บันทึกวันจันทร์ที่ 27 กันยายน 2553
ต้นไม้ของท่านพุทธทาส
ผมนึกได้ว่า ผมเขียนถึงต้นไม้บ่อยมากในช่วงเวลาที่ผ่านมา
เพราะอากาศเป็นใจ ในการปลูกต้นไม้
ดินก็อ่อนนุ่ม เอาเสียมและจอบขุด...ไม่นานก็นำต้นไม้ลงหลุ่มได้แล้ว
และคาดว่า อากาศชุ่มชื่นอย่างนี้ ไม่ต้องถนุถนอมฟูมฟักให้มากนัก
แต่ข้อควรตระหนักสำหรับผม คือ ...
ปลูกต้นไม้หน้าฝน จะตายง่าย เพราะรากของต้นไม้จะเน่าได้ง่ายกว่าฤดูอื่น ๆ
ท่านพุทธทาส ได้บรรยายธรรม เกี่ยวกับต้นไม้ไว้หลายครั้ง
ใช้เป็นเครื่องอุปมา หรือเปรียบเทียบกับสรรพสิ่ง และโลกไว้
ยกตัวอย่าง... การเปรียบเทียบการปลูกต้นไม้ เปรียบเทียบกับ
วัยหรือช่วงอายุกับการปลูกต้นไม้ไว้อย่างน่ามหัศจรรย์
และน่าเอาไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันของผมได้
ท่านเล่าว่า...
ตามธรรมดา ของ เด็ก ย่อมคุ้นเคยกับการปลูกต้นไม้
เด็ก ๆ จะชอบต้นเทียน ปลูกต้นดาวเรือง ปลูกต้นสามเดือน
หรือคนที่กรุงเทพฯ เขาเรียกว่า "บานไม่รู้โรย".
เด็ก ๆ นี่รู้จักต้นไม้เหล่านี้ดี เพราะ เป็นต้นไม้สำหรับเด็ก
และเด็กที่ฉลาดก็ปลูกต้นไม้เหล่านี้ได้ผลดี
มีดอกสวยอวดเพื่อนได้ เรียกกันมาดู นี่เด็กๆ.
เมื่อ เด็กโตขึ้นไป จะเป็นคนรุ่น แล้ว คนรุ่นหนุ่มรุ่นสาว
จะปลูกต้นไม้ที่สูงขึ้นไปกว่านั้น เช่น ปลูกกล้วย ปลูกอ้อย
ปลูกสับประรด เป็นต้น
มันเหมาะสมแก่ความรู้ความสามารถ.
มันก็ปลูกได้ดี ซึ่งมันก็ต้องยากกว่า ที่ต้องปลูกต้นไม้เล็ก ๆ เช่น
ต้นเทียน ต้นดาวเรือง เป็นต้น.
พอ โตเป็นผู้ใหญ่เต็มที่ ก็สามารถ ที่จะปลูกต้นมะม่วง
ต้นมาก ต้นมะพร้าว ปลูกได้ดีมีผล
เพราะมันเป็นคนโตแล้ว ไม่ใช่เด็กแล้ว.
ถึง รุ่นแก่รุ่นเฒ่า ที่จิตใจสูงขึ้นไป
ก็ ปลูกต้นที่มีความหมายสูงขึ้นไป เช่น ต้นโพธิ์ ต้นไทร ต้นยูง ต้นยาง
ที่มีร่มเงา มีอะไรสูงกว่ากินตามธรรมดา.
ขอให้ดูว่า เราก็คุ้นเคยกับการปลูกต้นไม้ เพาะเลี้ยงต้นไม้
รักษาต้นไม้จนสำเร็จประโยชน์ตามวัยของเราเป็นลำดับ ๆ ไป,
มันมีความจริงของมันเฉพาะชั้นเฉพาะตอน.
ที่เขาจะเรียกกันโดยสมัยนี้ (2526) ว่า...
มีเทคนิคของมันเฉพาะขั้นเฉพาะตอน,
จะต้องมีความรู้ใช้เทนนิคเหล่านั้นให้ถูกต้อง
ให้มีผลดีเต็มที่
การปลูกต้นไม้เหล่านั้นจึงจะสำเร็จประโยชน์...
เมื่อนำถ้อยคำของท่านพุทธทาสมาวิเคราะห์
ผมทบทวนและสรุปเองได้ว่า...
เป็นเรื่องจริง เป็นทฤษฎี เป็นสัจธรรม ที่สามารถพิสูจน์ได้ตามหลักวิทยาศาสตร์
เมื่อเปรียบเทียบถ้อยคำของท่านพุทธทาสมาวิเคราะห์กับชีวิต "ปู่สอน กล้าศึก"
ผมวิเคราะห์ว่า ปู่ก็มีแนวคิด แนวปฏิบัติ ตามรอยท่านพุทธทาส
ปู่สอน อายุ 78 ปีแล้ว แต่คิดจะ ปลูกต้นที่มีความหมายสูงขึ้นไป
ตั้งแต่แต่วัยหนุ่ม (ปลูกมาตั้งแต่อายุ 40 ปี ต้นๆ )
ดังนั้น ปู่สอน จึงมีแนวคิดการปลูกต้นไม้ข้ามช่วงวัย
จึงไม่แปลกที่ปู่สอน ค้นพบคำตอบของชีวิต...ได้เร็วกว่าคนอื่น ๆ
และเมื่อเปรียบเทียบถ้อยคำของท่านพุทธทาสมาวิเคราะห์กับชีวิต "ของผมเอง"
จะพบว่า ผมปลูกต้นไม้ย้อนวัย
เพราะปีนี้ผมย่างเข้าวัย 40 ปี แล้ว
ผมยังปลูก "ผักชี" เอาไว้โรยหน้า (ตัวเองและหน่วยงาน)
เผลอ ๆ ก็มีการ "นั่งเทียน" ปลูกผักชี
โดยเฉพาะเมื่อมีการประเมินผลงาน
ในช่วงเดือนมีนาคม และเดือนนี้หล่ะครับ...กันยายน ...สิ้นปีงบประมาณ
ดังนั้น "ผมเอง" จึงมีแนวคิดการปลูกต้นไม้ย้อนช่วงวัย
จึงไม่แปลกที่ผมเอง ยังไม่สามารถค้นพบคำตอบของชีวิตได้.
เมื่อวิเคราะห์ถึงการปลูกต้นไม้ของ "เจ้าหลักเจ้านาย"
จะพบว่า..ชื่นชมกับ "ต้นผักชี" ของเหล่าลูกน้อง...
ว่า...ปลูกผักชี ได้งดงามน่ารับประทาน
และนำผักชีเหล่านั้น ...ส่งต่อเจ้าหลักเจ้านายระดับสูง ๆ ต่อไป ....
ปล. "ปู่สอน กล้าศึก" ที่เขียนไว้แล้วในบันทึกผม สามารถอ่านเพิ่มเติม
ตามบันทึกข้างล่าง
* ปู่สอน กล้าศึก ผู้ปลูกต้นไม้ในใจทุกคน
* ปู่สอน กล้าศึก ผู้ปลูกต้นไม้ในใจทุกคน (ตอน 2)
* THE MAN WHO PLANTED TREES ... ปู่สอน กล้าศึก (ตอน 3)
* ต้นอัลมอนด์ที่สนามหน้าบ้านของเธอ......... ปู่สอน กล้าศึก (ตอน 4)
* ก้อนเมฆบนต้นไม้ คำคมปู่สอน กล้าศึก (ตอน 5)
* ใบไม้วิเศษ ใบที่ 1-25 ...ปู่สอน กล้าศึก (ตอน 6)
* ใบไม้วิเศษ ใบที่ 26-50 ... ของปู่สอน กล้าศึก (ตอน 6)
* ใบไม้วิเศษ ใบที่ 51-75 ...ของปู่สอน กล้าศึก (ตอน 6)
* โอกาสของความสุข...ปู่สอน กล้าศึก ผู้ปลูกต้นไม้ในใจทุกคน (ตอน 7)
**********
ขอบคุณมากครับ..สำหรับสาระธรรมต้นไม้ของท่านอาจารย์พุทธทาส