Gotoknow กับปัญหาลิขสิทธิ์


หากว่าผู้กระทำผิด ทำไปด้วยเจตนา เป็นความตั้งใจที่จะ "ลอก" ก็สมควรจะโดนลงโทษตามความผิด แต่ถ้าหากผู้กระทำผิด.. ทำไปเพราะความไม่รู้ หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ล่ะ ?

เวบ gotoknow เป็นเวบที่รวบรวมบันทึก บทความต่างๆ จากบุคคลในที่ต่างๆ ด้วยบทความอันหลากหลาย ทั้งบันทึกประสบการณ์ ทั้งเรื่องราวดีที่นำเสนอแง่คิด จากชีวิต จากงานที่ทำ ฯลฯ เพื่อสร้างเป็นขุมพลังความรู้ขึ้นบนโลกไซเบอร์

สถานที่แห่งนี้กำลังขยายออกกว้าง จากนักวิชาการ สู่บุคคลหลากหลายวิชาหลายแขนงอาชีพ สู่สถาบันการศึกษา สู่สถาบันอื่นๆ เมื่อนั้นบทความมากมาย ก็จะถูกรวมกันเข้ามา  เมื่อมองไปข้างหน้า ย่อมเป็นภาพอันน่ายินดี  หากแต่ยังมีสิ่งหนึ่ง..ที่หลายคนอาจจะลืมคำนึงถึง เพราะมันคือปัญหาที่มักเกิดขึ้นบนเวบที่เก็บรวบรวมงานเขียนบนอินเตอร์เนตหลายเวบแล้ว

สิ่งนั้นก็คือ.. ปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์... !

  • ไม่ว่าอาจจะเป็นงานเขียนบทความของบางท่านที่เก็บไว้ที่นี่  ที่อาจจะถูกนำออกไปใช้ ไปตีพิมพ์ข้างนอก โดยที่เจ้าตัวไม่รู้  หรืองานเขียนจากที่อื่น ที่ถูกนำมาเก็บไว้ในบันทึกของใครบางคน โดยที่ยังไม่ได้รับการอนุญาตจากเจ้าของ
  • มีเวบบอร์ดหลายแห่ง ที่เกี่ยวกับงานเขียนบนอินเตอร์เนต ที่กำลังเกิดปัญหาขึ้น อีกทั้งยังเป็นปัญหาดังเสียด้วย  ไม่ว่าจะเป็นที่ pantip.com ที่มีสมาชิกนำภาพ และเรื่องราวจากการไปเที่ยวในสถานที่บางแห่ง มาโพสต์  จากนั้นก็มี  คน  copy นำไปลงในงานเขียนของตน แล้วตีพิมพ์ออกเป็นหนังสือ  (เรื่องแบบนี้มีไม่ต่ำกว่า 1 คดี)
  • หรือการที่อยู่ๆพบว่า บทความที่ตนเองเคยเขียน ถูกนำไปลงใน forward mail จากนั้นก็กลายเป็นบทความสาธารณะ  ไม่มีเจ้าของ ไม่มีที่อ้างอิงไป
  • หรือว่า.. ในวงการนิยาย ที่พิมพ์ขายเป็นเล่มๆในขณะนี้ ก็มีบางเรื่อง มีการ copy บางส่วนจากนักเขียนชื่อดัง มาใส่ในนิยายของตนเอง สุดท้าย..เป็นเรื่องดังละเมิดลิขสิทธิ์ จนทาง สนพ. ต้องออกมารับผิดชอบ เก็บหนังสือออกจากแผง  และที่สดๆร้อนๆ เกิดขึ้นไม่นาน  มีเด็กคนหนึ่ง (เข้าใจว่ายังเด็กนะ คืออายุน่าจะบวก/ลบ ยี่สิบปี) ได้นำเอานิยายที่คนอื่นโพสต์ในอินเตอร์เนต ส่ง สนพ. ในชื่อของตนเองหลายเรื่อง จนเรื่องเหล่านั้น กำลังกำหนดโครงการตีพิมพ์ แต่แล้วมีคนเห็นประกาศของ สนพ. จึงรีบแจ้งเจ้าของเรื่อง ทำให้เจ้าของเรื่องแท้จริง  ออกมาทวงสิทธิ์  ส่วนเจ้าคนก่อเรื่อง หลายลับเข้ากลีบเมฆ

ที่ยกตัวอย่างมาเหล่านี้ เป็นแค่ตัวอย่างย่อยๆที่เกิดขึ้น  ความจริงยังมีมากกว่านี้ และนับมันมันจะเพิ่มมากขึ้น

เหตุเพราะบทความในอินเตอร์เนต ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นบทความสาธารณะ จะเอาไปใช้ตรงไหนก็ได้  ยิ่งเป็นบทความจาก forward mail ซึ่งมักไม่มีชื่อเจ้าของ ก็สามารถนำมาเก็บไว้ทำอะไรก็ได้

แต่อยากจะบอกว่า บทความจาก forward mail ทุกบทความล้วนมีเจ้าของ เพียงแต่คนที่เอาบทความมา forward ไม่อ้างอิง หรือเก็บชื่อของคนเขียนหรือที่มาของบทความไว้ จนสุดท้าย จึงกลายเป็นบทความที่ไร้เจ้าของไป  

กับตัวเราเองเคยเจอมาแล้ว.. เรื่องสั้นที่เขียน ถูกกลายเป็น forward mail   บทกลอนที่ตนเองแต่ง..ถูกนำไปโพสต์ไว้ในเวบบอร์ด หรือเวบบางเวบ หรือบางบล็อก  โดยไม่ได้ให้เครดิตเจ้าของเลย ยอมรับว่า..ตอนแรกเห็นแล้วโกรธ ต่อมาก็เจ็บปวดนะ  เรื่องแต่ละเรื่อง กลอนแต่ละบท มันต้องใช้ความคิด ใช้เวลาในการเขียนมัน แต่อยู่ๆก็กลายเป็นของสาธารณะไป  แม้จะเรียกร้องออกไป แต่เราก็ไม่รู้ว่า..มันยังแพร่ไปที่ไหนที่เราไม่รู้อีกบ้าง

เดี๋ยวนี้มีการตื่นตัวเกี่ยวกับลิขสิทธิ์มากขึ้น และโลกในอินเตอร์เนต นับวันก็แคบลง  คนรู้จักกันมากขึ้น มีสายตาสอดส่องมากขึ้น เมื่อพบการล่วงละเมิด ก็จะมีการติดต่อกลับเจ้าของเดิมรวดเร็วขึ้น

แล้วสิ่งที่จะเกิดตามมา คือการเรียกร้องสิทธิในบทความนั้นๆ และสิ่งที่อาจจะเกิดตามมา คือการฟ้องร้อง ใช้กฏหมายเข้ามาลงโทษผู้กระทำผิด  และสิ่งที่จะเกิดต่อไป.. คือการเสียชื่อเสียง เสียอนาคตของผู้กระทำผิด รวมทั้งมลทินที่จะเกิดขึ้นกับเวบนั้นๆ ให้เกิดความหม่นหมองขึ้น

หากว่าผู้กระทำผิด ทำไปด้วยเจตนา เป็นความตั้งใจที่จะ "ลอก" ก็สมควรจะโดนลงโทษตามความผิด  แต่ถ้าหากผู้กระทำผิด.. ทำไปเพราะความไม่รู้ หรือรู้เท่าไม่ถึงการณ์ล่ะ ?

อย่างเช่น.. เมื่อไปเห็นบทความบางบทความ ที่ลึกซึ้งกินใจ เห็นบทกลอนที่ให้คติเตือนใจ  อาจจะจากที่ไหนสักแห่ง หรือว่า จาก forward mail ที่ส่งมาทางอินเตอร์เนต จากนั้นเอาบทความ หรือบทกลอนนั้น มาโพสต์ในบล็อกของตนเอง   โดยไม่อ้างอิงที่มา  คนอื่นเข้ามาอ่าน ก็จะเข้าใจว่า บทความหรือบทกลอนนั้น เขียนขึ้นโดยท่านผู้นั้นใช่ไหม และเจ้าของบล็อก ก็จะกลายเป็นผู้ต้องหาละเมิดลิขสิทธิ์ในบทความของผู้อื่นโดยไม่ตั้งใจใช่ไหม ?

ปัญหาทุกอย่าง.. ย่อมมีทางป้องกัน แม้ว่าการป้องกันไม่ได้หมายถึง จะทำให้ไม่เกิดปัญหา แต่อย่างน้อย ก็อาจจะช่วยลดปัญหาให้น้อยลงได้

จึงมีความเห็นว่า อยากให้ทางคณะทีมงานผู้ดูแลเวบ Gotoknow แห่งนี้ จัดเตรียมมาตรการบางอย่าง ที่จะป้องกันเหตุการณ์เหล่านี้ไว้ด้วย  ก็คงจะดี  เพราะว่าเมื่อคนมากขึ้น..การควบคุมหลายอย่างก็คงจะยากขึ้น 

อดเป็นห่วงไม่ได้จริงๆค่ะ !

 

 

......

หมายเลขบันทึก: 39955เขียนเมื่อ 20 กรกฎาคม 2006 23:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 15:24 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)
     เห็นด้วยครับกับข้อควรตระหนักและระวังในส่วนนี้ แต่หาก Blogger รับผิดชอบอย่างเข้าใจต่อประเด็นนี้ จะช่วยได้เยอะครับ การเปิดเผยตัวจึงเป็นหนทางหนึ่งที่จะดีมาก แต่นั่นแหละก็ย่อมมีผลกระทบด้านลบด้วยต่อการ ลปรร.ในการเข้ามาใหม่ ๆ แต่หากจะบอกว่า Blogger ที่จริงใจต่อกันใยจะเปิดเผยตัวตนไม่ได้ครับ
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ควรจะตั้งอยู่บนความซื่อสัตย์ สุจริต และด้วยความบริสุทธิ์ใจ ให้เกียรติ และเคารพผู้อื่น กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนาครับ
   มีแน่นอนครับคนตั้งใจทำสิ่งไม่ถูกต้อง  แต่ไม่ใช่พวกเราที่เข้ามาที่ GotoKnow ด้วยใจอย่างแน่นอน   หากสิ่งที่คิด เขียน และนำมาแลกเปลี่ยน ต่อยอดกันที่นี่ ได้รับการเผยแพร่จนเกิดประโยชน์ในวงกว้าง  ผมพูดแทนหลายๆคนได้เลยว่า เราจะยิ้มด้วยความอิ่มใจ  ส่วนการอ้างอิง อันเป็นจริยธรรมที่พึงปฏิบัติ เราก็ช่วยกันปฏิบัติให้เป็นแบบอย่างอยู่แล้วเป็นส่วนมาก  ทำไปเรื่อยๆก็จะเป็นวัฒนธรรมที่จะค่อยๆไล่น้ำเสียออกไปได้ในที่สุด  อย่างไรก็ตาม หากพบ มิจฉาชีพตัวจริง ที่มีเจตนาขโมยผลงานผู้อื่นไปแสวงประโยชน์ใส่ตนโดยมิชอบ  พวกเราจงงดใช้พรหมวิหาร ๔ กับคนเหล่านั้น หรือใช้ก็เอาเพียงข้อเดียวคือ อุเบกขา วางเฉย ให้กฎหมายจัดการกับเขาให้สมกับเหตุที่ก่อ เพื่อการเรียนรู้ที่แท้จริง และความยุติธรรมสำหรับคนเหล่านั้น

กระบวนการทางสังคมที่เข้มแข็งจะช่วยป้องกันและตรวจสอบเรื่องเหล่านี้ค่ะ

เรื่องบันทึกใน gotoknow ที่จำนวนหนึ่งมาจาก FW mail พยายามมองอย่างใจป็นกลางค่ะ ว่า blogger คงมีปิติอยากเผยแพร่ และอยากมีบันทึกที่มีคนเข้ามาอ่านมาให้ความเห็น เพราะ FW mail เป็นเรื่องที่มักจะน่าประทับใจอยู่ในระดับหนึ่ง และเมื่อได้รับ posiitve reinforcement จาก blogger คนอื่นเช่นเข้าไปชมเชย ก็อาจกลายเป็นสิ่งที่อยากทำอีกซ้ำๆ ปัญหาไม่ใช่การบันทึก FW mail เป็นเรื่องดีหรือไม่ดี แต่คิดว่าสำหรับการบันทึกใน gotoknow แล้วถ้าบล็อกหนึ่งๆจะเต็มไปด้วย FW mail แล้ว เจ้าของบันทึกก็คงจะรู้สึกว่าไม่น่าท้าทาย กระมัง เพราะสังคมที่นี่เข้มแข็งและติงตรวจกับเรื่องการเขียนที่ไม่อ้างอิงอยู่เสมอๆ

ใจจริงอยากเห็น blogger เขียนด้วยตัวเองมากกว่า ถึงจะเขียนแล้วจะไม่มีใครอ่าน ไม่มีใครให้ความเห็น คนเขียนก็ได้ประสบการณ์ ค่ะ

ส่วนเรื่องที่เขียนแล้วมีคนเอาไปใช้โดยไม่ให้เครดิต....เจอจนชินแล้วค่ะ ...ไม่เฉพาะใน internet หรอกค่ะ ในวงการก็เจอไปแล้ว...ให้ทานได้เสมอค่ะ

เพราะ "สิ่งที่เขาได้ไปนั้นเป็นเพียงผลงานจากความคิดของเรา เขาไม่สามารถคัดลอกความคิดและวิธีคิดของเราไปได้ค่ะ"

 

 

หากเราทุกคนที่ใช้ GotoKnow เป็นที่แลกเปลี่ยนเรียนรู้จะช่วยกันเป็นหูเป็นตา และปฏิบัติตนเป็นแบบอย่าง รวมทั้งท้วงติงผู้ที่ไม่ได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง ทั้งโดยเจตนาหรือโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ก็จะเป็นทางไล่น้ำเสียออกจาก GotoKnow เช่นกันนะคะ

การเปิดเผยตัวเองก็เป็นทางหนึ่งที่ทำให้เราเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์สิ่งที่เราเขียน มีวันที่ เวลาแปะติดอยู่แล้วโดยอัตโนมัติ แต่กรณีที่จะมีคนคัดลอกออกไปใช้โดยไม่ได้เคารพสิทธิของเรา ก็คงจะเป็นเรื่องที่ติดตามได้ยาก ก็ต้องถือว่าเป็นวิทยาทาน เรารู้เองว่าเป็นของเรา สิ่งที่เราเขียนใน GotoKnow ก็คือสิ่งที่เราต้องการเผยแพร่ถ่ายทอด หากมีคนเอาไปเผยแพร่โดยที่เราไม่รู้ และไม่ได้อ้างถึงเรา ก็คงต้องทำใจหรือถ้าหากต้องการจัดการตามกฏหมายเมื่อรู้ทีหลัง ก็น่าจะทำได้ง่ายเพราะ GotoKnow เป็นแหล่งที่มีมาตรฐานอ้างอิงได้

หากมีโอกาสถ่ายทอดวิธีใช้ GotoKnow จะถือเป็นข้อปฏิบัติในการเตือนเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ผู้อื่นตระหนักไว้ด้วยค่ะ
ขอบคุณคุณ k-jira ที่เตือนกันไว้ค่ะ

 

ขอขอบพระคุณสำหรับทุกความเห็นค่ะ และขอแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม ต่อยอดจากบันทึกนี้ไปที่นี่นะคะ  Gotoknow กับปัญหาลิขสิทธิ์ (2)  

ขอบคุณค่ะ  ^____^

 

     มาเติมอีกนิดนึงครับ ที่บอกว่า Blogger เปิดเผยตัวนั้น ก็เพื่อจะได้รับผืดชอบในงานที่ไปเอาของคนอื่นมานะครับ หรืออย่างน้อยหากคิดจะทำ ก็จะได้ไม่กล้าไงครับ

สวัสดีค่ะ

เรื่องนี้ ดิฉันเห็นด้วย เราต้องระวังเรื่องลิขสิทธิ์ค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท