ขอบคุณอาจารย์มากค่ะกับสาระดีๆที่นำมาฝากเช้านี้
จะได้รู้ว่าเราควรทำบุญแบบใดจึงจะเหมาะสมที่สุด
สวัสดีครับท่านอาจารย์ นุ
ทำบุญให้ทานแบบมุสลิม คือการทำบุญที่"มือขวาให้ มือซ้ายไม่รู้"ครับ
สวัสดีค่ะอาจารย์
วันนี้วันออกพรรษา
ขอบคุณมากค่ะสำหรับความรู้ ข้อคิด หลักธรรมที่นำมาฝาก
อาจารย์ครับ
ในวงการผม ที่เห็นมาก คือ คนที่อาบน้ำหอม ครับ ประมาณว่าไปปฏิบัติธรรมที่นั่น ที่นี่มา แล้วก็เอามาเที่ยวคุยว่าตัวเองเก่งเรื่องการปฏิบัติธรรม
ขอบคุณอาจารย์มากครับ สำหรับเรื่องบุญ สบายดีนะครับ ไปทำบุญที่ไหนมาบ้างครับ
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณสำหรับบันทึกดีดีค่ะ สาธุ สาธุ
บันทึกนี้ดีมากๆ ครับ ขอบคุณนะครับ อ.นุ
ไม่ค่อยได้ไปว้ดแต่ชอบทำทานให้ผู้อื่นซะเป็นส่วนใหญ่
ขอบคุณที่แบ่งปันบันทึกดีดีให้อ่านค่ะ
ขอบคุณครับ คุณ Oraphan
สวัสดีค่ะ ขอชื่นชมอาจารย์ค่ะ
และบุญก็มี 3 แบบถึงจะเรียกว่าบุญครับ (เอามาจากหลวงพ่อพุทธทาสเหมือนกัน)
ทาน ศีล และสมาธิภาวนา เมื่อทำครบ 3 อย่างนี้ถึงจะเรียกได้ว่าบุญ หรือ ปุญฺญ เครื่องชำระจิตใจให้หมดจด
แต่ในปัจจุบันไปวัดไหนก็กลายเป็นบุญคือการบริจาคทาน ยิ่งทานเยอะได้บุญเยอะ แต่เราก็ไม่รู้ว่าที่บริจาคเยอะ ๆ นี่ไปไหนหมด กลายเป็นวัตถุสิ่งของไปเสียสิ้น
อยากให้มีคนสนใจเยอะ ๆ ครับ ขอบคุณมากที่ช่วยหาสิ่งดี ๆ มากระตุ้นเตือนกันครับ
ขออนุโมทนาและขอบคุณ คุณโยธินิน เช่นกันครับ
การทำบุญที่แท้จริงนั้น...พระพุทธองค์ทรงสอนว่า..
ยิ่งทำ ยิ่งให้ ยิ่งช่วยให้ละตัวตน ช่วยให้ละกิเลส (ความโลภ ความหลง)
ทำดี ดี ไม่ใช่ ทำดี เพื่อหวังจะได้ดี หรือยิ่งติดดี...
แต่ปัจจุบัน เป็นอย่างที่ท่านอาจารย์พุทธทาสสอนไว้
คนไทยส่วนใหญ่จะทำบุญแบบแฝงด้วยการยึดติด (โดยไม่รู้ตัว)
ทำบุญแล้วหวังผลในสวรรค์ชั้นฟ้า ยึดติดแต่สวรรค์วิมาน
อุปมาดั่งการอาบน้ำที่เจือด้วยน้ำหอมแป้งอบ
อาบเสร็จก็มีกลิ่นติดตัวคละคลุ้ง...
ขอบคุณครับ...
แวะมาทักทายค่ะ..อาจารย์
ขอบคุณสำหรับคำสอนดีๆค่ะ
มีอาจารย์ดี ลูกศิษย์ ต้องดีตามแน่นอนค่ะ