ฉันตัดสินใจลงพื้นที่ทำงานกับแพทย์หญิงนฤมล และคุณอี๊ด
เป็นความต้องการลึกๆที่รอโอกาส และจังหวะ
เมื่อจังหวะ และโอกาสมาถึงจึงไม่รอรี
กำหนดวันทำงานจึงถูกพญ.นฤมล ขวัญใจชาวค่ายเบาหวานโรงพยาบาลสมุทรสาคร
นำมาวางให้ดูไม่ต้องคิดอะไรอีกแล้ว
เพราะนี่แหละคือความฝันที่ทำให้เห็นภาพความรักความผูกพัน
ที่ผู้ป่วยจิตอาสาจะได้สัมผัสกับเพื่อนผู้ป่วยด้วยกัน
และเป็นการลงพื้นที่ที่ส่งผลให้งานจิตอาสาเป็นรูปธรรมที่จับต้องได้มากกว่าที่ผ่านมา
จิตอาสาของเราต่างทำงานที่ดูเหมือนไม่ได้ทำ
เพราะเราขาดการเก็บบันทึกข้อมูลซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อการรักษาเบาหวาน
เราเพียงรู้ และทำในเรื่องสายสัมพันธ์ที่ผู้ป่วยมีให้กัน
แม้จะมีข้อมูลอยู่ชัดเจนเป็นที่เข้าใจกันระหว่างผู้ป่วยกับจิตอาสา....
แต่มันหามีประโยชน์มากอย่างที่ใจเราปราถรนาได้
หลายคนคงสงสัยว่าในเมื่อจิตอาสาทำงานแบบจิตอาสาคือลงพื้นที่เยี่ยมเยียนกัน
โทรถึงกัน หลายครั้งมีเรื่องราวต่างๆนำไปฝาก เช่นนำสูตรอาหารลดน้ำหนักไปฝาก
เอาข้อมูลความรู้เรื่องเบาหวานไปฝากให้กัน ชวนกันออกกำลังกายกัน
ช่วยกันตรวจสอบน้ำตาลในเลือด ช่วยกันวัดรอบเอว
และอีกสำเพเหระ ที่ทำให้สายสัมพันธ์ของผู้ป่วยมีความผูกพันกัน
แล้วไฉนจึงต้องทำงานเก็บข้อมูลอีก
เมื่อวิเคราะห์การทำงานลักษณะเดิมนั้น จึงรู้ว่ามันเป็นการทำงานที่เกือบจะสูญเปล่า
ไม่สามารถนำข้อมูลมาต่อยอด ขาดการพัฒนาขาดข้อมูลที่ยอมรับได้ทางการแพทย์
และอาจหมายถึงเราไม่สามารถนำพาผู้ป่วยเบาหวาน
ให้สามารถมีชีวิตอยู่กับเบาหวานอย่างมีความสุขได้ตราบนานเท่านาน
และหากเราไม่สามารถทำให้ผู้ป่วยเบาหวานลุกขึ้นมาทำหน้าที่
เป็นหมอรักษาดูแลตนเองได้
รู้ว่าเมื่อไหร่จะกินยา เมื่อไหร่จะต้องออกกำลังกาย
และฝึกในตัวเองเป็นผู้มีความสมบรูณ์ทางอารมณ์ไม่ขาดๆวิ่นๆ
แต่สงบรับรู้อาการของตัวเองด้วยจิตเบิกบาน
สามารถอยู่กับเบาหวานได้อย่างรู้ทัน ปัญหาของผู้ป่วยเบาหวานคือ
ผู้ป่วยเบาหวานขาดพลังใจที่จะต่อสู้กับเบาหวานได้
ผู้ป่วยเบาหวานมองข้ามและไม่ให้ความสำคัญต่อตัวเอง
ผู้ป่วยเบาหวานขาดความรู้ความเข้าใจในเบาหวานที่ตัวเองเป็นอยู่
ผู้ป่วยเบาหวานเชื่อในปาฏิหาริย์มากกว่าการรักษาตัวเองด้วยกระบวนการ 3 อ.
เพราะความไม่เข้าใจ ไม่ยอมรับนั่นเอง เพียงหวังจะให้ยาเข้าไปควบคุมโรค
ในขณะที่พฤติกรรมที่ทำให้เกิดโรคยังเหมือนเดิมและอาจหนักกว่าเดิม
เมื่อยาเข้าไปควบคุมให้สภาวะโรคในร่างกายสงบลง และจิตใจดูเหมือนจะเบิกบาน
ท้ายที่สุดผู้ป่วยเบาหวานต้องเดินทางเข้าสู่การฟอกไตทุกคนไหม
นี่เป็นปัญหาที่จิตอาสาอย่างฉันไม่อยากให้เกิดขึ้นกับใครอีก
ภาพในอดีตผุดขึ้นมาท่ามกลางความคิด
เป็นคุณพ่อที่นอนฟอกไต ภาพคุณอาที่ฟอกไตหนักกว่าคุณพ่อ
ถึงสัปดาห์ละ 3 ครั้งนั้นมันไม่น่าจะเกิดขึ้นกับใครอีกแล้ว แม้ตัวฉันเอง
ฉันจึงต้องคิดใหม่ทำใหม่ จนถึงวันนี้ที่มีกลุ่มผู้ป่วยเบาหวานจิตอาสาขึ้น
เป็นกลุ่มมิตรภาพบำบัดที่มุ่งทำงานมิตรภาพที่ดีต่อกัน แม้จะขาดพลังในการขับเคลื่อน
ฉันสัมผัสได้ถึงความปรารถนาอย่างเต็มเปี่ยมที่เพื่อนมิตรภาพบำบัดอยากมอบให้
และพร้อมจะแบ่งปันความสุขและเสียสละเวลาส่วนตัวมาทำกิจกรรม
เพื่อให้ผู้ป่วยเบาหวานให้มีกำลังใจ และเข้าถึงเบาหวานในตนเองได้อย่างแท้จริง
พวกเขาพาตัวเองมาอบรมรับความรู้ ที่ทางโรงพยาบาลสมุทรสาครจัดให้
ฝีกหัดการทำหน้าที่จิตอาสาที่ดี
และฝึกหัดการทำหน้าที่เป็นผู้คัดกรองที่ดี เรียนรู้เรื่องอาหารที่มีผลสุขภาพ
เรียนรู้เรื่องการดูแลเท้า การทำสปาเท้า การออกกำลังกาย เช่นฝึกการเจาะเลือด
การวัดความดัน การหามวลกาย เรียนรู้การเข้าหาพบปะแลกเปลี่ยนเรียนรู้กัน
และเรียนรู้ถึงการให้กำลังใจผู้ป่วยเบาหวานด้วยกัน
วันที่ 12 ตุลาคม 2553 เวลาแห่งการแบ่งปันมาถึง ฉันได้ไปรอตามจุดนัดพบ
เตรียมอาหารสำหรับตัวเอง และของฝากผู้ป่วยเล็กน้อย เมื่อคืนนี้นอนเร็วขึ้น
ก่อนนอนเดินจงกลม ทำสมาธิ ผนึกความตั้งใจให้แน่วแน่ว่า
พรุ่งนี้ไม่ว่าจะเจออะไร ฉันหมายถึงอารมณ์ความรู้สึกของผู้ป่วยที่อาจทำให้ฉันรู้สึกแย่ลง
หรือถึงขั้นวางมันลงนั้น อย่าได้เกิดอย่าได้มี ฉันจะเป็นกำลังใจให้เขา
และเราจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน
ระหว่างการเดินทางไปยังสถานีอนามัยบางโทรัด
ฉันเกิดความรู้สึกคุ้นเคย...แล้วนึกขึ้นมาได้ว่าฉันเคยมาที่นี้แล้ว
ในฐานะวิทยากรจัดกิจกรรมให้ศูนย์สามวัย คนที่นี่น่ารักมาก ฉันเปิดประตูใจรับทันที
เสียงคุณอี๊ด นั่งข้างๆดังขึ้น เป็นเสียงที่นุ่มนวล ฉันตั้งใจฟังคุณอี๊ดให้ข้อมูล และแนะนำ
วิธีการทำงานกับทีมงาน ฟังคุณอี๊ดเพลินด้วยหัวใจที่อิ่มเอิบ และพอใจ
เพราะนี่แหละสิ่งที่ฉันคาดหวังไว้ และมันกำลังจะเกิดขึ้น
พบคุณหมอจอยกำลังให้การรักษาผู้ป่วย
ฉันเหลือบตาดูนาฬิกาแขวนที่อยู่ข้างหน้า คนไข้มารออยู่เต็มไม่แพ้ที่รพ.เลย
แวะถามผู้ป่วยรายหนึ่งจึงทราบว่าคุณหมอจอย(พญ.นฤมล)ให้การรักษาไปแล้ว
หลายราย แสดงว่าคุณหมอมาให้การรักษาแต่เช้าเลย รู้สึกยินดีกับภาพที่พบ
คุณหมอจอยใช้ห้องทำงานของหัวหน้าสถานีเป็นห้องตรวจรักษา นี่เป็นการใช้พื้นที่ได้อย่างสมบรูณ์ และเกิดประโยชน์แก่ทางราชการที่แท้จริง
ฉันยังไม่เคยเห็นที่ทำงานไหน ใช้ห้องทำงานของตัวเองเป็นที่ทำงานอื่นเลยนอกจากเป็นห้องส่วนตัวที่กว้างใหญ่ และเย็นฉ่ำ
เอาภาพนางฟ้าจากhttp://atcloud.com/stories/82350
มาคั่นอารมณ์คนบันทึกก่อนค่ะ ...ให้มันสดชื่นอย่างภาพนี้ค่ะ
คุณอี๊ดพาฉันไปพบคุณหมอจอย ส่วนคุณอี๊ดพบผู้ป่วยที่รออยู่
และให้คำแนะนำเรื่องการตรวจปัสสาวะ การเก็บปัสสาวะ เพื่อส่งต่อห้องlab
ฉันถูกแนะนำให้เจ้าบ้านรู้จักในฐานะจิตอาสา
และงานของฉันเริ่มขึ้นที่ห้องคุณหมอจอย
คุณหมอจอยมอบป้ายชื่อให้ฉัน และอธิบายการเก็บ
ข้อมูล พร้อมให้กำลังใจการทำงานงานจิตอาสาของฉันในวันนี้
ผู้ป่วยคนแรกที่ฉันทำความรู้จักเป็นคนมุ่งมั่น มีทัศนคติดีต่อตัวเอง
อยากหายจากเบาหวาน เธอบอกว่ามันน่าเบื่อ และรู้สึกเป็นบางครั้งว่า
เบาหวานอาจทำให้เธอสูญเสียพลังกาย พลังใจได้ในวันข้างหน้า
ถ้าเธอไม่ตัดสินใจมาพบหมอ
ก่อนหน้านี้เธอจะมาให้หมออนามัยเจาะเลือดให้ รับยาจากอนามัย และเมื่อยาหมด
เธอเลือกที่จะไปซื้อยารับประทานเอง และเธอพบว่าเบาหวานยังคงเริงร่าอยู่กัยเธอ
และเธอกลับรู้สึกเป็นทุกข์ใจ ฉันยังคงทำหน้าที่มิตรที่ดี
พร้อมเก็บข้อมูลทุกอย่างที่เธอเล่ามาโดยฉันใช้บทสัมภาษณ์ที่อยู่ในมือเป็นเครื่องปูทาง
เมื่อสนทนากันสักระยะหนึ่งเธอเริ่มเป็นฝ่ายเล่า
เธอเล่าๆๆๆ ฉันใช้สมาธิในการฟังเธอ จนฉันรู้สึกว่าเธอเริ่มเหนื่อย
ฉันถามเธอว่าเหนื่อยใช่ไหมเธอพยักหน้า และบอกว่าวันนี้เธอมาพบหมอตามนัด
พร้อมกับเตรียมอุปกรณ์แล่ปลามาด้วยถ้าการตรวจรักษาเสร็จเร็ว
เธอจะได้ไปรับจ้างแล่ปลาเหมือนเช่นทุกวัน
ฉันขอดูมือ และเท้าของเธอ ไม่พบร่องรอยบาดแผล เธอบอกว่าปวดเข่าขวามาก
มันเสียวจี๊ดขึ้นมา และเมื่อยล้ามาก
ฉันให้เธอขยับนั่งตัวตรงๆ และสอนให้เธอหายใจเข้าออกให้ถูกต้อง
เธอบอกว่าดีจังเลย เธอรู้สึกสบายขึ้น ฉันบอกว่ามันจะดีมากๆนะ
ถ้าเราได้นั่งนิ่งๆแบบนี้แล้วตามรู้ลมหายใจเราเพียงวันละหน่อย สัก 5นาทีก็ได้
เธอถามว่ากี่ครั้ง จะได้ 5 นาที
โอ.. เป็นคำถามที่ดีมากๆเลย
สารภาพว่าฉันไม่เคยดูนาฬิกาเลยตั้งแต่ฝึกมา ....ทำไงดี
ฉันจึงบอกว่า เรามาทำพร้อมกันนะ โดยหายใจทำความรู้สึกว่าหายใจเข้า
และหายใจออกทำความรู้สึกว่าหายใจออกก็นับเป็น 1 แล้วลองมาทำด้วยกันสัก10ครั้ง
หลังจากนั้นเธอถามว่าทำสัก 20 ครั้งได้ไหม ฉันบอกว่าทำเท่าไหร่ก็ได้นะ ได้ทุกเวลา
ต่อจากนั้นฉันแนะนำให้เธอปรึกษาคุณหมอจอยเรื่องหัวเข่าด้วย
แต่เธอบอกว่าเอาเบาหวานก่อน เธอไม่อยากเสียเวลาทำงาน
ฉันเข้าใจว่านี่แหละสำคัญทีเดียว
ผู้ป่วยหลายรายไม่ไปหาหมอเพราะต้องเสียเวลารอนาน
ฉันเองก็เคยเจอปัญหานี้เช่นกัน บางครั้งต้องลาโรงเรียน เธอก็คงเหมือนฉัน
แต่ต่างกันที่เธอไม่ทำงานวันี้ไม่มีรายได้
จังหวะนี้เองฉันถือโอกาสแนะนำการยกขาเพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อรอบๆหัวเข่าแข็งแรง
หากกล้ามเนื้อแข็งแรงก็จะช่วยพยุงการทำงานของเข่าได้
ฉันเข้าใจอย่างนี้ ตามที่ฉันเคยไปพบหมอกระดูก และเตือนเธอว่า
เธอต้องไม่ลืมที่จะเล่าอาการนี้ให้หมอได้ช่วยเหลือ
ฉันไม่ลืมที่จะบันทึกข้อแนะนำที่ทำไปลงในแบบบันทึกพี่เลี้ยงด้วย
และแอบชักชวนเธอให้ลองหันมากินข้าวกล้องดูเมื่อพุยกันไปคุยกันมาแล้วพบว่า
เธอรับประทานข้าวขาวมื้อละชามโตเลยทีเดียว
ต่อจากนั้นฉันพาเธอไปพบคุณหมอจอยอีกครั้ง
ฉันนั่งฟังคุณหมอจอยทำการตรวจ และวินิจฉัย
คุณหมอได้นำข้อมูลใหม่ที่ฉันบันทึกไว้ในแบบบันทึกของพี่เลี้ยงจิตอาสา
มาร่วมวินิจฉัย และสอบถามผู้ป่วย ....เสร็จแล้วคุณหมอนัดหมายครั้งต่อไป
ฉันเก็บข้อมูลผู้ป่วยไว้ในฐานะพี่เลี้ยงจิตอาสาที่จะต้องทำหน้าที่ติดต่อ
สร้างสายสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ป่วยต่อไป ในระยะแรกๆนี้ฉันควรโทรศัพท์ไปหาเธอบ้าง
แม้เพียงให้กำลังใจก็ยังดี สอบถามเรื่องหัวเข่าของเธอ และให้กำลังใจเธอ
ให้เธอได้นั่งนับ และเฝ้าทำความรู้สึกการหายใจเข้า และออกอย่างต่อเนื่อง
เก็บข้อมูลเพิ่มถ้ามี...........
สิ่งที่ได้มาในการทำงานครั้งนี้ คือข้อมูลบางอย่างที่ผู้ป่วยไม่อยากให้หมอทราบ
เช่นรายนี้เธอคิดว่าหมอจะตำหนิการไปซื้อยารักษาตัวเอง
ฉันได้เล่าให้เธอฟังว่าฉันไม่เคยกินยาเบาหวานเลย
แต่ฉันดูแลสุขภาพตัวเองด้วยคาถา 3 อ.
เจาะเลือดด้วยตัวเอง เรียนรู้จากโรงพยาบาลและเอกสารข้อมูลที่รพ.หรืออนามัยแจกให้
ทำตามคำแนะนำที่ให้ไว้ เธอบอกว่าเธออ่านหนังสือไม่ออก...
ฉันเล่าให้เธอฟังว่าฉันเองเคยทำผิดเช่นนี้มาก่อน
ก็เคยทำอย่างเธอเมื่อครั้งหนึ่ง และหลายครั้งที่ยารักษาไทรอยด์ของฉันหมด
และฉันยังไม่มีเวลาพบแพทย์ แต่นั่นมันก็เพียง 1 หรือ 2 วันเท่านั้น ที่ขาดยา
รวมทั้งฉันเคยลืมเอายาไทรอยด์ติดตัวเมื่อต้องไปทำงานต่างจังหวัดหลายวัน
และฉันจะไปที่ร้านขายยาที่มีเภสัชกรประจำอยู่เท่านั้น หาซื้อยาแบบเดียวกับที่หมอให้
และถ้าหาไม่ได้ ฉันก็ไม่กิน
แต่จะดูแลสุขภาพของตัวเองด้วยอาหาร และทำใจให้สบายๆแทน
เราไม่ควรปล่อยให้ยาหมด หรือลืมยาบ่อยนัก เพราะจะมีผลต่อโรคที่เราเป็นอยู่
ระหว่างพักช่วงเพื่อรอคุณหมอจอยส่งผู้ป่วยมาให้ฉันนั้นก็ทำความคุ้นเคย
กับจนท.สาธารณสุข และเพื่อนผู้ป่วยท่านอื่นๆไปด้วยค่ะ
ขอบคุณภาพดุ๊กดิ๊กๆจาก
http://play.kapook.com/dookdik/toongting/cat-595-1
ขอบคุณนพ.สิทธิพร โรงพยาบาลสมุทรสาครที่ส่งภาพมาให้เล่นค่ะ
คนซ้ายมือค่ะ นพ.สิทธิพร ส่วนขวามือน้องอ.ดร.ป๊อบ
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านค่ะ บันทึกหน้าพาไปเจาะใจ
เพื่อนผู้ป่วยอีกท่านหนึ่งนะคะ case นี้สุดยอดจริงๆ
เยี่ยมมากเลยค่ะ
อยากให้มีแบบนี้ ทั่วประเทศค่ะ
น้องป้าแดง...ดีใจที่ได้เจอค่ะ
เราเริ่มทำงานแบบนี้แล้วค่ะ สนุก และมีความสุขมาก
วันจันทร์พี่จะติดตามคุณหมอจอยไปเจ๊าะแจ๊ะๆๆๆที่
ต.บางกระเจ้า ที่นั่นมีของดีคือกะปิเคยตาดำของแท้
ที่พวกเรารู้จักว่าเคยตาดำบางโคนไงคะ
ไปทำแบบนี้ค่ะมีภาพเพื่อนทำงานมาฝากค่ะ
ที่นี่ติดคำขวัญตัวเบ้งไว้ให้สะดุดตา สะดุดใจ และรู้สึกอบอุ่น แบบญาติสนิทจริงๆค่ะ
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะพี krutoiting
เล่าได้น่าติดตามค่ะ รู้สึกประทับใจคุณครูในการทำงานจิตอาสาค่ะ เข้าหา เข้าถึง ช่วยเหลือผู้ป่วยเบาหวานด้วยใจ แม้เพียงจุดเล็กน้อยไม่มองข้าม
ชื่นชมทีมงานทุกท่านด้วยค่ะ สังคมน่าอยู่เพราะการช่วยเหลือกันแบบนี้ เป็นกำลังใจในการทำงานค่ะ คิดถึงเสมอค่ะ
สวัสดีค่ะ คุณkrutoiting
โรคนี้ไม่ได้หวานเหมือนชื่อเลยน่ะค่ะ
เป็นบันทึกที่ให้ความรู้ ชื่นชมมากค่ะ
ขอบคุณในสิ่งดีๆที่แบ่งปันค่ะ
ขอบคุณค่ะน้องครูยุ
โรคเบาหวานเป็นภัยเงียบค่ะ
ใครๆก็มีโอกาสเป็นได้
แม้ว่าในครอบครัวไม่เคยมีใครเป็นมาก่อน
ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเบาหวานบอกว่า
มันเกิดขึ้นเมื่อเรามีพฤติกรรมเสียง
เช่นมีพฤติกรรมการรับประทานอาหารไม่ถูกต้อง
หรือไม่เคยออกกำลังกายเลย
รวมทั้งการบริหารใจ ไม่ให้ขุ่นข้องหมองใจค่ะ
มีความสุขมากๆนะคะ
สวัสดีค่ะ
ผู้ป่วยเบาหวานมีมากขึ้นเรื่อยๆนะคะ โดยเฉพาะเด็กๆ เมื่อเด็กๆเป็นยิ่งลำบากมากในการคุมอาหาร ผู้ใหญ่บางคนยังทำไม่ค่อยได้เด็กๆยิ่งน่าสงสาร มีทางเลือกอีก นะคะ
http://gotoknow.org/blog/kanda01/371844
ขอบคุณน้องสุมากๆนะคะ
พี่ขอเอาไปฝากเพื่อนผู้ป่วยค่ะ
ส่วนตัวพี่ก็ทานน้ำมะพร้าววันละ 1 ช้อนชา ก่อนไปโรงเรียนค่ะ
ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ
แวะมาอ่านบันทึกยุทธการเปิดใจทั้งผู้ให้และผู้รับคุณภาพชีวิตแห่งสุขภาวะครับคุณครูต้อย
ขอบคุณค่ะน้องดร.ป๊อบ
การลงพื้นที่ครั้งนี้ได้ประโยชน์ในการพัฒนางานจิตอาสาผู้ป่วยเบาหวานมากค่ะ
เพราะวันที่ 30 จะเป็นการเพิ่ม เติมเต็มหลังจากที่จิตอาสาได้ไปพบเพื่อนผู้ป่วย
แล้วกลับมาพร้อมข้อคิด ข้อเสนอ รวมทั้งปัญหาค่ะ
ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะได้นำมาจัดกิจกรรมเสริม เติมเต็ม
และแก้ไขการทำงานของเพื่อนผู้ป่วยเบาหวานค่ะ
ทันใจดีจริงน้องพี่
ขอบคุณค่ะ ว่าแต่ดอกไม้สวยดอกนี้มีชื่อว่าอะไรคะ
เพิ่งเห็นเป็นครั้งแรกนะนี่ สวยเริดจริงๆ
แวะมาทักทายจิตอาสาที่ช่วยผู้ป่วยเบาหวานค่ะ
มันเป็นเรื่องใกล้ตัวที่เราสามารถป้องกันได้แต่...มีน้อยคนที่จะระวังตัว
จึงต้องช่วยกันประชาสัมพันธ์เพื่อให้คนที่ไม่รู้ได้รู้และเห็นภัยของเบาหวานนะคะ
มีความสุขดีนะคะพี่ครูต้อยติ่ง..
สวัสดีค่ะ
มาชมเรื่องราวค่ะ
เมื่อเช้าดูข่าว คนเป็นโรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง น่าเป็นห่วงในช่วงน้ำท่วมนี้
สวัสดีวันพยาบาลค่ะพี่ต้อย มาส่งแรงใจเชียร์ไนติงเกลทุกๆ ท่าน ส่งกำลังใจต้านภัยน้ำท่วม เดินทางปลอดภัยนะคะพี่
สวัสดีค่ะคุณพี่ krutoiting
พี่ครูต้อยครับ เขียนได้ละเอียดมากเลย ได้เรียนรู้ทั้งหมดจากการทำงาน ผมเห็นการเขียนของพี่พัฒนาไปมากกว่าเดิมด้วยครับ
ขอบคุณน้องอ.ขจิต ฝอยทอง มากค่ะ
โอ้..พี่ตัวลอยขึ้นฟ้าเลย
เป็นงานที่สนุกค่ะ
คุยกับผู้สูงอายุ
ได้กำไรชีวิตค่ะ