วิเคราะห์บทความเรื่อง การสอนงาน(COACHING) กับระบบพี่เลี้ยง (mentoring system) ความเหมือนที่แตกต่าง
จากบทความที่กำหนดให้นำมาวิเคราะห์จะเห็นได้ว่าสิ่งที่เหมาะสมที่สุด ที่จะนำมาพัฒนาทรัพยากรบุคคลในองค์กรต่างๆ ในปัจจุบันโดยเฉพาะในวงราชการนั้นก็คือ ระบบพี่เลี้ยง (mentoring system) เพราะหน่วยงานราชการเป็นองค์กรใหญ่ที่ใช้ชีวิตแบบสัมพันธ์และใกล้ชิดกันและระบบพี่เลี้ยงไม่จำเป็นต้องอยู่ในองค์กรเดียวกันก็ได้ สามารถติดต่อ สัมพันธ์และสร้างความคุ้นเคย ถ่ายทอดความรู้แบบตัวต่อตัวได้ทั้งนั้น
การที่โรงเรียน ซึ่งถือเป็นหน่วยงานราชการ มีระบบพี่เลี้ยงนั้นดีมาก เพราะ ระบบพี่เลี้ยงเป็นกระบวนการสร้างกลุ่มคนที่มีศักยภาพในการทำงานสูง รักษาคนดี คนเก่งไว้ในโรงเรียน โดยสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่ส่งเสริมให้กล้าคิดกล้าทำ กล้าแสดงออก พร้อมรับสิ่งท้าทายใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้น รุ่นพี่ที่มีความรู้ความสามารถ
มีประสบการณ์ มีการปฏิบัติตนที่ดี สามารถนำสิ่งเหล่านี้มาถ่ายทอดให้กับรุ่นน้อยได้ นอกจากเรื่องงานแล้วระบบพี่เลี้ยงยังสามารถปรึกษาหารือเรื่องส่วนตัวได้อีกทำให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และรุ่นน้องที่ถูกฝึกฝนและถ่ายทอดความรู้ต่างๆ มาแล้วจะขยายเครือข่ายเป็นรุ่นๆ ไป ไม่มีวันจบสิ้น ทำให้ระบบนี้อยู่ได้นานกว่าการสอนงาน เพราะระบบการสอนงานจุมุ่งเน้นที่การปฏิบัติงานและผลงานเมื่องานสำเร็จลุล่วงการสอนงานก็สิ้นสุดลง
ดังนั้น การสร้างคนมาทดแทนกันนั้น ก่อนอื่นจึงต้องเริ่มจากให้สำคัญกับบุคลากรที่เรามี ที่เราอยู่ ในขณะนี้เสียก่อน ดังนั้น ผู้ที่อาวุโส หรือบุคคลที่ปฏิบัติงานก่อนเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ มีประสบการณ์ มีทักษะ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งกับองค์กรในฐานะพี่เลี้ยง ด้วยพื้นความรู้จากประสบการณ์การทำงานของเขา ถ่ายทอดสู่รุ่นน้อง ให้เขาได้รับความรู้ความเข้าใจ และนำไปสู่การแก้ปัญหาในงานหรือในองค์กรได้ดี ดังนั้นจึงต้องฝึกฝน พัฒนารุ่นน้องเพื่อให้เป็นทั้งผู้ให้ และเป็นทั้งผู้รับ และนำความรู้และประสบการณ์ไปถ่ายทอดในรุ่นต่อไปได้โดยสมบูรณ์
ระบบการสอนงาน |
ระบบพี่เลี้ยง |
1. ใช้ทักษะการติดต่อสื่อสารและสร้างสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน |
1. ใช้ทักษะการสื่อสารและสร้างสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน |
2. เป็นการพัฒนาความรู้และทักษะของบุคคลเพื่อให้มีผลการปฏิบัติงานที่ดีขึ้น |
2. เป็นการพัฒนาเชิงสนับสนุน และให้กำลังใจสามารถนำประเด็นส่วนตัวมาหารือได้ |
3. หัวหน้างานที่มีประสบการณ์มากกว่าจะสอนลูกน้อง |
3. เพื่อนร่วมงานที่มีประสบการณ์มากกว่าเป็นพี่เลี้ยงให้กับเพื่อนที่มีประสบการณ์น้อยกว่าไม่จำเป็นต้องเป็นระดับหัวหน้า หรือผู้มีตำแหน่งสูงกว่า |
4. ใช้ระยะเวลาไม่นาน |
4. ใช้ระยะเวลาถ่ายทอดความรู้ค่อนข้างนาน |
5. ใช้การพูดคุยหรือหารือเป็นครั้งคราว |
5. การพูดคุยปรึกษาหารือเป็นไปบ่อยครั้งและใกล้ชิดสนิทสนม |
6. มีเป้าหมายชัดเจนและเฉพาะเจาะจง |
6. สามารถกำหนดเป้าหมายทางอาชีพที่เป็นไปได้จริงและบรรลุเป้าหมายนั้นได้ |
7. ลูกน้องได้รู้จุดอ่อนจุดแข็งของตนเองได้รับกำลังใจเสริมถ้าผลการปฏิบัติงานออกมาดี |
7. ผู้ที่เป็นน้องเลี้ยงจะได้ฝึกภาวะความเป็นผู้นำและมีโอกาสสร้างเครือข่ายและเป็นต้นแบบต่อไป |
นางสาวสุพรรณสา ยวงเดชกล้า
ไม่มีความเห็น