เรื่องส่วนตัวของคนสองคนที่ กินที่ลับ ไขที่แจ้ง
"เมื่อเรียนผูก ต้องเรียนแก้" อย่าให้ผู้อื่นมาแก้
"กินที่ลับ ไขที่แจ้ง" เรื่องส่วนตัวของคนสองคน รู้ดีกันเพียงสองคน เมื่อเกิดปัญหาต้องแก้ไข คนสองคนต้องแก้ไขกันเอง "เมื่อเรียนผูก ต้องเรียนแก้" อย่าให้ผู้อื่นมาแก้ในเรื่องของคนสองคน จะยุ่ง และจะยุ่งมากขึ้นไปอีก หากคนสองคน นำความข้อมูลไปบอกคนอื่นอย่างปิดบัง ไม่ตรงข้อเท็จจริง ใครจะชี้ผิด ชี้ถูกได้ หากข้อมูลในการพิจารณาไม่ตรงตามข้อเท็จจริง
เมื่อเริ่มจุดไฟปัญหา และไฟเริ่มลามทุ่ง ก็ยากที่จะหยุดยั้งได้ง่าย ยิ่งได้ไฟกระพือโหม ก็ยิ่งลุกลามอย่างรวดเร็ว คนเกี่ยวข้องมีมากเท่าใด ก็ยิ่งขยายความออกไปเป้นไฟลามทุ่งเช่นนั้น หากคนที่เกี่ยวข้องเกิดขัดแย้งกัน มีปากเสียง วิวาทะกัน ก็จะกลายเป็นชนวน "น้ำผึ้งหยดเดียว" เหนี่ยวรั้งไม่อยู่
สังคมไทย เป็นสังคมที่อ่อนไหว เปราะบาง กับเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะกับบุคคลสาธารณะ ที่ใคร ๆ ก็อยากวิพากษ์ วิจารณ์ ไปตามพื้นฐาน ความรู้ ประสบการณ์ ของตน จนสับสนไปหมด สังคมไทยมีความขัดแย้ง แบ่งแยกกันมากว่า 3-4 ปีมานี้ บอบช้ำ เจ็บปวด ตั้งแต่ระดับมวลชนทั้งประเทศ มาจนถึงระดับภายในครอบครัว จนแทบจะแยกไม่ออกว่า เรื่องความขัดแย้งใด ควรนำมาขยายความหรือไม่ หากไม่คิด จะกลายเป็นความขัดแย้งในวงกว้างและเมื่อนั้น ผลเสียกระทบจะตามมา กลายเป็นสังคมที่ฟอนเฟะ หาความปรองดอง สมานฉันท์กันมิได้
พวกบรรดา "เชื้อไฟ" ที่มี "ปาก" เป็นเครื่องมือ มี "สื่อ" ไว้คอยโพทนา โดยอ้างว่าเป็นหน้าที่รับผิดชอบบ้าง เป็นผู้มีความเกี่ยวข้องบ้าง โหมกระพือเรื่องขัดแย้งให้กลายเป็นประเด็น ราวกับเป็นเรื่องสำคัญของชาติที่ต้องแก้ไข เพราะกระทบความเป็นอยู่ของประชาชน ซึ่งเป็นความเข้าใจผิด หรือไม่ก็อาศัยประเด็นเพื่อเอาประโยชน์ทางธุรกิจ ชื่อเสียง จากกรณี ใช้ "ปาก" และ "สื่อ"
หยุดกันบ้างเถิด กับ เรื่องส่วนตัวของคนสองคนที่ "กินที่ลับ ไขที่แจ้ง"
หมายเลขบันทึก: 398782เขียนเมื่อ 27 กันยายน 2010 12:58 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 พฤษภาคม 2012 13:07 น. () สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (1)
สวัสดีค่ะอาจารย์
แหม...สอนภาษาไทยสื่อความหมายเข้าใจตรงเป๊ะๆเลยนะคะ
ใช่ค่ะ....กินในที่ลับ ไขในที่แจ้ง
บ้านเมืองเดือดร้อนวุ่นวายเพราะคนสองคน
เกิดแต่เหตุ ก็ควรดับที่ต้นเหตุค่ะ
หยุดกันบ้างเถิด กับ เรื่องส่วนตัวของคนสองคนที่ "กินที่ลับ ไขที่แจ้ง"