา สมัยเรียนชั้นประถม 5 (ป.5) ยายเห็นแวว (มั้ง) เลยออกอุบายให้ผมเก็บดอกมะพร้าว (ที่ตกลงมาจากจั่นของมะพร้าว อยู่ที่พื้นดิน) จำนวน 3 ดอก (พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์) ตอนเช้าก่อนกาบินข้าม 7 เช้าติดต่อกัน (ใช้ 3 เช้า หรือ 5 เช้าก็ได้ แต่ 7 เช้าจะเก่งกว่า นี่! ยายบอกไว้) แล้วยายจะนั่งสวดมนต์ตอนเช้า ยายจะเสกดอกมะพร้อม (เสกคาถาลงบนดอกมะพร้าว) ที่ว่านี้ให้กิน ผมรับปากทันทีว่าจะทำ เช้าแรกผ่านไปด้วยดี เช้าที่ 2 ก็ผ่าน เช้าที่ 3 ตื่นไม่ทัน ยายบอกว่ากาบินผ่านแล้ว ต้องเริ่มต้นใหม่ ถามยายว่าทำไมไม่ปลุกด้วย ก็ได้รับคำตอบว่าถ้าปลุกจะนำมาเสกคาถาไม่ขึ้น (ไม่ได้ผล) ต้องตื่นเอง ทุกครั้งที่ผมตื่นแล้วรีบไปหาดอกมะพร้าวที่ว่า สังเกตเห็นแม่ซึ่งตื่นก่อนแล้วนั่งยิ้ม และบอกเชิงให้รีบ ๆ เข้า กว่าที่ผมจะได้ครบ 7 วันติดต่อกัน ใช้เวลาเริ่มต้นใหม่หลายครั้ง เพราะตื่นไม่ทัน (ต้องตื่นก่อนประมาณตี 4 ครึ่ง) รวม ๆ แล้วใช้เวลาพยายามอยู่เดือนกว่า ๆ จึงสำเร็จ นับแต่นั้นมา ผมก็ไม่เคยตื่นช้ากว่าตี 5 เลย (ไม่นับปัจจุบันนี้ที่ผมเปลี่ยนนิสัยไปนอนดึก ตื่นสายประมาณ 7.30 น. ซึ่งถ้ายายยังอยู่สงสัยจะได้เริ่มเก็บดอกมะพร้าวกันใหม่อีก ฮา...)
     และทุกวันนี้ผมเข้าใจการเสกดอกมะพร้าวเพื่อให้เรียนเก่งดีแล้ว ต้องขอบพระคุณยายมากที่สุด และขอบพระคุณที่แม่คอยยิ้มโดยไม่ยอมบอกว่ายิ้มอะไร รวมถึงพ่อที่บอกว่าแท้จริงแล้วรู้เรื่องตลอด แต่ยายขอว่าอย่าทัก (อย่างแสดงความสงสัยให้ผมเห็น)

หมายเลขบันทึก: 4040เขียนเมื่อ 18 กันยายน 2005 12:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มีนาคม 2015 08:27 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

     เรียน ท่านrww

คาถาอะไร ผมก็ไม่ทราบครับ รู้แต่เป็นกุศโลบายของยายที่ฝึกหัดให้เราตื่นแต่เช้า ๆ จนชินมากว่าครับ ส่วนคาถาที่ท่านใช้เสกดอกมะพร้าวผมไม่ทราบจริง ๆ และคิดว่าไม่น่าจะต้องทราบก็ได้ครับ

     เป็นเรื่องเล่าที่ดีมากครับ ผมจะลองนำไปใช้บ้าง  แต่ตอนนี้ยังนึกไม่ออกว่าจะใช้อะไรดี หากลงมือทำแล้วจะนำมาเล่าต่อนะครับ
     ขอบคุณคุณวีรยุทธ (สิงห์ป่าสัก) มากครับ ที่เข้ามาเยี่ยมอ่าน บันทึกที่เขียนตั้งแต่เข้าวงการใหม่ ๆ
ประทับใจกับถ้อยคำ อันน้อมนำมาจากภูมิปัญญาอันน่าปิติเกษมในวิถีคิด แบบไทยแท้ ว ที่ยึดความเรียบง่ายรู้ใช้ชีวิตอย่างสมถะพอดีพอเพียง และ หนังสือคือครูแห่งชีวิต แล้ว..เราจะข้ามหรือเหยียบได้ลงละหรือ มีอย่างเดียวคือแสดงกตเวทิตาด้วย*การกราบค่ะ*

ง่ายๆคือตั้งใจเรียน อ่านหนังสือมากๆ จบ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท