17-21 กค. 49
ดิฉันใช้เวลาประมาณ 5 วันในการไปร่วมสัมมนาระดับชาติครั้งที่3 เรื่องการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อในโรงพยาบาล ในการสัมมนาครั้งที่1-2 เป็นการทำงานร่วมกันระหว่างกรมครบคุมโรคที่มีสถาบันเป็นเจ้าของเรื่องและชมรมโรคติดเชื้อในโรงพยาบาลโดยมี อาจารย์ นพ. สมหวัง ด่านชัยวิจิตรเป็นเลขาธิการชมรมเป็นเจ้าของเรื่อง ในการสัมมนาครั้งนี้มีการจัดหลักสูตร Advance Course in Infection Control Update and Practical Aspect ในสามวันแรก และสัมมนาเรื่อง Optimizing Nosocomial Infection Control in Community Hospitals ในสองวันหลัง หลักสูตรแรกเป็นหลักสูตรที่สอนเป็นภาษาอังกฤษโดยวิทยากรจาก Washington University Medical Center. และ Washington University School of Medicine วิทยากรเป็นแพทย์สองท่าน พยาบาลหนึ่งท่าน ในแต่ละหัวข้อจะมีการสอนคู่ระหว่างวิทยากรไทยและต่างประเทศเพื่อแปลให้ผู้ฟังรู้เรื่อง ในส่วนของวิทยากรไทยจากหน่วยงานและมหาวิทยาลัยต่างๆ
ในส่วนของบำราศจะเป็นการทำงานทางด้านหน้างาน ในห้องสัมมนาจะเป็นทีมวิชาการซึ่งแบ่งหน้าที่กันได้ดี
รองศิริชัยและทีมงานจะดูแลเรื่องห้องและการประสานงานในการเดินทางของวิทยากร
ในงานนี้ท่านรองนายก นพ.สุชัย เป็นประธานเปิดงานและมีท่านรองปลัดมานิตย์กล่าวรายงาน ท่านรองอธิบดี นพ. กิตติและท่านผู้ทรง นพ.จรูญได้ไปให้กำลังใจและช่วยต้อนรับ
AAR
1 สิ่งที่คาดหวัง
มีการสัมมนาที่มีการพัฒนายกระดับโดยมีการร่วมมือกันทั้งจากวิทยากรจากประเทศไทยและต่างประเทศ
บุคลากรของสถาบันได้ความรู้ทางด้านการป้องกันและควบคุมโรคติดต่อในโรงพยาบาลเพิ่มขึ้น
โรงพยาบาลชุมชนได้มีโอกาสมาร่วมสัมมนา ได้ความรู้เพื้อไปป้องกันการติดเชื้อNI ในโรงพยาบาล และได้ ลปรร เพื่อให้เห็นปัญหาอันแท้จริงและนำปัญหาไปร่วมกับผู้ที่กำหนดมาตรฐานให้นำไปใช้งานได้จริง
เป็นการสร้างNetwork ตามยุทธสาสตร์ของ สบร
2 สิ่งที่ได้รับจากการสัมมนา
ได้ตามที่คาดหวัง
3 สิ่งที่ประทับใจ
ได้เห็นการทำงานเป็นทีมและมีการแบ่งงานอย่างเป็นระบบซึ่งเกิดจากความตั้งใจของผู้ทำงานที่มีโอกาสคิดเอง ประสานเอง โดยมีคุณหมอปิยพร จากโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ที่พยายามเอาเอกสารจ่ากวิทยากรทั้งไทยและต่างประเทศทั้งหมดในสามวันแรก แต่เนื่องจากวิทยากรเป็นเพื่อนกับ นพ.อนุชา จากธรรมศาสตร์ และอาราจารย์หมอปิยพรเคยไปเรียนที่มหาวิทยาลัยนี้ ทำให้เราได้เอกสารและทำหนังสือแจกผู้เข้าร่วมประชุมทันเวลา
ทางสถาบันไปครั้งนี้จำนวนคนน้อยกว่าทุกครั้ง แต่ทีมงานได้ใช้การบริหารมาช่วยการจัดการทำให้ได้รับคำชมทุกๆวันทั้งกิจกรรมช่วงเช้าและกลางคืนโดยมีคุณสุนันทาและคุณจันทราเป๊นคนคุมทีม
คนส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในการประชุม ไม่มีการหนีไป shoping ทำให้ผู้จัดก็ประทับใจ
วิทยากรต่างประเทศตั้งใจสอนดีมาก ทั้งการทำกลุ่มและการlecture ดิฉันไม่ได้ฟังในวันที่สองเพราะติดประชุมกรมเรื่องแผน คุณหมอจุไรมาชมให้ฟัง
4 สิ่งที่ต้องพัฒนา
ในการประสานวิทยากรขาดการย้ำเตือนจากผู้ประสานงานทำให้วิทยากรบางท่านไม่ทราบว่าเป็นวิทยากรเนื่องจากไม่ได้อ่านในรายละเอียดทำให้หมอเอ๋ต้องแก้ปัญหาเชิญอีกท่านไปขัดตาทับก่อนที่จะตามหาวิทยากร
การประสานระหว่างงานภายในห้องและนอกห้อง
การเตรียมCDที่คนอยากได้เพราะเอกสารเป็นภาษาอังกฤษและฟังฝรั่งไม่ทัน
การใช้ทีวีช่วยในการมองเห็นเนื้อหา คนที่อยู่ข้างหลังจะมองไม่ค่อยเห็น
การแปลของวิทยาคนไทยน่าจะแปลให้มากกว่านี้ (อ่านจากการประเมิน)
การตั้งคณะทำงานสรุปเนื้อหาที่ชัดเจน ดิฉันขอให้คุณพรลัดดาช่วยดำเนินการและรบกวนหมอปิยพรขอจากวิทยากรคนไทยคนละอย่างน้อยห้าบันทัดเพื่อสกัดเป็นTacit knowledge ซึ่งไม่ทราบว่าเหล่าอาจารย์ทั้งหลายจะยอมเขียนให้หรือไม่ เนื่องจากมาคิดขึ้นทีหลังและไม่ได้ตกลงกับอาจารย์ไว้ก่อน
จะต้องแจ้งให้หน่วยงานต่างๆของบำราศสมัครและคัดเลือกเช่น แพทย์ เภสัช เทคนิคการแพทย์ บางท่านที่เกี่ยวข้องอาจสนใจ
สุดท้ายของการบันทึก
ขอขอบคุณทีมงานทั้งทางบำราศ ศิริราช รามา ธรรมศาสตร์และรพ.เจริญกรุงประชารักษ์ รวมทั้งส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งหมดที่มาร่วมกันทำงานเพื่อเตรียมการป้องกันโรคติดเชื้อในโรงพยาบาล ดิฉันต้องขออภัยที่ไม่ได้เอ่ยนามบางท่านและไม่ได้ใส่รูปเพราะยังทำไม่เป็น ดิฉันจะใส่รูปและชื่อผู้เกี่ยวข้องในครั้งต่อไป การระบาดของไข้หวัดใหญ่ที่อาจจะเกิดขึ้นพวกเราคงต้องสู้ได้อย่างแน่นอน ดิฉันหวังไว้เช่นนั้นค่ะ