การอ้างอิง (reference)
การอ้างอิง คือ การระบุแหล่งที่มาของแนวคิดหรือข้อมูลที่ปรากฏในรายงานวิจัยของผู้เขียน การจัดทำรายงานการอ้างอิงที่ถูกต้องจำเป็นต้องมีความรู้ในประเด็นต่อไปนี้
1. ประเภทของการอ้างอิง
(1) การอ้างอิงในตัวเนื้อความ (in-text citation or in-text references) หรือเรียกว่าการอ้างอิงในวงเล็บ (parenthetical reference)
(2) การอ้างอิงแบบแยกส่วนจากเนื้อหา มี 2 ประเภท ได้แก่
(2.1) เชิงอรรถ (footnotes) ซึ่งเป็นการอ้างอิงในตอนล่างของหน้าที่มีการอ้างอิง
(2.2) การอ้างอิงในตอนท้ายเอกสารซึ่งมีการอ้างอิงแบบบันทึกหมายเหตุหรือข้อสังเกต เรียกว่า endnotes หรือ notes หรือรายการอ้างอิง (reference list) หรือ บรรณานุกรม (bibliography)
การอ้างอิงเอกสารในตอนท้ายเอกสารที่เป็นแบบบันทึกหมายเหตุ (endnotes หรือ notes) อาจใช้วิธีการอ้างโดยเรียงตามลำดับหมายเลขที่มีการอ้างอิงในเนื้อหาก่อนหน้านั้น โดยมีแหล่งรายการอ้างอิงซ้ำได้หากอ้างมากกว่า 1 ครั้ง ทั้งนี้การอ้างอิงครั้งแรกจะอ้างอิงสมบูรณ์ มีรายละเอียดของชื่อผู้แต่ง ปี ชื่อเรื่อง แหล่งพิมพ์ ส่วนการอ้างอิงรายการซ้ำต่อมาจะเป็นการอ้างแต่ชื่อ ผู้แต่ง ปี เลขหน้า
สำหรับการอ้างอิงเอกสารในตอนท้ายเอกสาร ที่เป็นแบบรายการอ้างอิง (references list) หรือบรรณานุกรม (bibliography) ใช้วิธีการอ้างแบบเลือกเรียงรายการเอกสารที่อ้างเพียงครั้งเดียวไม่ซ้ำกัน
ในทางสังคมศาสตร์มักนิยมอ้างอิงในตัวเนื้อความหรือจัดทำเป็นรายการอ้างอิง (reference list) หรือบรรณานุกรม (bibliography) ส่วนทางมนุษยศาสตร์มักนิยมอ้างอิงแบบเชิงอรรถ (footnotes)
2. รูปแบบของการทำเชิงอรรถหรือบันทึกหมายเหตุ
เชิงอรรถ (footnotes) เป็นการอ้างอิงที่แยกส่วนจากเนื้อหา ปรากฏอยู่ตอนล่างของหน้า ส่วนบันทึกหมายเหตุ (endnotes หรือ notes) เป็นการอ้างอิงแบบแยกส่วนจากเนื้อหา ปรากฏอยู่ตอนท้ายของเอกสาร เรียงลำดับตามหมายเลขที่มีการอ้างในเนื้อหา
การทำเชิงอรรถหรือบันทึกหมายเหตุมี 4 ลักษณะ ได้แก่ (1) การอ้างแหล่งที่มาของเนื้อหาที่ปรากฏในส่วนเนื้อหา (text) โดยอาจเป็นการเขียนข้อความที่เป็นความคิดเห็นของแหล่งอ้างอิงหรือการคัดลอกข้อความของแหล่งอ้างอิง (2) การอ้างอิงข้าม (cross-references) หรือเรียกย่อ ๆ ว่า cf. หรืออาจใช้คำว่า see เป็นการอ้างอิงถึงข้อความที่ปรากฏในเอกสารวิชาการฉบับเดียวกัน แต่อยู่ที่ส่วนอื่นหรือหน้าอื่น ถ้าเป็นภาษาไทย มักเขียนในวงเล็บว่า (ดูที่หน้า …..) (3) การอ้างอิงส่วนที่ผู้เขียนต้องการให้รายละเอียดเสริมเพื่อให้เข้าใจชัดเจนมากยิ่งขึ้น แต่แยกออกมานำเสนอในตอนท้ายของหน้า เพื่อมิให้ผู้อ่านเกิดการสะดุดทางความคิดในขณะอ่านข้อความในส่วนเนื้อหา และ (4) การเขียนหมายเหตุที่แสดงการยอมรับหรือให้เกียรติกับแหล่งที่อ้างอิงหรือบุคคลที่มีส่วนในการจัดทำเอกสารวิชาการ
จะเห็นว่าการทำเชิงอรรถหรือบันทึกหมายเหตุสามารถจำแนกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ แบบที่ 1 และ 2 เรียกว่า บันทึกหมายเหตุแบบอ้างอิง (reference notes) และแบบที่ 3 และ 4 เรียกว่า บันทึกหมายเหตุแบบเนื้อหา (content notes) ทั้งนี้บันทึกหมายเหตุแบบเนื้อหายังสามารถอ้างอิงแหล่งที่มาได้ซ้อนอยู่ภายในข้อความได้
3. จำนวนการอ้างอิงแต่ละครั้ง
การอ้างอิงแหล่งที่มาของเอกสาร สามารถอ้างได้ทีละแหล่ง (single source) หรืออ้างพร้อมกันหลายแหล่ง (multiple sources) สำหรับการอ้างอิงหลายแหล่ง อาจเป็นเอกสารฉบับเดียวแต่มีผู้เขียนที่เป็นเจ้าของแหล่งที่ต้องอ้างมากกว่า 1 คน หรือเป็นการอ้างอิงแหล่งเอกสารที่มีมาจากผู้เขียนที่เป็นอิสระจากกัน
อ้างอิง
นงลักษณ์ วิรัชชัย. (2541). การเขียนบทความวิจัย. เอกสารประกอบการบรรยายในโครงการ "เที่ยงวันวิชาการ" ณ ครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2542.
ขอบคุณครูสอนเลขมากค่ะที่เป็นกำลังใจให้
แล้วเจอกันค่ะ โชคดีในการเรียนรู้ ขอบคุณมากสำหรับสิ่งดีๆ ที่มีให้กัน